ศูนย์ข่าวศรีราชา - เรือหลวงจักรีนฤเบศรออกจากอู่ราชนาวีมหิดลอดุลยเดชแล้ว หลังจากเข้าซ่อมแซม 1 เดือนเต็ม นักท่องเที่ยว นักเรียน นักศึกษา ประชาชน ต่างรอคอยขึ้นชม ผู้บัญชาการกองเรือฯ สั่งจัดอุปกรณ์เตรียมรับคลื่นมหาชนโดยเร็วที่สุด
วานนี้ (30 พ.ย.) พลเรือตรีประสิทธิชัย ได้เตรียมเรือเข้าอู่แห้งราชนาวีมหิดลอดุลยเดช กรมอู่ทหารเรือ(ผอ.อรม.อร.) เพื่อลากจูงเรือหลวงจักรีนฤเบศรออกจากอู่ฯ และพลเรือตรีสรชา ศรประทุม ผู้บัญชาการกองเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ กองเรือยุทธการ (ผบ.กบฮ.กร.) ได้เดินทางมาร่วมกันอำนวยการให้กำลังประจำเรือ และเจ้าหน้าที่ประจำอู่ นำเรือหลวงจักรีนฤเบศรออก โดยให้เรือแสมสาร ซึ่งเป็นเรือลากจูง ช่วยดึงท้ายเรือออก
พลเรือตรี สรชา ศรประทุม ผู้บัญชาการกองเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ กองเรือยุทธการ ตำบลพลูตาหลวง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า วันนี้ได้มีการเตรียมการนำเรือออกจากอู่ตั้งแต่เช้าด้วยการขนสิ่งอุปกรณ์ที่นำออกมาขึ้นไปไว้ที่เดิม ซึ่งเจ้าหน้าที่ของอู่ซ่อมได้เปิดน้ำเข้าอู่ตั้งแต่เช้าเวลา 07.00 น. และน้ำเต็มอู่เมื่อเวลา 15.00 น. จึงสามารถนำเรือออกจากอู่ได้ และจะนำเรือจอดเทียบไว้ที่ท่าเทียบเรืออู่ราชนาวีมหิดลอดุลยเดชขณะหนึ่ง เพื่อจัดองค์ประกอบของเรือให้พร้อมก่อนที่จะเปิดให้นักท่องเที่ยว นักเรียน นักศึกษา และประชาชนได้ขึ้นเยี่ยมชมได้ต่อไป
“1 เดือนที่ผ่านมา ยอมรับว่าประชาชนทุกหมู่เหล่าเรียกร้อง และสอบถามตลอดเวลาว่าเรือจะออกจากอู่เมื่อใด เพราะจะได้จัดโปรแกรมมาเยี่ยมชมเรือหลวงจักรีนฤเบศร ระยะเวลาที่ผ่านมายอมรับว่าประชาชนผิดหวังเพราะไม่สามารถเยี่ยมชมเรือได้ ต้องขอเวลาอีกระยะหนึ่ง เพราะต้องมีการเตรียมการจัดเรือให้เรียบร้อย เนื่องจากขณะนำเรือเข้าซ่อมได้ถอดส่วนประกอบภายนอกเรือออก เพื่อให้เรือมีน้ำหนักน้อย สะดวกในการนำเรือเข้าซ่อมภายในอู่ เมื่อพร้อมเมื่อใดจะแจ้งให้ทราบต่อไป”
พลเรือตรีประสิทธิ์ชัย เปิดเผยต่อว่า วันนี้เมื่อเรือหลวงจักรีนฤเบศรซ่อมเสร็จ ถือว่าภารกิจของอู่แห้งแห่งนี้มีศักยภาพ สมกับที่กองทัพเรือได้จัดสร้างตามแผนพัฒนาขีดความสามารถของกองทัพจากกองทัพเรือใกล้ฝั่ง มาเป็นกองทัพเรือทะเลลึกหรือทะเลสีน้ำเงิน
กองทัพเรือได้สั่งต่อเรือขนาดใหญ่จากต่างประเทศตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2531 ถึง 2540 และได้สั่งต่อเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ขนาดใหญ่ ก็คือ เรือหลวงจักรีนฤเบศร จากประเทศสเปน และเรือหลวงสิมิลัน ซึ่งเป็นเรือส่งกำลังบำรุงขนาดใหญ่ จากสาธารณรัฐประชาชนจีน แต่ก่อนหน้านี้ขีดความสามารถของอู่ของกองทัพเรือที่มีอยู่ยังไม่สามารถรองรับการเข้าซ่อมทำ ซึ่งการที่เรือหลวงจักรีนฤเบศรเข้าอู่แห่งนี้ถือว่าเป็นความสำเร็จของกองทัพเรือ