กาญจนบุรี – ชาวบ้าน 151 คน เหยื่อสารพิษตะกั่วคลิตี้ ยื่นฟ้องแพ่งต่อศาลจังหวัดกาญจนบุรี เรียกค่าเสียหายกว่า 1,000 ล้านบาทต่อบริษัท ตะกั่วคอนเซนเตรทส์ (ประเทศไทย) จำกัด และกรรมการบริหารในข้อหาละเมิดตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 กรณีปล่อยสารพิษลงสู่ลำน้ำสาธารณะ ทำให้ชาวบ้านเจ็บป่วย บางรายมีสภาพร่างกายผิดปกติ และสัตว์เลี้ยงตายไปจำนวนมาก
วันนี้ (19 ต.ค.) เวลา 13.00 น.นายสุรพงษ์ กองจันทึก ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาและพัฒนกะเหรี่ยง พร้อมคณะทำงานของสภาทนายความ ชมรมทนายความจังหวัดกาญจนบุรี ได้นำชาวบ้านจากบ้านคลิตี้ล่างหมู่ 4 ต.ชะแล อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี จำนวน 151 คน เดินทางมาที่ศาลจังหวัดกาญจนบุรี ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เพื่อร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้องคดีแพ่งต่อบริษัท ตะกั่วคอนเซนเตรทส์ (ประเทศไทย) จำกัด และกรรมการบริหารในข้อหาละเมิดตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535
โดยเรียกร้องให้โรงแต่งแร่ตะกั่วคลิตี้ รับผิดชอบในการกระทำที่ละเมิดต่อผู้เสียหายทั้ง 151 คน ทำให้เกิดความเสียหายแก่ชีวิตสุขภาพอนามัย ทำให้ชาวบ้านได้รับสารพิษตะกั่วสะสมในร่างกายสัตว์เลี้ยงตายหลังจากดื่มน้ำในลำห้วย และตายด้วยอาการผิดปกติ รวมทั้งความเสียหายที่เกิดแก่ลำห้วยของหมู่บ้านอันเป็นอู่ข้าวอู่น้ำของชาวบ้าน ซึ่งเมื่อเกิดการปนเปื้อนสารตะกั่วก็ยากแก่การฟื้นฟูตัวตามธรรมชาติโดยคิดเป็นค่าเสียหายเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 1,041,952,000 บาท (หนึ่งพันสี่สิบเอ็ดล้านบาทเก้าแสนห้าหมื่นสองพันบาทถ้วน)
เมื่อคณะเหยื่อตะกั่วคลิตี้เดินทางถึงศาลจังหวัดกาญจนบุรี นางภินันท์ โชติรสเศรณี ประธานกลุ่มอนุรักษ์กาญจน์ พร้อมกลุ่มสตรีกาญจนบุรี ได้เดินทางมารอรับเพื่อให้กำลังใจแก่ชาวบ้านทั้งหมดโดยชาวบ้านคลิตี้มีทั้งผู้ใหญ่และเด็กที่ลงชื่อฟ้องเรียกค่าเสียหายในครั้งนี้
เวลา 13.30 น.คณะทนายความและชาวบ้านคลิตี้ได้เดินทางไปที่ห้องยื่นฟ้อง และขอสู้คดีแบบอนาถา ซึ่งศาลได้ประทับรับฟ้องในคดีหมายเลขคดี 2659/2550 และผู้พิพากษาศาลจังหวัดกาญจนบุรีได้นั่งบัลลังก์พิจารณารับคำร้องยื่นฟ้องคดีอนาถาโดยผู้พิพากษาได้มีความเห็นในเบื้องต้นให้นำคดีไต่สวนแบบอนาถา โดยให้โจทก์ทั้ง 151 คน กล่าวคำสาบานว่า เป็นผู้อนาถาอย่างแท้จริง และให้ส่งคดีเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยระหว่างคู่ความก่อนจากนั้นจึงดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป
หลังจากนั้น นายสุรพงษ์ กองจันทึก ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาและพัฒนากะเหรี่ยง ได้เปิดเผยเกี่ยวกับคดีนี้ ว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์สารพิษตะกั่วจากโรงแต่งแร่ที่ก่อผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านคลิตี้ล่าง ซึ่งชาวบ้านได้เข้าสู่กระบวนการเรียกร้องสิทธิตามกฎหมายที่ถูกละเมิดซึ่งคดีแรกชาวบ้าน 8 คนได้รับการตัดสินพิพากษาจากศาลชั้นต้นให้มีการชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 4 ล้านกว่าบาท
แต่ในวันนี้ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจำนวน 151 คน ได้ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายในครั้งนี้เป็นจำนวน 1,041,952,000 บาท ซึ่งชาวบ้านทุกคนต่างใช้สิทธิในการต่อสู้ตามกฎหมายในครั้งนี้ โดยความช่วยเหลือด้านกฎหมายจากสภาทนายความที่ส่งคณะทำงานมาช่วยให้คำปรึกษาด้านกฎหมายในส่วนของการต่อสู้ของชาวบ้านในการปกป้องสิทธิในครั้งนี้เป็นกระบวนการต่อสู้ตามสิทธิที่ถูกละเมิดในส่วนคดีที่เกี่ยวข้องที่สำคัญอีกคดีหนึ่งก็คือเมื่อต้นปี 2549 ที่ผ่านมา
ชาวบ้านคลิตี้ล่าง จำนวน 22 คน ได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลางให้กรมควบคุมมลพิษปฏิบัติหน้าที่แก้ไขปัญหาให้ชาวบ้านตามอำนาจหน้าที่กฎหมายกำหนดอย่างเคร่งครัด ซึ่งหากศาลปกครองกลางมีคำวินิจฉัยพิพากษาออกมาอย่างไรก็จะส่งต่อการแก้ปัญหาพิษจากสารตะกั่วที่บ้านคลิตี้ล่างในอนาคตอย่างแท้จริง