นครปฐม – คืบหน้าคดีพ่อเลี้ยงโหดแทงลูกเลี้ยงเด็กสาววัย 15 ปี อาการสาหัส ตำรวจเข้าสอบปากคำเหยื่อหลังอาการปลอดภัยดีแล้ว แฉพ่อเลี้ยงพยายามข่มขืน แต่เจ้าตัวดิ้นฮึดสู้ จนพ่อเลี้ยงชักมีดแทง ตำรวจเตรียมสอบปากคำพ่อเลี้ยงโหด-ชั่ว หลังอาการดีขึ้น
ความคืบหน้ากรณีพ่อเลี้ยงคว้ามีดแทงลูกสาวที่ติดมาจากภรรยาวัย 15 ปีสาหัส ก่อนตัวเองคิดสั้นหวังนี้ความผิด ยกยาฆ่าหญ้าซด ก่อนใช้ขื่อบ้านผูกคอหวังฆ่าตัวตาย ตำรวจได้เข้าสอบปากคำเหยื่อแล้วพบว่า พ่อเลี้ยงรายนี้หวังที่ข่มขืน
ความคืบหน้ากรณีดังกล่าวล่าสุดเมื่อเวลา 16.00 น.วันนี้ (2 ต.ค.) พ.ต.ต.ไพรัช ยอดทอง พนักงานสอบสวน (สบ 2) สภ.อ.สามพราน จ.นครปฐม ได้เข้าสอบปากคำ น.ส.สุดารัตน์ งาสวัสดิ์ เหยื่อสาววัย 15 ปี ที่นอนพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ศูนย์นครปฐม ซึ่งอาการสาหัส โดยได้ให้การ ว่า ช่วงเกิดเหตุหลังจาก นางสุจิตรา ยิ้มสำราญ อายุ 39 ปี มารดาได้ออกจากบ้านไปได้พักใหญ่ ขณะที่ตนได้เข้าไปนอนเล่นที่กลางบ้าน นายดำเนิน โทป้อมอ่อน อายุ 40 ปี พ่อเลี้ยงได้ตรงเข้ามาปลุกปล้ำเพื่อที่จะข่มขืน แต่ตนได้ตื่นขึ้นมา และดิ้นรนต่อสู้สุดแรง กระทั่งนายดำเนิน ได้หันไปข้างตัว และคว้ามีดที่อยู่ติดกันแทงเข้าที่หน้าอกด้านซ้ายของตนอย่างแรง 1 ครั้ง ซึ่งด้วยความตกใจ จึงได้วิ่งออกมาที่หน้าบ้าน เพื่อจะโกนให้ญาติพี่น้องเข้ามาช่วยเหลือ และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำ น.ส.สุดารัตน์ แล้ว เหยื่อสาวได้เกิดอาการเจ็บบริเวณบาดแผล ซึ่งทีมแพทย์ได้เข้าให้การช่วยเหลือ พบว่า มีการอาการเลือดคั่งในช่องท้อง อาการยังอยู่ในขั้นสาหัส และต้องติดตามดูอาการอย่างกระชั้นชิดเป็นระยะ
ส่วน นายดำเนิน พ่อเลี้ยงหื่น พบว่า สามารถลืมตาได้ แต่เกิดอาการเพ้อ เนื่องจากฤทธิ์ของยาฆ่าหญ้า ได้เข้าไปทำลายอวัยวะส่วนต่างๆ ของร่างกาย และโอกาสรอดชีวิตมีเหลือน้อยลงไปเรื่อยๆ
โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหากับนายดำเนิน เนื่องจากยังไม่สามารถสอบปากคำได้เบื้องต้นพบว่า นายดำเนิน น่าจะหลงรักลูกเลี้ยงตัวเองมานาน และเมื่อ น.ส.สุดารัตน์ ได้เข้ามาขอพาเพื่อนชายมาเที่ยวที่บ้าน จึงเกิดทำให้มีความหึงหวง จึงพยายามที่จะปลุกปล้ำข่มขืน แต่ไม่สำเร็จและได้ลงมือแทงเหยื่อหวังเอาชีวิต แต่เมื่อกระทำความผิดแล้วคาดว่าเหยื่อจะต้องตายแน่ เนื่องจากจุดที่แทงนั้นใกล้กับหัวใจ จึงได้ตัวสินใจกินยาเพื่อหนีความผิดแต่กลัวไม่เป็นผลจึงได้พยายามผูกคอตายซ้ำอีกครั้ง แต่มีญาติมาพบเสียก่อน
สำหรับเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 11.50 น.โดยหลังเกิดเหตุ นางสุจิตรา ยิ้มสำราญ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40/2 ม.1 ต.สามพราน อ.สามพราน จ.นครปฐม ซึ่งเป็นมารดา น.ส.สุดารัตน์ เปิดเผยว่า น.ส.สุดารัตน์ เป็นบุตรสาวของตนกับสามีเก่า ส่วนนายดำเนิน เป็นสามีใหม่และเป็นพ่อเลี้ยงของ น.ส.สุดารัตน์ ซึ่งอยู่กินกันมานาน 5 ปี โดยก่อนเกิดเหตุ ช่วงเช้า ตนได้เตรียมตัวเพื่อจะออกจากบ้านเพื่อจะไปบ้านพี่สาว ซึ่ง น.ส.สุดารัตน์ ลูกสาวได้มาบอกว่า ช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอมจะชวนเพื่อนชายที่มีความสนิทสนมกันมาเที่ยวที่บ้านเพื่อให้พ่อแม่รู้จัก
เมื่อ นายดำเนิน ได้ยินเข้าจึงได้หันไปถามลูกเลี้ยงด้วยน้ำเสียงโมโห ว่า จะชวนเพื่อนชายมาที่บ้าน ทำไม ซึ่งตนได้ทักท้วงไปว่า ไม่น่าจะเป็นอะไร และทั้งคู่ก็ได้คุยกันเป็นปกติหยอกล้อกันเหมือนเดิม ส่วนตนก็ได้ออกจากบ้านไป โดยไม่มีสิ่งผิดปกติใดๆ
กระทั่งเวลา 11.30 น.บุตรชายคนเล็ก ได้วิ่งหน้าตื่นมาบอกว่า น.ส.สุดารัตน์ ถูกพ่อเลี้ยงเอามีดแทง ด้วยความตกใจจึงวิ่งจากบ้านพี่สาวมาดู ปรากฏว่า พบลูกสาวนอนอยู่ฟุบที่หน้าบ้านโดยเอามือกุมอยู่ที่บาดแผล และบอกว่า ถูกพ่อเอามีดแทง และสลบไปตนจึงได้บอกให้ญาติโทร.ตามตำรวจ ส่วนตนวิ่งเข้าไปดูในบ้านก็ต้องตะลึง เมื่อพบว่า นายดำเนิน ได้ผูกคอตัวเองห้อยกับขื่อบ้านตรงกลางบ้าน มีน้ำลายฟูมปากและมียาฆ่าหญ้า และมีดปลอกผลไม้ตกอยู่ตรงพื้นบ้าน จึงได้ให้ญาติมาช่วยกันนำตัวลงมาส่ง รพ.สามพราน และเห็นว่า ทั้งคู่อาการสาหัส จึงได้ส่งตัวมารักษาอาการที่ รพ.ศูนย์นครปฐม
