ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - สนามเลือกตั้งนายกเล็ก และ ส.ท.เทศบาลตำรวจโนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ แข่งเดือดแฉนักการเมืองน้ำเน่าทุ่มซื้อเสียงเลือก ส.ท.-นายก แบบยกทีมแล้วหัวละ 500 บาท พร้อมเตรียมจ่ายซ้ำในคืนหมาหอนและวันเลือกตั้ง 7 ต.ค.อีกหัวละ 1,000 บาท คาดสะพัดกว่า 10 ล้าน โดยมีสนามเลือกตั้ง ส.ส.ปลายปีนี้เป็นเดิมพัน ระบุทหาร-ตำรวจ ครึ่งร้อยลงพื้นที่ ด้าน กกต.บุรีรัมย์ รับร้องเรียนทุจริต 5 เรื่อง ทั้งซื้อเสียง แจกเงิน และข่มขู่ชาวบ้าน
วันนี้ (5 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้งนายกเทศมนตรี และสมาชิกสภาเทศบาล (สท.) ตำบลโนนดินแดง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 7 ต.ค.นี้ ว่า เป็นไปด้วยความคึกคัก ทุกกลุ่มต่างออกตระเวนหาเสียงพบปะประชาชนตามคุ้มบ้าน เพื่อชี้แจงนโยบาย เข้าถึงประชาชนแบบเคาะประตูบ้าน นอกจากนี้ ยังจัดทีมงานออกติดโปสเตอร์หาเสียงตามที่ต่างๆ และมีรถโฆษณาหาเสียงตระเวนไปในเขตเทศบาลตลอดทั้งวัน
โดยมีผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรี 3 คน ได้แก่ หมายเลข 1 ด.ต.พิจิตร พละเดช อดีตตำรวจติดตาม ส.ส.ขจรธน จุดโต อดีตนายกเทศมนตรีตำบลโนนดินแดง หัวหน้า “กลุ่มพลังก้าวหน้า”, หมายเลข 2 นายสมชัย กอชัยศิริกุล อดีตนายกเทศมนตรี หัวหน้า “กลุ่มก้าวใหม่โนนดินแดง” และหมายเลข 3 นายคำรณ ณรงค์เดช อดีตปลัดอำเภอเสิงสาง จ.นครราชสีมา อดีตสมาชิกสภาเทศบาลตำบลโนนดินแดง หัวหน้า “กลุ่มคนรุ่นใหม่”
ส่วนผู้สมัครสมาชิสภาเทศบาลตำบลโนนดินแดง มีทั้งสิ้น 33 คน แยกเป็นเขตเลือกตั้งที่ 1 จำนวน 16 คน, เขตเลือกตั้งที่ 2 จำนวน 17 คน โดยแบ่งผู้สมัครเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มพลังก้าวหน้า นำโดย ด.ต.พิจิตร พละเดช เป็นหัวหน้าทีม , กลุ่มก้าวใหม่โนนดินแดง มี นายนายสมชัย กอชัยศิริกุล เป็นหัวหน้ากลุ่ม และ กลุ่มคนรุ่นใหม่ มีนายคำรณ ณรงค์เดช เป็นหัวหน้ากลุ่ม
จ.ส.ท.สันติ นรสีห์ ปลัดเทศบาลตำบลโนนดินแดง ในฐานะผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเทศบาลตำบลโนนดินแดง กล่าวว่า ทางเทศบาลมีความพร้อมจัดการเลือกตั้งในทุกด้าน โดยมีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั้งหมดกว่า 6,953 คน ใน 2 เขตเลือกตั้ง ตั้งเป้าหมายผู้มาใช้สิทธิ์ไม่ต่ำกว่า 70% บัตรเสียไม่เกิน 3% พร้อมกำชับให้ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ทุกคนวางตัวเป็นกลาง
ด้าน นายสุวิทย์ ญาตินิยม ผู้อำนวยการการเลือกตั้งปะจำจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ขณะนี้มีการแจ้งเรื่องร้องเรียนการกระทำทุจริตการเลือกตั้งมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากผู้สมัคร และประชาชน ซึ่งทาง กกต.บุรีรัมย์ รับไว้พิจารณา จำนวนหนึ่ง จึงได้ขอกำลังทหารจากจังหวัดทหารบกบุรีรัมย์ จำนวน 30 นาย และจาก ตชด.216 ประโคนชัย จำนวน 20 นาย เป็นชุดป้องปรามติดตามหาข่าวในพื้นที่อย่างใกล้ชิด
“ล่าสุด ได้มีการแจ้งรายงานการจ่ายเงินซื้อเสียงกันแล้ว แต่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และมีการปล่อยข่าวโจมตีฝ่ายตรงข้ามทำให้เสื่อมเสียอยู่อย่างตลอด รวมถึงการข่มขู่ชาวบ้านด้วย” นายสุวิทย์ กล่าว
