จังหวัดฉะเชิงเทราเตรียมจัดงาน “มหกรรมปั้นทรายโลก” ครั้งแรกในเอเชียอาคเนย์

ศูนย์ข่าวศรีราชา-จังหวัดฉะเชิงเทราเตรียมจัดงาน “มหกรรมปั้นทรายโลก” ครั้งแรกในประเทศไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยทีมปั้นทรายมือระดับโลกกว่า 70 ชีวิต เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมายุ 80 พรรษาในปีนี้

นายอานนท์ พรหมนารท ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา เผยว่า ทางจังหวัดได้ ได้ร่วมกับ บริษัท เอ็ดดูเทนเม้นท์ แพลนเน็ท จำกัด การจัดงาน “มหกรรมปั้นทรายโลก” ซึ่งเป็นสุดยอดประติมากรรมปั้นทรายในร่มที่ใหญ่ที่สุดในโลก เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมายุ 80 พรรษาอย่างยิ่งใหญ่อลังการ และถือเป็นครั้งแรกในประเทศไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีทีมปั้นทรายมือระดับโลกกว่า 70 ชีวิต ซึ่งจะเริ่มมีการจัดขึ้นในวันที่ 28 พ.ย.50 เป็นต้นไป และมีกำหนดการจัดแสดงอย่างน้อยเป็นเวลา 4 เดือน

การจัดแสดงประติมากรรมทรายในร่มที่ใหญ่ที่สุดในโลกครั้งนี้ มีนักปั้นทรายมืออาชีพ ระดับโลกกว่า 70 ชีวิต จากฮอลแลนด์ เบลเยี่ยม เชโกสโลวาเกีย ไอร์แลนด์ สหรัฐอเมริกา และไทย ที่จะมาร่วมผนึกกำลังสร้างประติมากรรมทรายใน 3 โซน ประกอบไปด้วย โซนแรก ประติมากรรมทรายที่นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับพระราชประวัติ และพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

สถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อในเมืองไทย ได้แก่ พระนารายณ์ทรงครุฑ ล้อมรอบด้วยทวยเทพ กังหันชัยพัฒนา กำแพงวัดพระแก้วและสระบัว เรือไมโครมด เขื่อนภูมิพลและโครงการฝนหลวง วงดนตรีแจ๊ส สวนแม่ฟ้าหลวงและพระตำหนักดอยตุง โครงการหลวง โดยเป็นฝีมือการปั้นของช่างปั้นทุกประเทศที่เข้าร่วมในงานมหกรรมครั้งนี้ รวม 8 รูป

โซนที่ 2 เป็นการนำเสนอประติมากรรมทรายในเต็นท์มืดด้วยระบบแสง สี เสียง เรื่องราวประวัติศาสตร์ไทย ประกอบไปด้วยประติมากรรมทราย 11 รูปหลักได้แก่ ยักษ์ 2 ตน และวัดพระแก้ว วัดโสธรวรารามวรวิหาร พระเครื่องหลวงปู่ทวดวัดช้างไห้ และราหูอมจันทร์ สมเด็จพระนเรศวรกระทำยุทธหัตถี นางเงือก กินนรี หนุมาน สุดสาคร พระอภัยมณี และสุนทรภู่ ชีเปลือย และผีเสื้อสมุทร

โซนที่ 3 ประติมากรรมทรายที่นำเสนอสถาปัตยกรรมนานาชาติ ซึ่งมีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักทั่วโลกใน 13 ประเทศ ประกอบด้วย ประตูแบรนแดนเบิร์ก และผู้หญิงเสิร์ฟเบียร์ ประเทศเยอรมัน, หอไอเฟิล และนักวาดภาพชาวฝรั่งเศส ประเทศฝรั่งเศส, ทหารองครักษ์และหอนาฬิกาบิ๊กเบนประเทศอังกฤษ, รูปปั้นเทพีเสรีภาพและวิวเมืองแมนฮัตตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา

ผู้หญิงกับชีส รองเท้าไม้ ภาพวาดแวนโก๊ะและกังหันลม ประเทศเนเธอร์แลนด์,
โคลิเซียมและนักสู้เสือ ประเทศอิตาลี, นักเต้นฟลามิงโกและนักสู้วัวกระทิงประเทศสเปน,ภูเขาไฟฟูจิ ประตูญี่ปุ่นและเกอิชา ประเทศญี่ปุ่น, บ้านโบราณและรูปปั้นเด็กฉี่ ประเทศเบลเยียม, จิงโจ้ หมีโคลา และโรงละครโอเปร่าประเทศออสเตรเลีย, โบสถ์เซนต์นิโคลัส ประเทศรัสเซีย, พิระมิดกับสฟิงซ์ และสุสานตุตันคาเมน ประเทศอียิปต์, กำแพงเมืองจีน มังกรและรูปปั้นหินกองทัพราชวงศ์ชิง ประเทศจีน

