ศูนย์ข่าวศรีราชา - เด็กนักเรียนหญิง ป.2 อาศัยป่าช้าวัดช่องลม ติดกำแพงคฤหาสถ์ 300 ล้าน ของเจ้าสัว"สหฟาร์ม" เป็นที่คุ้มหัวมานานกว่า 10 ปี ด้าน'รองนายกเมืองพัทยา' รุดให้ความช่วยเหลือเสนอเงินกองทุนเพื่อการศึกษาภาคบังคับ 9 ปี พร้อมหาบ้านพักใหม่ให้
จากกรณีที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบ้านสุขาวดี ได้พบสองพ่อลูกยึดอาชีพเก็บของเก่าขาย โดยมีเด็กหญิง สโรชา ชมภู หรือน้องทราย อายุ 11 ขวบ นักเรียนชั้นประถมปีที่ 2/1 โรงเรียนเมืองพัทยา 2 ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี และ นายทองเปลว ชมภู อายุ 36 ปี อาชีพตระเวนเก็บของเก่าขายเพื่อเลี้ยงและส่งลูกเรียน ปลูกกระต๊อบเล็ก ๆ อยู่ในพื้นที่ป่าช้าวัดช่องลม ติดกับกำแพงบ้านสุขาวดีราคา 300 ล้านบาท ของดร.ปัญญา โชติเทวัญ ประธานกรรมการ บริษัทสหฟาร์ม จำกัด มานานกว่า 10 ปี
วันนี้( 24 พ.ย.50) นายเกษม ฉิมจิ๋ว ผู้อำนวยการโรงเรียนเมืองพัทยา 2 นางพรสุดา แย้มเกสร ครูประจำชั้น ห้อง ป.2/1 ได้มาตรวจสอบข้อเท็จจริงที่บ้านของเด็กในป่าช้า และยอมรับว่าพึ่งได้รู้ว่ามีนักเรียนในความรับผิดชอบต้องมีชีวิตอย่างรันทดที่สุดเพราะ เด็กหญิง สโรชา หรือน้องทราย ได้เกิดอาการปวดหัวแล้วร้องไห้อยู่ตลาดเวลาจึงได้สอบถามว่าเป็นอะไร ก็ได้รับคำตอบว่าปวดหัวและเป็นห่วงพ่อที่ไม่ได้กินข้าวมาหลายมื้อ เนื่องจากไม่มีเงินซื้อ จึงได้พามาส่งกลับบ้านพบว่าน้องทรายใช้ชีวิตอยู่ในป่าช้า ที่ผ่านมาน้องทรายตอบแต่เพียงว่าบ้านอยู่หลังวัดโดยไม่มีใครรู้เลยว่ามาอยู่ในป่าช้าตั้งแต่ยังตัวเล็กๆ และพึ่งได้มีโอกาสเข้าเรียนชั้นประถมปีที่ 1 เมื่อตอนอายุ 10 ขวบ
ต่อมา นายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา ได้พาเจ้าหน้าที่เทศกิจ เจ้าหน้าที่กองสวัสดิการและสังคม รุดมาตรวจสอบที่บ้านหลังดังกล่าวภายในป่าช้า ถึงกับตะลึงเพราะไม่คิดว่าในเมืองพัทยายังมีเด็กยากจนที่ตกสำรวจอยู่ในสภาพที่น่ารันทดที่สุดเท่าที่ได้พบเห็น เพราะสถานที่แห่งนี้เป็นป่าช้ามีเหล่ามิจฉาชีพเข้ามามั่วสุมในป่านี้เป็นประจำ เบื้องต้นได้มอบเงิน เครื่องอุปโภค บริโภค และให้ทุนการศึกษาจากศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชและทุนเจ้าพ่อเกศงาม ตามโครงการกองทุน "เพื่อการศึกษาภาคบังคับ 9 ปี"ให้กับเด็กหญิง สโรชา หรือน้องทราย และจะดำเนินการหาอาชีพให้พ่อของเด็กทำอย่างยั่งยืน
นายรณกิจ กล่าวว่า เด็กผู้หญิงเริ่มเจริญเติบโตขึ้นทุกวันถ้าขืนปล่อยให้ใช้ชีวิตอย่างนี้จะอันตรายมาก ขณะนี้ได้ติดต่อมูลนิธิมหาไถ่ เพื่อช่วยเหลือนำเด็กไปเลี้ยงไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัย จนกว่าพ่อจะมีงานทำที่แน่นอนสามารถดูแลลูกได้อย่างมีประสิทธิภาพ และขณะนี้มีหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ภาคธุรกิจที่ได้ทราบข่าว โดยเฉพาะ นายนิรันดร์ วัฒนศาสตร์สาทร นายกเมืองพัทยา นายอิทธิพล คุณปลื้ม ประธานที่ปรึกษานายกเมืองพัทยา และกลุ่มรักษ์เมืองพัทยา จะเข้ามาให้การช่วยเหลือพ่อ และน้องทรายให้มีชีวิตที่ดีขึ้นกว่านี้อย่างแน่นอน
ส่วนทางด้าน นายเกษม ฉิมจิ๋ว ผู้อำนวยการโรงเรียนเปิดเผยว่าสำหรับ เด็กหญิง สโรชา เป็นเด็กเรียนดี อดทน ขยัน มีความประพฤติดี ทางโรงเรียนได้มอบทุนการศึกษาให้ และได้เปิดบัญชีธนาคารออมสิน สาขาบางละมุง จังหวัดชลบุรี ประเภทเผื่อเรียก ในนามของ เด็กหญิง สโรชา ชมภู เลขบัญชี 03-2105-20-112608-2 ซึ่งทางคณะครูทุกคนดีใจที่จะมีผู้ใจบุญได้ร่วมกันช่วยเหลือเด็กให้มีการศึกษา และมีอนาคตที่สดใจ เป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติในอนาคต ซึ่งขณะที่เด็กคนนี้ยังเรียนในโรงเรียนนี้ก็จะให้การดูแล ช่วยเหลืออย่างดีที่สุด เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้เด็กที่ขาดความสมดุลในชีวิตอีกด้วย
