อุบลราชธานี - ผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ พปช.สามารถโหนกระแสประชานิยมเข้าป้ายเป็นที่หนึ่ง ส่วน ปชป.ได้กระแสอยากเปลี่ยนโฉมหน้าการเมืองใหม่ ช่วยดึงผู้สมัครเข้ามาได้ 3 สำหรับ “เพื่อแผ่นดิน” ฝ่าวิชามารปล่อยข่าวเป็นพรรคทหารได้มา 1 ที่นั่ง
ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดอุบลราชธานี รายงานผลการนับคะแนนเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้ง 4 เขต จำนวน 11 ที่นั่ง แบบยังไม่เป็นทางการวันนี้ (24 ธ.ค.) ปรากฏผลดังนี้
เขตเลือกตั้งที่ 1 มีผู้แทนราษฎรได้ 3 คน มีประชากร 488,934 คน มีผู้มีสิทธิทั้งสิ้น 209,205 คน มีผู้มาใช้สิทธิร้อยละ 58.89 บัตรเสีย 2,024 ใบ งดออกเสียง 3,532 ใบ อันดับที่ 1.นายวรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์ พรรคพลังประชาชน หมายเลข 7 ได้ 88,255 คะแนน 2.นายวุฒิพงษ์ นามบุตร พรรคประชาธิปัตย์ หมายเลข 11 ได้ 81,403 คะแนน 3.นายศุภชัย ศรีหล้า พรรคประชาธิปัตย์ หมายเลข 10 ได้ 78,659 คะแนน และ 4.นายโกวิทย์ ธรรมานุชิต พรรคพลังประชาชน หมายเลข 8 ได้ 74,034 คะแนน
เขตเลือกตั้งที่ 2 มีผู้แทนราษฎรได้ 3 คน มีประชากร 461,936 คน มีผู้มีสิทธิทั้งสิ้น 164,242 คน มีผู้มาใช้สิทธิร้อยละ 51.37 บัตรเสีย 1,244 ใบ งดออกเสียง 1,350 ใบ อันดับที่ 1.นายสุทธิชัย จรูญเนตร พรรคพลังประชาชน หมายเลข 11 ได้ 87,581 คะแนน 2.นายรัฐกิตติ์ ผาลีพัฒน์ พรรคชาติไทย หมายเลข 19 ได้ 87,104 คะแนน 3.นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ พรรคพลังประชาชน หมายเลข 12 ได้ 85,188 คะแนน 4.นายอุดร ทองประเสริฐ พรรคเพื่อแผ่นดิน หมายเลข 13 ได้ 71,127 คะแนน
เขตเลือกตั้งที่ 3 มีผู้แทนราษฎรได้ 3 คน มีประชากร 491,044 คน มีผู้มีสิทธิทั้งสิ้น 183,939 คน มีผู้มาใช้สิทธิร้อยละ 53.78 บัตรเสีย 2,163 ใบ งดออกเสียง 1,964 ใบ อันดับที่ 1.นายศักดิ์ชัย จินตะเวช พรรคชาติไทย หมายเลข 8 ได้ 85,594 คะแนน 2.นายตุ่น จินตะเวช พรรคชาติไทย หมายเลข 7 ได้ 80,075 คะแนน 3.นายสุชาติ ตันติวณิชชานนท์ พรรคเพื่อแผ่นดิน หมายเลข 16 ได้ 64,211 คะแนน 4.นายชาตรี พิริยะกิจไพบูลย์ พรรคพลังประชาชน หมายเลข 4 ได้ 51,143 คะแนน
เขตเลือกตั้งที่ 4 มีผู้แทนราษฎรได้ 2 คน มีประชากร 341,121 คน มีผู้มีสิทธิทั้งสิ้น 138,736 คน มีผู้มาใช้สิทธิร้อยละ 57.64 บัตรเสีย 2,603 ใบ งดออกเสียง 4,461 ใบ อันดับที่ 1. นายสุพล ฟองงาม พรรคพลังประชาชน หมายเลข 1 ได้ 54,609 คะแนน 2.นายอิสสระ สมชัย พรรคประชาธิปัตย์ หมายเลข 15 ได้ 54,509 คะแนน 3.นายพู ลสวัสดิ์ โหตระไวศยะ พรรคพลังประชาชน หมายเลข 2 ได้ 49,120 คะแนน
รายงานข่าวแจ้งต่อว่า สรุปจำนวน ส.ส.11 ที่นั่งในจังหวัดอุบลราชธานี นั้น พรรคพลังประชาชนได้ 4 ที่นั่ง พรรคประชาธิปัตย์ 3 ที่นั่ง พรรคชาติไทย 3 ที่นั่ง และพรรคเพื่อแผ่นดิน 1 ที่นั่ง โดยมีเหตุการณ์พลิกโผ คือ นายศุภชัย ศรีหล้า พรรคประชาธิปัตย์ เขตเลือกตั้งที่ 1 สามารถฝ่าด่านเบียดแซงในโค้งสุดท้าย และในเขตเลือกตั้งที่ 3 นายศักดิ์ชัย จินตะเวช พรรคชาติไทย ซึ่งทำคะแนนนำโด่งเบียด นายชาตรี พิริยะกิจไพบูลย์ พรรคพลังประชาชน ที่เป็น ส.ส.เก่าและมีคะแนนนำในโค้งแรก รวมทั้งที่เขตเลือกตั้งที่ 4 ซึ่งพรรคพลังประชาชน ทำท่าจะยกทีมในการนับคะแนนเขต อ.วารินชำราบ
เมื่อผลคะแนนจาก อ.พิบูลมังสาหาร และนาเยีย เข้ามา นายอิสสระ สมชัย พรรคประชาธิปัตย์ ส.ส.รุ่นเก๋าก็มีคะแนนพุ่งพวดขึ้นมาเกือบเบียดแซงเข้าป้ายเป็นอันดับหนึ่ง โดยมีคะแนนตามนายสุพล ฟองงาม อันดับ 1 เพียง 100 คะแนนเท่านั้น
สำหรับผู้สมัครพรรคเพื่อแผ่นดิน ที่สามารถแหกด่านเข้ามาได้เพียงคนเดียว ทั้งที่แนวโน้มผู้สมัครของพรรคนี้ จะได้รับการเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 3 ที่นั่ง สาเหตุน่าเกิดจากกระแสที่ผู้สมัครพรรคพลังประชาชนปล่อยข่าวโจมตี ว่า เป็นพรรคการเมืองของทหาร และกระแสได้แรงขึ้นเมื่อมีการปราศรัยหาเสียง โดยระบุว่า พรรคเพื่อแผ่นดินกันท่าพรรคการเมืองอื่น ไม่ให้ทำกิจกรรมทางการเมืองได้อย่างเต็มที่ ทำให้เกิดกระแสต้านผู้สมัครพรรคเพื่อแผ่นดินอย่างกว้างขวาง จนเกิดผลคะแนนที่พลิกล็อกหลายเขตเลือกตั้ง โดยเขตเลือกตั้งที่ 4 มีจำนวนผู้งดออกเสียงมากที่สุดถึง 4,461 ใบ
ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดอุบลราชธานี รายงานผลการนับคะแนนเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้ง 4 เขต จำนวน 11 ที่นั่ง แบบยังไม่เป็นทางการวันนี้ (24 ธ.ค.) ปรากฏผลดังนี้
เขตเลือกตั้งที่ 1 มีผู้แทนราษฎรได้ 3 คน มีประชากร 488,934 คน มีผู้มีสิทธิทั้งสิ้น 209,205 คน มีผู้มาใช้สิทธิร้อยละ 58.89 บัตรเสีย 2,024 ใบ งดออกเสียง 3,532 ใบ อันดับที่ 1.นายวรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์ พรรคพลังประชาชน หมายเลข 7 ได้ 88,255 คะแนน 2.นายวุฒิพงษ์ นามบุตร พรรคประชาธิปัตย์ หมายเลข 11 ได้ 81,403 คะแนน 3.นายศุภชัย ศรีหล้า พรรคประชาธิปัตย์ หมายเลข 10 ได้ 78,659 คะแนน และ 4.นายโกวิทย์ ธรรมานุชิต พรรคพลังประชาชน หมายเลข 8 ได้ 74,034 คะแนน
เขตเลือกตั้งที่ 2 มีผู้แทนราษฎรได้ 3 คน มีประชากร 461,936 คน มีผู้มีสิทธิทั้งสิ้น 164,242 คน มีผู้มาใช้สิทธิร้อยละ 51.37 บัตรเสีย 1,244 ใบ งดออกเสียง 1,350 ใบ อันดับที่ 1.นายสุทธิชัย จรูญเนตร พรรคพลังประชาชน หมายเลข 11 ได้ 87,581 คะแนน 2.นายรัฐกิตติ์ ผาลีพัฒน์ พรรคชาติไทย หมายเลข 19 ได้ 87,104 คะแนน 3.นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ พรรคพลังประชาชน หมายเลข 12 ได้ 85,188 คะแนน 4.นายอุดร ทองประเสริฐ พรรคเพื่อแผ่นดิน หมายเลข 13 ได้ 71,127 คะแนน