สำหรับสถานที่จัดแสดงบนพื้นที่กว่า 12 ไร่ ตั้งอยู่ห่างจากวัดโสธรวรารามวรวิหาร ประมาณ 800 เมตร ติดด้านหลังห้างคาร์ฟู จังหวัดฉะเชิงเทรา รวมผลงานกว่า 80 รูป เปิดให้เข้าชมวันธรรมดา ตั้งแต่เวลา10.00 – 18.00 น. ส่วนในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และวันนักขัตฤกษ์ เปิดเวลา 09.00-20.00 น. นอกจากผู้สนใจจะได้เข้าชมประติมากรรมทรายแล้ว ในบริเวณงานได้จัดให้มีเวทีการปั้นทรายสำหรับเด็ก เวทีการแสดง ซุ้มเกม ซุ้มถ่ายภาพ ร้านจำหน่ายสินค้าของที่ระลึก อาหารและเครื่องดื่ม โดยเสียค่าบัตรผ่านประตู ผู้ใหญ่ 80 บาท เด็ก 40 บาท หากสนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.thaisandcity.com

ในการจัดงานครั้งนี้ นายสมชาย กิติพราภรณ์ ผู้บริหาร บริษัท เอ็ดดูเทนเม้นท์ เพลนเน็ท จำกัด กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้เน้นความยิ่งใหญ่อลังการในการเนรมิตเม็ดทรายให้เป็นประติมากรรมชั้นเยี่ยมเพื่อนำเสนอสู่สายตาชาวโลกในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีพระชนมายุ 80 พรรษาในปีนี้ โดยบริษัทใช้เงินลงทุนกว่า 40 ล้านบาท ในการจัดมหกรรมปั้นทรายนานาชาติขึ้นครั้งนี้ ซึ่งคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และประเทศในแถบเอเชีย ยุโรป และอเมริกา สนใจเข้ามาชมจำนวนมาก

การจัดมหกรรมครั้งนี้ทีมปั้นทรายจากทั่วโลก เริ่มก่อสร้างประติมากรรมรูปทรงต่างๆ ตั้งแต่วันที่ 28 กันยายนที่ผ่านมา และคาดว่าจะแล้วเสร็จในวันที่ 13 พฤศจิกายน เพื่อเปิดให้เข้าชมได้ตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป โดยใช้ทรายกว่า 40,000 ตัน ในการก่อสร้างประติมากรรมรวม 80 ชิ้น ทีมนักปั้นทราย ที่เข้าร่วมในครั้งนี้

นอกจากจะมีนักปั้นทรายจากทั่วโลกเดินทางเข้ามาแล้ว ยังมีทีมปั้นทรายตัวแทนประเทศไทยอีก 5 ทีม โดยทีมที่ 1 นำโดยนายชนาธิป ชื่นบำรุง อาจารย์พิเศษในภาควิชาศิลปกรรม
มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ทีมที่ 2 นำโดยนายไพบูลย์ พันธุ์ไชยา แชมป์แกะสลักประเทศไทย 3 ปีซ้อน แชมป์แกะสลักน้ำแข็งที่ประเทศสิงคโปร์ ฯลฯ

ทีมที่ 3 นำโดยนายวสันต์ นันทปรีชา ช่างปั้นต้นแบบเซรามิก และผู้ทำซุ้มเทิดพระเกียรติงานมหามงคล 80 พรรษาจังหวัดเชียงใหม่ ฯลฯ ทีมที่ 4 นำโดยนายประกอบ คำหล้า ช่างปั้นหุ่นขี้ผึ้งต้นแบบสมเด็จพระนเรศวรทรงม้า ทีมที่ 5 นำโดย นายชนะ เยรัมย์ แชมป์ประเภทลายเส้นระดับประเทศ และช่างแกะสลักน้ำแข็งและประติมากรรมช็อกโกแลต ซึ่งตัวแทนประเทศไทยทุกคน ล้วนมีประสบการณ์และมีความชำนาญเฉพาะด้าน ถือเป็นความภาคภูมิใจ ที่ได้มีส่วนในการเข้าร่วมงานระดับนานาชาติในครั้งนี้

มหกรรมปั้นทรายระดับโลกนี้ถือกำเนิดขึ้นเมื่อ 14 ปีก่อนในแถบประเทศยุโรป
ความงดงามยิ่งใหญ่ในการก่อสร้างประติมากรรมทราย สร้างความประทับใจให้กับผู้พบเห็นจนทำให้เกิดการจัดงานต่อเนื่องไปในหลายประเทศทั้ง ฝรั่งเศส เบลเยียม ฮอลแลนด์ เยอรมนี อังกฤษ และเดนมาร์ก