พิษณุโลก – เดินหน้าย้ายชุมชนรอบพระราชวังจันทน์ เตรียมสำรวจทรัพย์สินชาวบ้าน 129 หลังในแนวเขตภายในปีนี้ รับอาจต้องจ่ายค่าย้ายวัดร้างให้สำนักพุทธฯ ร่วม 30 ล้านบาท ขณะที่ผู้ว่าฯ สั่งให้กรมศิลป์ทำแผนพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว ให้เสร็จมกราคม 51 ส่วนการรื้อสำนักอนุรักษ์ 11 เป็นอาคารพิพิธภัณฑ์-สำนักบริหารท่องเที่ยวยังติดปัญหา
เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก นายสมบูรณ์ ศรีพัฒนาวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกเป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการฝ่ายเตรียมการเคลื่อนย้ายพื้นที่ ครั้งที่ 2/2550 เพื่อพิจารณาออกเดินสำรวจ ขั้นตอน วิธีการ ระยะเวลาของคณะทำงาน เพื่อย้ายบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่เขตพระราชวังจันทน์ 129 หลัง ตามประกาศจังหวัดพิษณุโลก ที่จะส่งเจ้าหน้าที่สำรวจทรัพย์สินและบ้านเรือน ระหว่างเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2550 เพื่อนำข้อมูลไปประเมินราคาเป็นค่าชดเชยให้กับเจ้าของบ้าน สำหรับย้ายไปที่แห่งใหม่เพื่อให้ราชการดำเนินการพัฒนาพระราชวังจันทน์ อนุรักษ์โบราณสถานและปรับปรุงภูมิทัศน์สวยงามสมกับเป็นพระราชวังของพระบาทสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
นายสันติ กรุสวนสมบัติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า หลายหน่วยงานกำลังย้ายออก ให้กรมศิลปกร คิดไว้ก่อนว่า ปี 2552 จะใช้ประโยชน์ใดบ้าง เช่น อาคารอนุรักษ์ 11 ควรทำเป็นพิพิธภัณฑ์ และต้องสำรวจทรัพย์สินโดยใช้แนวทางกรมชลประทาน ทำบัญชีทรัพย์สิน นำแบบรื้อถอนจากจังหวัดอยุธยามากำหนด
ที่ผ่านมา ได้ว่าจ้างให้ ม.นเรศวร ทำแผนด้วยงบประมาณ 1 ล้านบาท ว่า จะบูรณาการอย่างไรสำหรับพระราชวังจันทน์ แต่กลับได้หนังสือมา 1 เล่ม บอกเพียงว่า ที่พระราชวังจันทน์มีอะไร แต่กลับไม่ได้บอกว่าควรทำอย่างไรในพระราชวังจันทน์ พัฒนาจุดใดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ดูเหมือนว่าไม่คุ้มกับเงินที่เสียไป
และนับแต่วันนี้ จังหวัดกำลังเริ่มสำรวจบ้านเรือน 129 หลังในชุมชนสระสองพี่น้อง เพื่อจ่ายเงินชดเชย และนำเสนอของบประมาณจากสำนักงบฯ ไปพร้อมๆกับรอแผนจากกรมศิลปากร ที่จะต้องแจงรายละเอียด 128 ไร่ในแผ่นดินพระนเรศวรว่า จะต้องทำอย่างไร
เช่น ต้องกำหนดบริเวณที่จอดรถควรอยู่ที่ไหน อาจใกล้กับอาคารพิพิธภัณฑ์ที่เป็นอาคารเก่า ซึ่งสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ 11 เดิม อาจเป็นศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เพราะจะไม่ต้องเสียเวลาทุบอาคารแล้วก่อสร้างใหม่ เท่ากับเสียเวลา ปี 2551 ควรให้เห็นเป็นรูปธรรมได้แล้ว ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกได้ให้เวลากรมศิลป์จัดทำแผนให้เสร็จเดือนมกราคม 2551 นี้
ส่วนงบประมาณปี 2550 ของกรมศิลป์ที่มีอยู่เดิม คือ งบ 2 ล้าน ก็ขุดต่อไป อีก 8 ล้านปี 2551 ก็ขุดเสริมฐานให้แข็งแรงก็ทำต่อไป กรณีวัดร้าง 3 แห่ง คือ วัดโพธิ์ทอง วัดวิหารทอง วัดศรีสุคต ที่ขึ้นอยู่สำนักพุทธศานาแห่งชาติ จะต้องไปเจรจาต่อรองว่า จะต้องจ่ายเงินเวนคืนหรือไม่ เพราะทราบว่า วัดร้างทั้ง 3 แห่งเรียกร้องเงินเวนคืนถึง 30 ล้านบาท
“ชาวบ้านชุมชนสระสองพี่น้องรอบๆ พระราชวังจันทน์ ย้ายออก ไม่มีปัญหา พร้อมย้ายออกไป แต่กำลังรอเงินชดเชย ซึ่งจังหวัดกำลังสำรวจทรัพย์สินอีกครั้งตามความเป็นจริง เพราะไม่เชื่อว่าข้อมูลที่ ม.นเรศวร สำรวจตามมูลค่าที่ดินตามราคาประเมินสูง 62 ล้านบาทจริงหรือไม่ แต่ต้องดูว่า พื้นที่รอบพระราชวังจันทน์นั้นมีโฉนดกี่ราย เพราะหากเป็นแนวเขตพระราชวังจันทน์ จะต้องไม่มีโฉนด”
อนึ่ง สำนักกรมศิลปากรที่ 6 สุโขทัย ชี้แจงว่า พระราชวังจันทน์ ใช้พื้นที่ 128 ไร่ ในปีนี้ได้ออกแบบและดูแลรักษา ตามงบกรมศิลปากร 2 ล้านบาท ส่วนปี 2551 จะดำเนินการปรับปรุงภูมิทัศน์ เสริมความแข็งแรงบางส่วน โดยใช้งบประมาณจากกรมศิลปากรอีก 9 ล้านบาท
สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 แจ้งว่า สำนักงานอยู่ในเขตพระราชวังจันทน์ได้เตรียมจัดหาพื้นที่เพื่อก่อสร้างสำนักงานแห่งใหม่แต่ยังไม่ตัดสินใจว่า จะเลือก บึงแก่งใหญ่ บริเวณโรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคม หรือ บ้านวังดินสอ อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ที่ไกลออกไป 26 กม. เป็นเขตป่าไม้ถาวรประมาณ 19 ไร่ เบื้องต้นของบประมาณ 51 ก่อสร้างอาคารใหม่ไม่เกิน 30 ล้านบาท แต่ขาดอาคารบ้านพักของเจ้าหน้าที่ชั้นผู้น้อย