เขตเลือกตั้งที่ 3 มีผู้แทนราษฎรได้ 3 คน มีประชากร 491,044 คน มีผู้มีสิทธิทั้งสิ้น 183,939 คน มีผู้มาใช้สิทธิร้อยละ 53.78 บัตรเสีย 2,163 ใบ งดออกเสียง 1,964 ใบ อันดับที่ 1.นายศักดิ์ชัย จินตะเวช พรรคชาติไทย หมายเลข 8 ได้ 85,594 คะแนน 2.นายตุ่น จินตะเวช พรรคชาติไทย หมายเลข 7 ได้ 80,075 คะแนน 3.นายสุชาติ ตันติวณิชชานนท์ พรรคเพื่อแผ่นดิน หมายเลข 16 ได้ 64,211 คะแนน 4.นายชาตรี พิริยะกิจไพบูลย์ พรรคพลังประชาชน หมายเลข 4 ได้ 51,143 คะแนน
เขตเลือกตั้งที่ 4 มีผู้แทนราษฎรได้ 2 คน มีประชากร 341,121 คน มีผู้มีสิทธิทั้งสิ้น 138,736 คน มีผู้มาใช้สิทธิร้อยละ 57.64 บัตรเสีย 2,603 ใบ งดออกเสียง 4,461 ใบ อันดับที่ 1. นายสุพล ฟองงาม พรรคพลังประชาชน หมายเลข 1 ได้ 54,609 คะแนน 2.นายอิสสระ สมชัย พรรคประชาธิปัตย์ หมายเลข 15 ได้ 54,509 คะแนน 3.นายพู ลสวัสดิ์ โหตระไวศยะ พรรคพลังประชาชน หมายเลข 2 ได้ 49,120 คะแนน
รายงานข่าวแจ้งต่อว่า สรุปจำนวน ส.ส.11 ที่นั่งในจังหวัดอุบลราชธานี นั้น พรรคพลังประชาชนได้ 4 ที่นั่ง พรรคประชาธิปัตย์ 3 ที่นั่ง พรรคชาติไทย 3 ที่นั่ง และพรรคเพื่อแผ่นดิน 1 ที่นั่ง โดยมีเหตุการณ์พลิกโผ คือ นายศุภชัย ศรีหล้า พรรคประชาธิปัตย์ เขตเลือกตั้งที่ 1 สามารถฝ่าด่านเบียดแซงในโค้งสุดท้าย และในเขตเลือกตั้งที่ 3 นายศักดิ์ชัย จินตะเวช พรรคชาติไทย ซึ่งทำคะแนนนำโด่งเบียด นายชาตรี พิริยะกิจไพบูลย์ พรรคพลังประชาชน ที่เป็น ส.ส.เก่าและมีคะแนนนำในโค้งแรก รวมทั้งที่เขตเลือกตั้งที่ 4 ซึ่งพรรคพลังประชาชน ทำท่าจะยกทีมในการนับคะแนนเขต อ.วารินชำราบ
เมื่อผลคะแนนจาก อ.พิบูลมังสาหาร และนาเยีย เข้ามา นายอิสสระ สมชัย พรรคประชาธิปัตย์ ส.ส.รุ่นเก๋าก็มีคะแนนพุ่งพวดขึ้นมาเกือบเบียดแซงเข้าป้ายเป็นอันดับหนึ่ง โดยมีคะแนนตามนายสุพล ฟองงาม อันดับ 1 เพียง 100 คะแนนเท่านั้น
สำหรับผู้สมัครพรรคเพื่อแผ่นดิน ที่สามารถแหกด่านเข้ามาได้เพียงคนเดียว ทั้งที่แนวโน้มผู้สมัครของพรรคนี้ จะได้รับการเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 3 ที่นั่ง สาเหตุน่าเกิดจากกระแสที่ผู้สมัครพรรคพลังประชาชนปล่อยข่าวโจมตี ว่า เป็นพรรคการเมืองของทหาร และกระแสได้แรงขึ้นเมื่อมีการปราศรัยหาเสียง โดยระบุว่า พรรคเพื่อแผ่นดินกันท่าพรรคการเมืองอื่น ไม่ให้ทำกิจกรรมทางการเมืองได้อย่างเต็มที่ ทำให้เกิดกระแสต้านผู้สมัครพรรคเพื่อแผ่นดินอย่างกว้างขวาง จนเกิดผลคะแนนที่พลิกล็อกหลายเขตเลือกตั้ง โดยเขตเลือกตั้งที่ 4 มีจำนวนผู้งดออกเสียงมากที่สุดถึง 4,461 ใบ