นครปฐม – ฝ่ายปกครองนครปฐม ตำรวจทางหลวง และเจ้าหน้าที่ทรัพยากรป่าไม้ฯ นำกำลังจับไม้พะยุงเถื่อนกว่า 400 ท่อน มูลค่ากว่า 40 ล้านบาท
วันนี้ (19 ต.ค.) เวลา 13.00 น.นายชนินทร์ บัวประเสริฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม และนายโชคชัย เดชอมรธัญ นายอำเภอเมืองนครปฐม จ.นครปฐม ได้รับการประสานจาก พ.ต.อ.ฐิติ แสงสว่าง ผกก.2 ทางหลวง 1 กก.2 พ.ต.ท.โกวิท ม่วงนวล สว.ส.ทางหลวง 1 กก.2 ร.ต.อ.สิทธิชัย การินทร์ รอง สว.ทางกลวง 2 กก.1 เจ้าหน้าที่ทรัพยากรป่าไม้จังหวัดนครปฐม กองปราบปรามกรมป่าไม้เขต 14 ราชบุรี เข้าตรวจสอบบริเวณ โกดังเก็บไม้ เลขที่ 45 ม.1 ต.ลำพยา อ.เมืองนครปฐม หลังรับรายงานว่ามีไม่พะยูงเถื่อนซุกซ่อนอยู่เป็นจำนวนมาก
ในการเข้าตรวจสอบเจ้าหน้าที่พบไม้พะยูงแปรรูปจำนวน 400 ท่อน มูลค่ากว่า 40 ล้านบาท ถูกซุกซ่อนอยู่โดยมีการใช้ผ้ายางปิดคลุมไว้อย่างมิดชิด ซึ่งจากาการตรวจสอบพบว่าโกดังที่พบของกลาง เป็นของ นายทัศนัย ชาวไร่นาค อายุ 23 ปี ซึ่งได้ให้ นายภิภพ ลาภเจริญ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 203 ซอยสมเด็จเจ้าพระยา 17 แขวงคลองสาน กรุงเทพฯ ได้เช่าไว้และเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบอย่างละเอียด พบว่า ไม้พะยูงดังกล่าวได้มีการนำเข้ามา และมีการลักลอบแปรรูปเป็นไม้ท่อน ซึ่งในช่วงตรวจสอบไม่พบใครอยู่ในโกดัง
พ.ต.ท.โกวิท ม่วงนวล สว.ส.ทางหลวง 1 กก.2 เปิดเผยว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงได้ทำการตั้งด่านตรวจรถบรรทุก ที่ อ.บางปะอิน จ.อยุธยา และสามารถจับกุมกลุ่มผู้ลักลอบขนไม้พยุงจำนวน 1,600 ท่อน มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท โดยคนขับได้สารภาพว่าไม้ทั้งหมดได้ลักลอบนำออกมาจากโรงงานดังกล่าว จึงได้ประสานเข้ามาตรวจสอบและพบมีไม้พยุงหลงเหลืออยู่จริงและเป็นการทำเป็นขบวนการใหญ่
นายโชคชัย เดชอมรธัญ นายอำเภอเมืองนครปฐม กล่าวว่า ในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาฝ่ายปกครองอำเภอเมืองนครปฐม ได้มีการจับกุมไม้พะยูงมาแล้ว ซึ่งมีมูลค่าถึง 40 ล้านบาทเช่นกัน พบว่า มีการแปรรูปโดยจากการประสานกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ พบไม่ทราบว่าไม้พะยูงในประเทศไทยตอนนี้ได้รับความสนใจจากประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เนื่องจากมียอดสั่งนำเข้า เพื่อไปทำเป็นของที่ระลึกในกีฬาโอลิมปิก จึงมีกลุ่มคนไทยลักลอบตัดและนำไม้ที่เคยซึกซ่อนไว้ออกมาแปรรูปจำหน่ายกันเพิ่มขึ้น ซึ่งจะมีการตรวจสอบในพื้นที่ว่ามีกลุ่มที่ซุกซ่อนหลบหนีหลงเหลืออีกหรือไม่
ส่วน นายชนินทร์ บัวประเสริฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เปิดเผยว่า ตอนนี้ได้สั่งการเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครองในพื้นที่ให้เร่งติดตามจับกุมขบวนการดังกล่าว เนื่องจากเป็นการจับกุมได้ 2 ครั้งในพื้นที่ในช่วงเวลาที่ไม่ห่างกัน โดยเป็นคำสั่งของกระทรวงมหาดไทยที่สั่งการให้มีการกวดขันเรื่องการติดตามป้องกันและจับกุมผู้ลักลอบตัดจำหน่ายไม้พะยูง และจะไม่มีการไว้หน้าใคร หรือเกรงกลัวอิทธิพลของใครทั้งสิ้น
โดยทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหากับ นายภิภพ อายุ 43 ปี ตามมาตราที่ 48 มีไม้แปรรูปที่หวงห้ามไว้ในครอบครอง โดยผิดกฎหมายและมาตราที่ 69 มีไม้ท่อนไว้ในครอบครอง โดยผิดกฎหมาย ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบตัว โดยจะมีการอออกหมายเรียกก่อนหากไม่มาพบจะมีการออกหมายจับกุมเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป