นครปฐม - ตำรวจภาค 7 รวบแล้วหนุ่มวัย 18 มือปาก้อนหินใส่รถ จนเด็กวัย 13 ปี ได้รับบาดเจ็บ สารภาพหน้าตาเฉยทำคนเดียว หลังจากแค้นแฟนสาวไม่ไปลอยกระทงด้วย คว้าก้อนหินหวังปาบ้านแฟน แต่เปลี่ยนใจกลับโยนก้อนหินทิ้ง แต่พลาดไปโดนรถ ตำรวจดำเนินคดีในข้อหาพยามยามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และทำให้เสียทรัพย์
วันนี้ (28 พ.ย.) เวลา 18.00 น.พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.ภ.7 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นครชัยศรี ได้ร่วมกันแถลงการณ์จับกุม นายรังสรรค์ หรือ ไผ่ ชำนาญการ อายุ 18 ปี บ้านเลขที่ 4/5 ม.3 ต.ขุนแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ผู้ต้องหาตามหมายจับกุมของศาลจังหวัดนครปฐม เลขที่ จ 1187/50 ลงวันที่ 28 พ.ย.2550 ในข้อหาพยามยามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และทำให้เสียทรัพย์
พล.ต.ท.วรพงษ์ เปิดเผยว่า การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2550 เวลาประมาณ 00.45 น.ขณะที่ นายหน่อย พรหมชนะ พร้อมครอบครัวได้ขับขี่รถยนต์ทะเบียน ฐธ 5421 กทม กลับมาจากเที่ยวงานพระราชวังสนามจันทร์ อ.เมือง จ.นครปฐม มาถึงที่บริเวณทางแยกเข้าสถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์ ถ.สายปิ่นเกล้า-นครชัยศรี ทิศทางเข้ากรุงเทพฯ ได้มีคนร้ายใช้ก้อนหินขว้างมาถูกกระจกรถยนต์คันดังกล่าวทางด้านซ้าย จนแตกและก้อนหินได้ทะลุเข้าไปถูก ด.ช.วีระยุทธ หรือ เอ็ม ไหลอุดมสิน อายุ 13 ปี ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณใบหน้า และเข้ารับการรักษาตัวที่ รพ.ศาลายา
จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้จัดชุดสืบสวนหาข่าวในพื้นที่ใกล้เคียงที่เกิดเหตุอย่างละเอียด จากข้อมูลท้องถิ่นของ สภ., บุคคลกลุ่มเสี่ยง และกลุ่มที่มีพฤติการณ์ใกล้เคียงกับเหตุการณ์ดังกล่าวตลอดจนประสานกับผู้นำท้องถิ่นอย่างใกล้ชิด และได้เริ่มทำการเฝ้าติดตามพฤติการณ์กลุ่มดังกล่าวต่อมาได้สืบสวนทราบว่า นายรังสรรค์ หรือ ไผ่ ชำนาญการ ผู้ต้องหาในคดีนี้เป็นผู้ที่มีพฤติการณ์น่าสงสัยมากที่สุด จึงได้เชิญตัวมายัง สภ.นครชัยศรี และ นายรังสรรค์ ให้การยอมรับกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้นำท้องถิ่นว่าเป็นผู้ลงมือใช้ก้อนหินขว้างปารถคันที่เกิดเหตุจริงแต่ไม่ได้เจตนา
โดย นายรังสรรค์ ให้การสารภาพว่า เนื่องจากในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2550 เวลาประมาณ 20.00 น.ผู้ต้องหาได้ซื้อเบียร์มาดื่มจำนวน 2 ขวด จนกระทั่งเวลาประมาณ 23.30 น.เศษ ผู้ต้องหาได้ขับขี่รถ จยย.คันทะเบียน ขคธ -780 นฐ มาหาแฟนสาวที่บ้านพักบริเวณหมู่บ้านร่มเย็น พร้อมกับชักชวนออกไปเที่ยว แต่ถูกแฟนสาวปฏิเสธ จึงเกิดโทสะและขับขี่รถ จยย.ออกมา และได้เก็บก้อนหินบริเวณทางเข้าหมู่บ้านติดมือมาโดยเจตนาจะไปขว้างใส่บ้านแฟนสาว แต่ได้เปลี่ยนใจ และขณะขับขี่รถ จยย.จะกลับบ้านพัก ผ่านมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุได้โยนก้อนหินทิ้งด้วยมือซ้ายไปข้างหลังในทิศทางเข้าถนน แต่ก้อนหินดังกล่าวไปถูกรถยนต์ของนายหน่อย แล้วเกิดเสียงดัง จึงหันไปดู แล้วรีบขับขี่รถหลบหนีกลับบ้านพักไปก่อนจะมาถูกจับกุมในที่สุด
