“เดชาพาณิช์” ขยายไลน์ธุรกิจ ตั้ง “บีเฟิสต์” ขายเครื่องใช้ สนง.

ศูนย์ข่าวขอนแก่น - “เดชาพาณิชย์” กลุ่มอุตสาหกรรมผลิตแหอวนส่งออกรายใหญ่ จ.ขอนแก่น แตกไลน์ธุรกิจตั้ง BE FIRST ศูนย์ค้าส่ง-ค้าปลีกเครื่องใช้สำนักงานครบวงจร ชูจุดแข็งด้านบริการหลังขายที่ผู้ค้ารายอื่นไม่มี ทั้งสร้างแบรนด์ BE FIRST ให้ติดตลาด มั่นใจปี 50 ขยายตัวไม่ต่ำกว่า 50% วางกรอบปี 51 รุกแชร์ตลาดอย่างต่อเนื่อง เตรียมดันแบรนด์บีเฟิสต์ เป็นศูนย์ก๊อบปี้เซ็นเตอร์

นายภิญโญ เดชานุเบกษา กรรมการผู้จัดการ หจก.บีเฟิสต์ อีควิพเมนท์ ผู้ประกอบการศูนย์จำหน่ายเครื่องใช้สำนักงานครบวงจร เปิดเผยว่า บีเฟิสต์ อีควิพเมนท์ เป็นธุรกิจที่แตกไลน์จากโรงงานทออวน เดชาพาณิชย์ ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของตระกูล ดำเนินธุรกิจผลิตแห อวน เครื่องมือจับสัตว์น้ำหลังจากที่ประสบผลสำเร็จในการผลิตและทำตลาดจำหน่ายในประเทศและส่งออก มาเป็นระยะเวลาหลายสิบปี

บีเฟิสต์ อีควิพเมนท์ ถือเป็นธุรกิจใหม่ ตั้งขึ้นเพื่อรองรับการขยายตัวในตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้สำนักงาน ทั้งกระดาษ เครื่องถ่ายเอกสาร เครื่องคอมพิวเตอร์ ฯลฯ ซึ่งในจังหวัดขอนแก่น เป็นศูนย์กลางการบริหารงานของหน่วยงานรัฐและภาคเอกชน และเป็นศูนย์กลางการศึกษาของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีสถาบันการศึกษาหลายแห่งตั้งอยู่จำนวนมาก เป็นโอกาสให้ธุรกิจด้านการศึกษาขยายตัวตามตลาดที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ แม้สภาพตลาดธุรกิจเครื่องใช้สำนักงานจังหวัดขอนแก่น จะมีการแข่งขันสูง เนื่องจาก มีธุรกิจประเภทเดียวกันเปิดดำเนินงานอยู่จำนวนมาก อีกทั้งภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันชะลอตัว แต่ บีเฟิสต์ฯ ได้สร้างความแตกต่างจากผู้ประกอบการรายอื่น นำแนวคิดทำธุรกิจครบวงจรมาปรับใช้ บริการส่งสินค้าถึงสำนักงานหรือบ้านของลูกค้า ทั้งการจำหน่ายปลีกและส่ง เน้นความรวดเร็วทันใช้งาน พร้อมกับบริการซ่อมบำรุงในกลุ่มเครื่องถ่ายเอกสารหรือเครื่องใช้สำนักงานอื่นๆ

ขณะเดียวกัน พยายามสร้างแบรนด์ BE FIRST ให้เป็นที่รับรู้ของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายว่า เป็นธุรกิจที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องใช้สำนักงานที่ครบวงจร เบื้องต้น ได้ผลิตกระดาษขนาด A4 ภายใต้ชื่อ BE FIRST เช่นเดียวกับชื่อของธุรกิจ เนื่องจากเป็นกลุ่มสินค้าที่มียอดจำหน่ายสูง และมีการใช้แพร่หลาย ง่ายต่อการจดจำ