ขณะเดียวกัน ทางด้านตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ เชื่อว่า การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลครั้งนี้ มีการแข่งขันค่อนข้างรุนแรง ซึ่งได้สั่งการให้ตำรวจในพื้นที่ติดตามข่าวอย่างใกล้ชิด เป็นการป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องไม่ดีกับผู้สมัครฯ พร้อมกับเฝ้าระวังคนแปลกหน้าที่จะเข้ามาในพื้นที่ หากพบให้ทำการเชิญตัวไปสอบถามทันที เพื่อเป็นการป้องกันเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นได้
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาลตำบลโนนดินแดง แม้จะเป็นสนามเลือกตั้งระดับท้องถิ่น แต่ถือเป็นสนามเลือกตั้งที่สามารถชี้ขาดผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.มาทุกยุคสมัย การแข่งขันชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีครั้งนี้ จึงมีการเมืองระดับประเทศหนุนหลังผู้สมัครฯบางคนและบางกลุ่มอย่างชัดเจน เพื่อให้สามารถควบคุมฐานเสียงคะแนนในพื้นที่ไว้ได้อย่างเบ็ดเสร็จเพื่อรองรับการเลือกตั้งระดับชาติ หรือเลือกตั้ง ส.ส.ที่จะมีขึ้นในปลายปีนี้
มีรายงานข่าวแจ้งด้วยว่า พบมีการจ่ายเงินซื้อเสียงกันอย่างหนักแบบเจาะเฉพาะพื้นที่ ตั้งแต่ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมามีหัวคะแนนของผู้สมัครบางคน-บางกลุ่ม ได้แจกเงินให้กับผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งไปแล้ว หัวละ 500 บาท โดยย้ำให้เลือกผู้สมัคร ส.ท.-และผู้สมัครนายกแบบยกทีม พร้อมได้มีการเตรียมปฏิบัติการจ่ายซื้อในคืนวันหมาหอน และในวันเลือกตั้ง 7 ต.ค.อีกครั้งหนึ่ง หัวละ 1,000 บาท ทำให้มีกระแสเงินหมุนเวียนในรูปแบบต่างๆ สะพัดในช่วงเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท
วันนี้ (5 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้งนายกเทศมนตรี และสมาชิกสภาเทศบาล (สท.) ตำบลโนนดินแดง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 7 ต.ค.นี้ ว่า เป็นไปด้วยความคึกคัก ทุกกลุ่มต่างออกตระเวนหาเสียงพบปะประชาชนตามคุ้มบ้าน เพื่อชี้แจงนโยบาย เข้าถึงประชาชนแบบเคาะประตูบ้าน นอกจากนี้ ยังจัดทีมงานออกติดโปสเตอร์หาเสียงตามที่ต่างๆ และมีรถโฆษณาหาเสียงตระเวนไปในเขตเทศบาลตลอดทั้งวัน
โดยมีผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรี 3 คน ได้แก่ หมายเลข 1 ด.ต.พิจิตร พละเดช อดีตตำรวจติดตาม ส.ส.ขจรธน จุดโต อดีตนายกเทศมนตรีตำบลโนนดินแดง หัวหน้า “กลุ่มพลังก้าวหน้า”, หมายเลข 2 นายสมชัย กอชัยศิริกุล อดีตนายกเทศมนตรี หัวหน้า “กลุ่มก้าวใหม่โนนดินแดง” และหมายเลข 3 นายคำรณ ณรงค์เดช อดีตปลัดอำเภอเสิงสาง จ.นครราชสีมา อดีตสมาชิกสภาเทศบาลตำบลโนนดินแดง หัวหน้า “กลุ่มคนรุ่นใหม่”
ส่วนผู้สมัครสมาชิสภาเทศบาลตำบลโนนดินแดง มีทั้งสิ้น 33 คน แยกเป็นเขตเลือกตั้งที่ 1 จำนวน 16 คน, เขตเลือกตั้งที่ 2 จำนวน 17 คน โดยแบ่งผู้สมัครเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มพลังก้าวหน้า นำโดย ด.ต.พิจิตร พละเดช เป็นหัวหน้าทีม , กลุ่มก้าวใหม่โนนดินแดง มี นายนายสมชัย กอชัยศิริกุล เป็นหัวหน้ากลุ่ม และ กลุ่มคนรุ่นใหม่ มีนายคำรณ ณรงค์เดช เป็นหัวหน้ากลุ่ม
