xs
xsm
sm
md
lg

โจรพันธุ์ใหม่ตระเวนสั่งเป๊ปซี่ใส่น้ำแข็ง - เจ้าของร้านเผลอฉกทรัพย์เดือดร้อนทั่วสัตหีบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา - ระวังโจรพันธุ์ใหม่ใส่เสื้อคลุมฉายเดี่ยวตระเวนสั่งแต่เป๊ปซี่ใส่ถุงผสมน้ำแข็งตามร้านค้าขายของชำต่าง ๆ ร้านสะดวกซื้อ ในพื้นที่อำเภอสัตหีบ เจ้าข้องร้านเผลอ ขโมยทรัพย์สินหนีลอยนวล

วันนี้ (22 พ.ย.50) นายไชยา รุ่งแหยม อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 62/50 หมู่ที่ 6 ซอยบ่อนไก่ ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เจ้าของร้านขายปลีกและส่ง บุหรี สุรา น้ำขวด ฯลฯ ได้ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวว่า ขณะนี้มีโจรพันธุ์ใหม่ ใช่เล่ห์กลหลายรูปแบบเข้ามาลักทรัพย์ในร้านค้าในพื้นที่สัตหีบ

โดยเฉพาะร้านค้าหลายสิบร้านที่อยู่ในซอยบ่อนไก่ ตลอด 2 ข้างทาง โดนลักทรัพย์จากคนร้ายคนเดียวกัน และพฤติกรรมลักษณะเดียวกัน ก็คือ เมื่อเห็นว่าปลอดลูกค้าภายในร้านก็จะเดินก็จะเดินเข้าไปสั่งน้ำอัดลมยี่ห้อเป๊ปซี่ และเน้นเฉพาะขวดที่ไม่ได้แช่ตู้เย็น 1 ขวด ให้เจ้าของร้านใส่ถุงพลาสติก และใส่น้ำแข็งก้อน พร้อมหลอดดูดมาด้วย และใช้ช่วงโอกาสที่แม่ค้า พ่อค้าก้มหรือเข้าไปเอาก้อนน้ำแข็งที่แช่ไว้ในตู้แช่ หยิบทรัพย์สิน เงินสดในลิ้นชักโต๊ะ บัตรเติมเงินโทรศัพท์ บุหรี่ และสินค้าชิ้นเล็กชิ้นน้อยใส่เข้าในเสื้อคลุมกว่าเจ้าของร้านจะรู้ก็หายตัวไปแล้ว

จากการสอบถามนางเพ็ญนภา สุวรรณประภา อายุ 28 ปี เจ้าของร้านค้าส่งของชำขายปลีกและขายส่ง ชื่อร้านเบ๊นซ์ ในซอยบ่อนไก่ ทราบว่า เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาได้มี ผู้ชายรูปร่างท้วม ผิวดำแดง ตัดผมรากไทร ขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นเวฟ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 236 ชลบุรี จำหมวดอักษรไม่ได้ มาจอดเยื้องกันหน้าร้านและได้เดินเข้ามาสั่งเป๊ปซี่ไม่แช่เย็น 1 ขวด ให้ใส่ถุงพลาสติกและน้ำแข็งก้อนให้ด้วย ซึ่งได้เอาตู้แช่น้ำแข็งไว้ข้างร้าน จึงต้องเดินไปหยิบน้ำแข็ง ในช่วงดังกล่าวชายคนนี้ได้หยิบบุหรี่ที่จัดเตรียมไว้ส่งให้ลูกค้าหน้าร้านหายไป 2 หีบ ราคา 2,000 บาท

ด้านนางสาวอังคาร อานามนารถ อายุ 30 ปี เจ้าของร้านสะดวกซื้อ กล่าวว่า ได้ยินเสียงลือจากร้านค้าในซอยบ่อนไก่จำนวนหลายร้านแล้วว่า ให้ระวังคนร้ายที่มีพฤติกรรมเข้ามาซื้อเป๊ปซี่ แต่ก็ลืม จนเมื่อวานนี้ได้มีชายลักษณะเดียวกันเข้ามาขอซื้อเป๊ปซี่ใส่ถุงใส่น้ำแข็งหลอด จึงได้เข้าไปหลังร้านหยิบน้ำแข็ง พอออกมาจากหลังร้าน ชายคนสั่งเป๊ปซี่ก็หายออกไปจากร้าน จึงได้ตรวจสอบที่เก็บเงินปรากฏว่าเงินได้หายไปจำนวน 2,000 บาท
กำลังโหลดความคิดเห็น