นายภิญโญ กล่าวต่อว่า ภาพรวมการดำเนินงานตั้งแต่เปิดดำเนินงานเมื่อปี 2545 จนถึงปัจจุบัน ได้รับการตอบรับที่ดี ผลประกอบการขยายตัวอย่างต่อเนื่องไม่น้อยกว่าปีละ 30% ส่วนในปี 2550 แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจอยู่ในช่วงขาลง ไม่เอื้อต่อการทำธุรกิจ แต่ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้สำนักงานตลาดยังมีความต้องการอย่างต่อเนื่อง คาดว่าผลน่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 50% จากปี 2549

นอกจากนี้ กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของบีเฟิสต์ มีการขยายตัวน่าพอใจ จากจุดเริ่มต้น ที่เน้นทำตลาดเฉพาะจังหวัดขอนแก่น ธุรกิจเริ่มมีการขยายฐานตลาดออกไปยังจังหวัดใกล้เคียง ทั้งที่จังหวัดเลย มหาสารคาม ล่าสุดได้ขยายตลาดส่งถึงกลุ่มลูกค้าในจังหวัดกาฬสินธุ์, อุดรธานี, ชัยภูมิ, บุรีรัมย์ และจังหวัดสกลนคร

วางกรอบปี 51 รุกแชร์ตลาด
ดันเป็นศูนย์ก๊อบปี้เซ็นเตอร์

สำหรับทิศทางการดำเนินงานในปี 2551 บีเฟิสต์ฯ วางกรอบการดำเนินงานในเชิงรุกมากขึ้น อาศัยจุดแข็งด้านการบริการที่ครบวงจร การจัดส่งสินค้าถึงมือลูกค้า และการบริการหลังขาย เพื่อสร้างความประทับใจ เป็นกลยุทธ์รุกแชร์ตลาดไปยังกลุ่มลูกค้ารายอื่นให้ครอบคลุมมากขึ้น คาดว่าจะผลักดันยอดขายทุกผลิตภัณฑ์ขยายตัวเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 30% จากปีนี้

ขณะเดียวกันมีแนวคิดที่จะสร้างแบรนด์ BE FIRST ให้เป็นศูนย์ก๊อบปี้เซ็นเตอร์ ซึ่งจะเป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่แตกไลน์ออกไป ในด้านศูนย์รับถ่ายเอกสารตามสถาบันการศึกษา ย่านธุรกิจหรือชุมชนขนาดใหญ่ ในพื้นที่ที่มีศักยภาพ เน้นหนักงานถ่ายเอกสารที่มีคุณภาพเป็นหลัก ใช้เครื่องถ่ายเอกสารเครื่องใหม่ ซึ่งจะทำให้งานถ่ายเอกสารมีคุณภาพคมชัดกว่าการถ่ายเอกสารทั่วๆ ไป ที่ใช้เครื่องถ่ายเอกสารมือสอง

นายภิญโญ กล่าวต่อว่า การจัดตั้งเป็นศูนย์ก๊อปปี้เซ็นเตอร์ ในชื่อ BE FIRST จะเป็นอีกธุรกิจหนึ่ง ที่เอื้อต่อธุรกิจเดิมที่ดำเนินการอยู่ เพราะจะเป็นช่องทางระบายสินค้า กระดาษ A4 ได้ พร้อมกับเครื่องใช้สำนักงานชนิดอื่นๆ ที่ให้บริการจำหน่ายภายในศูนย์ฯ ขณะเดียวกัน บีเฟิสต์ ฯ เป็นพันธมิตรที่ดีกับชาร์ป ผู้ผลิตเครื่องถ่ายเอกสารชั้นนำระดับโลก พร้อมให้การสนับสนุนเครื่องถ่ายเอกสารรองรับศูนย์ก๊อบปี้เซ็นเตอร์ที่จะตั้งขึ้น

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการสรุปในรายละเอียดที่ชัดเจนว่า ศูนย์ก๊อบปี้เซ็นเตอร์ BE FIRST แห่งนี้ จะเป็นการดำเนินงานในลักษณะธุรกิจใหม่อีกธุรกิจหนึ่ง หรือจัดตั้งเป็นธุรกิจแฟรนไชส์ เปิดโอกาสให้ผู้สนใจเข้ามาร่วมทำธุรกิจ ซึ่งจะนำปัจจัยที่เกี่ยวข้องมาศึกษารายละเอียดถึงผลดี-ผลเสีย ก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะดำเนินธุรกิจในรูปแบบใดต่อไป