จ.ส.ท.สันติ นรสีห์ ปลัดเทศบาลตำบลโนนดินแดง ในฐานะผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเทศบาลตำบลโนนดินแดง กล่าวว่า ทางเทศบาลมีความพร้อมจัดการเลือกตั้งในทุกด้าน โดยมีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั้งหมดกว่า 6,953 คน ใน 2 เขตเลือกตั้ง ตั้งเป้าหมายผู้มาใช้สิทธิ์ไม่ต่ำกว่า 70% บัตรเสียไม่เกิน 3% พร้อมกำชับให้ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ทุกคนวางตัวเป็นกลาง
ด้าน นายสุวิทย์ ญาตินิยม ผู้อำนวยการการเลือกตั้งปะจำจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ขณะนี้มีการแจ้งเรื่องร้องเรียนการกระทำทุจริตการเลือกตั้งมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากผู้สมัคร และประชาชน ซึ่งทาง กกต.บุรีรัมย์ รับไว้พิจารณา จำนวนหนึ่ง จึงได้ขอกำลังทหารจากจังหวัดทหารบกบุรีรัมย์ จำนวน 30 นาย และจาก ตชด.216 ประโคนชัย จำนวน 20 นาย เป็นชุดป้องปรามติดตามหาข่าวในพื้นที่อย่างใกล้ชิด
“ล่าสุด ได้มีการแจ้งรายงานการจ่ายเงินซื้อเสียงกันแล้ว แต่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และมีการปล่อยข่าวโจมตีฝ่ายตรงข้ามทำให้เสื่อมเสียอยู่อย่างตลอด รวมถึงการข่มขู่ชาวบ้านด้วย” นายสุวิทย์ กล่าว
ขณะเดียวกัน ทางด้านตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ เชื่อว่า การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลครั้งนี้ มีการแข่งขันค่อนข้างรุนแรง ซึ่งได้สั่งการให้ตำรวจในพื้นที่ติดตามข่าวอย่างใกล้ชิด เป็นการป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องไม่ดีกับผู้สมัครฯ พร้อมกับเฝ้าระวังคนแปลกหน้าที่จะเข้ามาในพื้นที่ หากพบให้ทำการเชิญตัวไปสอบถามทันที เพื่อเป็นการป้องกันเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นได้
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาลตำบลโนนดินแดง แม้จะเป็นสนามเลือกตั้งระดับท้องถิ่น แต่ถือเป็นสนามเลือกตั้งที่สามารถชี้ขาดผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.มาทุกยุคสมัย การแข่งขันชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีครั้งนี้ จึงมีการเมืองระดับประเทศหนุนหลังผู้สมัครฯบางคนและบางกลุ่มอย่างชัดเจน เพื่อให้สามารถควบคุมฐานเสียงคะแนนในพื้นที่ไว้ได้อย่างเบ็ดเสร็จเพื่อรองรับการเลือกตั้งระดับชาติ หรือเลือกตั้ง ส.ส.ที่จะมีขึ้นในปลายปีนี้
มีรายงานข่าวแจ้งด้วยว่า พบมีการจ่ายเงินซื้อเสียงกันอย่างหนักแบบเจาะเฉพาะพื้นที่ ตั้งแต่ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมามีหัวคะแนนของผู้สมัครบางคน-บางกลุ่ม ได้แจกเงินให้กับผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งไปแล้ว หัวละ 500 บาท โดยย้ำให้เลือกผู้สมัคร ส.ท.-และผู้สมัครนายกแบบยกทีม พร้อมได้มีการเตรียมปฏิบัติการจ่ายซื้อในคืนวันหมาหอน และในวันเลือกตั้ง 7 ต.ค.อีกครั้งหนึ่ง หัวละ 1,000 บาท ทำให้มีกระแสเงินหมุนเวียนในรูปแบบต่างๆ สะพัดในช่วงเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท