สาวแสบควงปืนปลอมปล้นร้านแต่ถูกยิงสวนกลับสาหัส

นครปฐม – สาววัย 24 ปี คิดเป็นโจร เข้าร้านทองอ้างต้องการซื้อทอง จนได้จังหวะชักปืนออกมาปล้น แต่โดนยิงสวนกลับได้รับบาดเจ้บสาหัส ผลการสอบสวนปืนที่นำเข้าปล้นกลายเป็นปืนปลอม เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบเจ้าตัวสารภาพต้องหาเงินไปพบลูก ขณะที่เจ้าของร้านทองมือยิงโจรสาวรอมอบตัวสู้คดี

เมื่อเวลา 13.10 น.วันนี้ (3 ธ.ค.) ร.ต.ท.ธันวา สองวิหค ร้อยเวรสอบสวน สภ.โพธิ์แก้ว อ.สามพราน จ.นครปฐม รับแจ้งมีเหตุปล้นร้านทองและมีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัสที่ห้างทองอ้อมใหญ่ 1 เลขที่ 21 ม.8 ต.อ้อมใหญ่ อ.สามพราน จ.นครปฐม

เมื่อนำกำลังไปตรวจสอบที่เกิดเหตุภายในซอยข้างทางห่างจากที่พักสายตรวจประจำตำบลอ้อมใหญ่ ประมาณ 500 เมตร เจ้าหน้าที่พบเลือดอยู่ 1 กอง ทราบชื่อผู้ที่ถูกยิง คือ น.ส.รำไพ ไผ่โสภา อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 110 ม.7 ต.โพนสูง อ.สว่างดินแดน จ.สกลนคร ซึ่งถูกนำตัวส่ง รพ.ศรีวิชัย 3 ก่อนหน้า โดยมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 เข้าที่ใต้รักแร้ซ้าย 1 แผล ต้นแขนซ้าย 2 แผล ท่อนแขนซ้าย 2 แผลอาการสาหัส ต่อมาได้ถูกนำส่งไปรักษาตัวยังโรงพยาบาลมหาชัย โดยอาการล่าสุดนั้นมีเลือดออกในช่องปอด ส่วนคนยิงทราบชื่อ คือ นายกิตติ โรจนภิญญู อายุ 25 ปี ได้ยืนรอเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในที่เกิดเหตุ

สอบสวน นายกิตติ เล่าว่า ร้านทองดังกล่าวเป็นกิจการครอบครัวของตนโดยก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 11.00 น.ตนได้ยืนขายทองอยู่กับ นางนฤมล โรจนภิญญู อายุ 51 ปี มารดาตามปกติ กระทั่ง น.ส.รำไพ ได้เดินเข้ามาที่ร้านทองโดยขอซื้อสร้อยคอทองคำ แต่ได้มีการเลือกดูอยู่นานเกือบ 2 ชั่วโมง โดยบอกว่าจะเลือกดูทองก่อนจะกลับบ้านที่ต่างจังหวัด และช่วงเดียวกันได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจเข้ามาตรวจสอบตู้แดงตามปกติจากนั้นอีก 5 นาทีถัดมา คนร้ายได้เลือกทองคำแบบต่างๆ รวม 3 บาท 2 สลึง และได้นำทองทั้งหมดใส่เข้ากระเป๋าเสื้อ แต่ตนได้ทักท้วงว่ายังไม่ได้จ่ายเงิน

นายกิตติ เล่าต่อว่า เมื่อตนได้ทักท้วงไปคนร้ายกลับชักอาวุธปืนขนาด .357 มม.มาจ่อที่ตนเอง จังหวะเดียวกันตนจึงได้คว้าอาวุธปืนขนาด .38 ที่เก็บไว้ยิงสวนไป 1 นัด เพื่อป้องกันตัว แต่คนร้ายไม่ยอมหยุด และได้หันปากกระบอกปืนจ่อไปที่นางนฤมล มารดาของตนอีก จึงตัดสินใจยิงสกัดคนร้ายไปอีก 2 นัด รวมทั้งหมด 3 นัด จนคนร้ายล้มลง ก่อนจะทราบทีหลังว่าอาวุธปืนดังกล่าวเป็นปืนปลอมและได้ยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในที่เกิดเหตุ

โดยเบื้องต้นทราบว่า น.ส.รำไพ เป็นพนักงานของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ย่านกระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ซึ่งได้ให้ปากคำเบื้องต้นว่าที่ลงมือก่อเหตุเป็นเพราะต้องการเงินไปหาลูก โดยได้นัดหมายพบกันในวันที่ 10 ธันวาคม 2550 ซึ่งเป็นวันหยุด เนื่องในวันรัฐธรรมนูญ แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากคนร้ายยังมีอาการบาดเจ็บสาหัส และให้การไม่ได้มากโดยเตรียมแจ้งข้อกล่าวหาชิงทรัพย์ไว้ก่อน และจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้คอยควบคุมตัวที่ รพ.มหาชัย อย่างรัดกุม

ส่วน นายกิตติ เบื้องต้นพบว่าเป็นการยิงเพื่อป้องกันตัวตามกฎหมายของผู้ประกอบการร้านทอง โดยจะมีการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง