ศูนย์ข่าวขอนแก่น - หน่วยข่าวกรองสถานทูตสิงคโปร์ ขอดูงานเลือกตั้งที่ กกต.ขอนแก่น แต่ กกต.กลับพยายามปิดข้อมูลสื่อ อ้างเป็นเรื่องเฉพาะห้ามนักข่าวเข้าห้องประชุม พร้อมถาม “ใครเชิญทำข่าว” ด้านผู้สื่อข่าวตั้งข้อสังเกตมีอะไรอยู่เบื้องหลัง และเชื่อมโยงถึงสายสัมพันธ์ทางการเมืองกับอดีตนายกฯหรือไม่ ท้ายที่สุด กกต.ขอนแก่นยอมให้ผู้สื่อข่าวทำข่าวในห้องประชุม
วานนี้ (12 ธ.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประจำจังหวัดขอนแก่น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรอง จากสถานทูตสิงคโปร์ จำนวน 7 คน ได้ติดต่อขอเข้ารับทราบข้อมูลสถานการณ์การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ กกต.จังหวัดขอนแก่น ซึ่งมีผู้สื่อข่าวจากหลายสำนักข่าว หนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ วิทยุ สนใจรอทำข่าวดังกล่าว บริเวณหน้าสำนักงาน กกต.ขอนแก่น
กระทั่งเวลา 14.30 น.เจ้าหน้าที่สถานทูตสิงคโปร์ประจำประเทศไทย เดินทางมาถึง กกต.จังหวัดขอนแก่น และขึ้นไปบนห้องประชุมชั้น 2 กลุ่มนักข่าวได้ติดตามขึ้นไปเพื่อบันทึกภาพทำข่าว แต่ได้รับการปฏิเสธจากเจ้าหน้าที่กกต.จังหวัดขอนแก่นรายหนึ่ง และถามเจ้าหน้าที่กกต.ด้วยกันว่า “ใครเชิญมาทำข่าว” ทั้งระบุว่า เป็นเรื่องเฉพาะ ทำให้นักข่าวต้องยืนรอที่หน้าห้องประชุม
โดยผู้สื่อข่าววิพากษ์วิจารณ์ในกลุ่มว่า เรื่องที่เจ้าหน้าที่สถานทูตประเทศสิงค์โปร์เข้ามาดูงานสถานการณ์การเลือกตั้งจังหวัดขอนแก่น ไม่น่าเป็นความลับ ทำไมต้องห้ามนักข่าวเข้าบันทึกภาพ ถือเป็นการกีดกันการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของสื่อ จนเสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังไปทั่วบริเวณหน้าห้องประชุม กกต.จังหวัดขอนแก่น
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ กกต.ได้เข้ามาพูดคุยกับกลุ่มผู้สื่อข่าว และให้เวลา 5 นาทีในการบันทึกภาพ ซึ่งสื่อก็ไม่สามารถทำได้ เพราะมีเพียงภาพแต่ก็ไม่มีข้อมูล จนเวลาล่วงเลยไปมีการพูดคุยกันจนยอมให้ผู้สื่อข่าวช่างภาพเข้าทำข่าวภายในห้องประชุมได้
สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ที่สื่อมวลชนในจังหวัดขอนแก่นให้ความสนใจ เนื่องจากประเทศสิงคโปร์ขอเข้ามาดูงานการเลือกตั้งในไทย โดยนักข่าวตั้งข้อสังเกตว่าจะมีอะไรซ่อนเร้นอยู่เบื้องหลังการดูงานครั้งนี้หรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้ กลุ่มเทมาเส็ก ประเทศสิงคโปร์เข้ามาซื้อหุ้นกลุ่มชินคอร์ป รวมถึงสายสัมพันธ์กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งการห้ามผู้สื่อข่าวทำข่าวในห้องประชุมเบื้องต้น ทำให้ข้อสันนิษฐานดังกล่าวมีความเป็นไปได้