หลังการแถลงข่าว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการจัดให้ นายรังสรรค์ หรือ ไผ่ ได้เข้าพูดคุย โดยผู้ต้องหานั้นได้แสดงความสำนึกผิดและได้ก้มลงกราบเท้าของนางแจ๋ว พรหมชนะ มารดาของน้องเอ็ม เพื่อขอโทษและได้นำไปทำแผนชี้จุดที่เกิดเหตุ บนถนนบรมราชชนนี กม.30/100 หน้าปั๊มคาลเท็กซ์ ซึ่งมีประชาชนได้หันมาให้ความสนใจมาดูการทำแผนเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ พล.ต.ท.วรพงษ์ ได้ออกมายืนยันให้ความมั่นใจกับประชาชนและนักท่องเที่ยวที่จะมาท่องเที่ยวในจังหวัดนครปฐม ว่า ไม่มีกลุ่มคนร้ายแก๊งปาหินในพื้นที่แน่นอน และจะมีมาตรการละลายกลุ่มวัยรุ่นที่รวมตัวดื่มสุรา หรือของมึนเมา เพื่อไม่ให้มีการกระทำก่อกวนหรือสร้างปัญหาในพื้นที่อย่างเด็ดขาด
ส่วนช่วงเช้าเวลา 10.00 น.นายขจรศักดิ์ สิงโตกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม พร้อมด้วย นายหัสนัย จิตอารีย์ นายอำเภอพุทธมณฑล ได้เดินทางเข้าเยี่ยมอาการของ ด.ช.วีระยุทธ ไหลอุดมศิลป์ หรือ น้องเอ็ม อายุ 13 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31/64 ซอยจรัญวิลล่า 3 แขวงภาษีเจริญ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ ที่ถูกคนร้ายใช้ก้อนหินปาใส่กระจกรถจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งนอนรักษาตัวอยู่ที่เตียง 1208-3 ห้อง 1208 ตึกผู้ป่วยใน โรงพยาบาลศาลา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม
นางแจ๋ว พรหมชนะ อายุ 45 ปี มารดาของน้องเอ็ม บอกว่า ตอนนี้อาการโดยรวมของน้องเอ็ม ดีขึ้นจากวันแรก และได้รับกำลังใจจากหลายส่วน โดยเฉพาะสื่อที่นำเสนอข่าวในการถูกกระทำของบุตรชาย ซึ่งส่วนตัวอยากให้คนร้ายเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและไม่ติดใจเอาความกับคนร้าย และไม่ทราบว่าคนร้ายก่อเหตุเพราะอะไร ซึ่งบุตรชายของตนเองนั่งอยู่เบาะหลัง ยังถูกก้อนหินเข้าไปเต็มใบหน้า
ส่วนตอนนี้เรื่องของค่ารักษาพยาบาลก็มีบัตรประกันสุขภาพของน้องเอ็ม รวมถึงประกันอุบัติเหตุของโรงเรียนวัดปากน้ำ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นโรงเรียนของน้องเอ็มเข้ามาช่วยดูแลอยู่ ส่วนในกรณีของการช่วยเหลือค่ารักษาตัวของ พ.ร.บ.รถยนต์นั้น ตอนนี้ยังติดปัญหาเนื่องจาก นายหน่อย พงษ์ชนะ น้องชายของตนเอง ซึ่งเป็นเจ้าของรถยนต์มิตซูบิชิ หมายเลขทะเบียน ฐธ 5421 กทม.นั้นขาดการต่อ พ.ร.บ.จึงยังไม่ทราบว่าจะได้รับเงินช่วยเหลือหรือไม่
ส่วน นายแพทย์จรัสพงษ์ ทังสุบุตร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศาลายา ซึ่งเป็นแพทย์ผู้รักษาน้องเอ็ม บอกว่า อาการเบื้องต้นในวันแรกของน้องเอ็ม พบว่า มีบาดแผลที่ศรีษะคิ้วแตก ปากและเหงือกฉีก ฟันหัก 4 ซี่ ซึ่งถึงวันนี้เหลือแต่เพียงบาดแผลภายนอกเท่านั้น ซึ่งที่ดวงตามีอาการบวมก็ไม่น่าจะมีอาการข้างเคียงใดๆ เพิ่มเติม
ส่วนสมองเราได้ทำการตรวจสอย่างละเอียด พบว่า ไม่ได้รับความกระทบกระเทือน ซึ่งในส่วนของการดูแลด้านสภาพจิตใจ พบว่า น้องเอ็มมีอาการตกใจและวิตกกังวลในเรื่องของบาดแผลบนใบหน้า แต่ก็ไม่น่าห่วง เพราะสามามารถใส่ฟันปลอมทดแทนได้