เชียงราย - สาวเจ้าของรถเช่าเมืองเชียงราย แจ้งความตามหาสามีเสี่ยใหญ่ หายตัวลึกลับ 5 วัน พร้อมสร้อยคอทองคำ 10 บาท,แหวนเพชร และเงินสด หลังออกไปตามทวงเงินที่ให้ พ.ต.ท.-พี่เขย ยืมไปให้คนอื่นกู้ 3.5 แสนบาท ทิ้งโตโยต้ายาริสไว้ที่ท่าอากาศยานเชียงราย
วันนี้ (13 ต.ค.50) นางพิมพ์นภา แสนยะเสนีย์ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 100/331 ม.8 ต.สันทราย อ.เมือง จ.เชียงราย เจ้าของร้าน เอส พี รถเช่า ย่านวัดเจ็ดยอด เขตเทศบาลนครเชียงราย ได้เข้าให้การกับ พ.ต.ท.ดเรศ กัลยา และ ร.ต.ต.อนุพันธุ์ กันถารัตน์ พนักงานสอบสวน สภ.อ.เมืองเชียงราย กรณีที่นายสุพจน์ เจนจิตรานนท์ หรือ “เฮียสุพจน์” อายุ 50 ปี สามี ได้หายตัวจากบ้านไป
โดยนางพิมพ์นภา เล่าว่า เมื่อวันที่ 9 ต.ค.50 เวลาราว 13.30 น.นายสุพจน์ ได้ขับรถโตโยต้ายาริส ทะเบียน กจ.5748 เชียงราย สีฟ้า ซึ่งเป็นรถเช่าที่ร้าน ออกจากร้านโดยสวมกางเกงขาสั้นสีขาว เสื้อสีดำ สวมสร้อยคอทองคำหนัก 10 บาท และมีแหวนหยกล้อมเพชร -เงินสดในกระเป๋ากางเกงจำนวนหนึ่ง ไปที่ท่าอากาศยานเชียงราย
ซึ่งได้โทรศัพท์มาคุยกับตนตลอดว่าจะไปตามทวงเงิน 350,000 บาท ซึ่ง พ.ต.ท.วิทยา ยาป้อม หัวหน้าพนักงานสอบสวน สภ.อ.เวียงเชียงรุ้ง ซึ่งมีศักดิ์เป็นพี่เขยของตน เพราะ นางคนึงนิตย์ ยาป้อม อายุ 40 ปี พี่สาวตนแต่งงานกับ พ.ต.ท.วิทยา และนายสุพจน์ เคยเล่าว่า พ.ต.ท.วิทยา ยืมเงินไปให้นักธุรกิจคนหนึ่ง ยืมไปใช้ เมื่อ 2 เดือนก่อน และ ก่อนวางสายไปนายสุพจน์ บอกว่า เจอสารวัตรที่ท่าอากาศยานแล้ว และกำลังขึ้นรถสารวัตรไป เพราะคนกู้เงินต้องการพบเจ้าของเงินเอง ซึ่งตนได้ยินเสียงสารวัตร พูดอยู่ข้างหลังว่าให้รีบขึ้นรถไป อ.แม่จัน
ต่อมานายสุพจน์ ได้ขาดการติดต่อไป และไม่รับสายอีก กระทั่งเย็นวันที่ 9 ต.ค.ตนจึงไปดูที่ลานจอดรถหน้าท่าอากาศยานจึงพบรถโตโยต้า ที่นายสุพจน์ จอดไว้ ในรถมีโทรศัพท์มือถือของนายสุพจน์ วางอยู่ จึงใช้กุญแจสำรองไขขับรถมาจากท่าอากาศยาน และรอการติดต่อกลับ แต่ไม่มีการติดต่อกลับจากนายสุพจน์ อีกเลย ถือว่าผิดปกติมาก เพราะนายสุพจน์ ธรรมดาจะไปที่ไหนจะโทรบอกตลอด ไม่เล่นการพนัน ยามว่างจะไปดูแลสวนยาง 50 ไร่ ที่ จ.พะเยา กับตน ทั้งไม่มีมูลเหตุจะต้องสร้างสถานการณ์ เพราะนายสุพจน์มีฐานะ มีครอบครัวอยู่ กทม. ตระกูลมีมีธุรกิจเกี่ยวกับก่อสร้าง - ค้าของเก่า และมีรายได้ทุกๆเดือน ตนเองก็จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายกับนายสุพจน์ ด้วย จึงมั่นใจว่าจะเกิดเหตุร้ายกับสามีตนแน่ จึงมาแจ้งความไว้
นางพิมพ์นภา บอกอีกว่า หลังเกิดเหตุตนสอบถาม พ.ต.ท.วิทยา ก็ได้รับการปฏิเสธว่าไม่ได้เจอกับนายสุพจน์ ในวันดังกล่าว แต่เมื่อตนย้อนถามไปว่าได้ยินเสียงเหมือนของ พ.ต.ท.วิทยา อยู่ในสายเรียกสามีตนขึ้นรถ พ.ต.ท.วิทยา กลับตอบว่า “แค่นี้ก็เชื่อเขาหรือ”
ทั้งนี้พนักงานสอบสวน ได้เชิญ พ.ต.ท.วิทยา มาให้ปากคำ ซึ่ง พ.ต.ท.วิทยา ปฏิเสธว่า ไม่รู้ไม่เห็นใดๆ ทั้งสิ้น กับการหายตัวไปของนายสุพจน์ เพียงแต่รู้จักกันเท่านั้น
ตำรวจจึงขอตรวจสอบรถยนต์เก๋งฟอร์ด มอนเดโอ ของ พ.ต.ท.วิทยา ก่อนติดตามหาตัวนายสุพจน์ ในพื้นที่เป้าหมาย เช่น อ.แม่จัน รวมทั้งตรวจสอบหลักฐานกล้องวงจรปิดของท่าอากาศเชียงรายด้วยว่า มีเบาะแสหรือไม่