อุดรธานี - กรรมการสหกรณ์การเกษตรเมืองอุดรฯ แจ้งจับเจ้าหน้าที่บัญชีแอบนำข้าวในโกดังออกขาย มูลค่ากว่า 4 แสนบาท เผยเคยมีพฤติกรรมขโมยข้าวขายมาแล้วถึง 2 ครั้งแต่ให้อภัย มาครั้งนี้ต้องดำเนินคดีอย่างเดียว
เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้(4 ก.ย.) นายสถิตย์ แก่นจำปา อายุ 59 ปี กรรมการสหกรณ์การเกษตรเมืองอุดรธานี รับมอบอำนาจากนายประสิทธิ์ ภูคำวงษ์ ผู้จัดการ สหกรณ์การเกษตรเมืองอุดรธานี เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.เทอดศักดิ์ บุญโชติ พนักงานสอบสวน สบ.3 สภ.อ.เมืองอุดรธานี ดำเนินคดีกับนางวันเพ็ญ ศรีพันธ์บุตร เจ้าหน้าที่บัญชี สาขา 1 สหกรณ์การเกษตรเมืองอุดรธานี ข้อหาทุจริตข้าวเปลือกของสหกรณ์ 40.256 ตัน ในช่วงเดือนเมษายน-กรกฎาคม 2550 วงเงิน 450,592 บาท
นายสถิตย์ กรรมการสหกรณ์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา คณะกรรมการฯ ตรวจพบข้าวเปลือกที่เก็บรักษาไว้ที่ “โกดัง” สาขา 1 ต.เชียงยืน อ.เมือง ได้หายไปจากบัญชีประกอบด้วย ข้าวเปลือกหอมมะลิ 20.8 ตัน ราคา 184,930 บาท , ข้าวเหนียว กข.(6) 19.9 ตัน ราคา 258,768 บาท และข้าวเหนียวรวม 1.1 ตัน ราคา 6,894 บาท สอบถามนางวันเพ็ญ ยอมรับว่าเป็นผู้เอาไปขายเอง เพื่อนำเงินไปซื้อที่ดิน และสร้างบ้าน พร้อมยอมชดใช้ค่าเสียหาย
“ปัญหาข้าวหาย หรือขโมยข้าวขาย เกิดขึ้นมาหลายครั้ง แต่คณะกรรมการก็ใช้ไม้นวม โดยในฤดูผลิตที่แล้วพบ 2 ครั้ง ครั้งแรกวันที่ 25 ตุลาคม 49 หายไปมูลค่า 590,000 บาท ไกล่เกลี่ยให้ชดใช้ 190,000 บาท ครั้งที่สอง วันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา หายไปมูลค่า 280,000 บาท ไกล่เกลี่ยชดใช้เพียง 2,000 บาทเศษ พร้อมคาดโทษจะไม่ไกล่เกลี่ยอีก และตั้งกรรมการมาคอยตรวจสอบ เมื่อพบครั้งที่สามก็ต้องดำเนินคดี แม้จะมาขอไกล่เกลี่ยก็ตาม”
ต่อ พ.ต.ท.เทอดศักดิ์ เดินทางออกไปสอบสวนที่เปิดเหตุ พร้อมกับนายสถิตย์ และเจ้าหน้าที่วิทยาการ และได้พบกับนายไพฑูรย์ ต้นกัลยา อายุ 40 ปี พนักงานฝ่ายการตลาด พบว่าโกดังขนาดใหญ่เปิดไว้ ภายในมีเพียงกองกระสอบป่าน , ปุ๋ยบรรจุกระสอบจำนวนมาก ส่วนข้าวเปลือกทั้ง 3 ประเภท ที่ไม่ได้บรรจุกระสอบ เคยกองแยกกันไว้ได้หายไป และมีเพียงข้าวเปลือกกองอยู่เล็กน้อย
นายไพฑูรย์ กล่าวว่า นางวันเพ็ญจะเป็นผู้เข้ามาดำเนินการซื้อ-ขาย ลงบัญชี และรับเงิน ไม่มีใครรู้ว่ามีการทุจริตเกิดขึ้น โดยในช่วงเกิดการทุจริต มีเพียงเจ้าของโรงสีข้าวขนาดเล็ก ที่ อ.กุดจับ มาติดต่อกับนางวันเพ็ญ บางครั้งที่ขนกันจำนวนมาก ก็นำรถบรรทุก 6 ล้อ ของสหกรณ์ฯไปส่งถึงโรงสี และข้าวหมดจากโกดังนานแล้ว ที่เรื่องแดงขึ้นมาเพราะกรรมการ เห็นว่าในบัญชีมีข้าวเหลืออยู่ และราคาข้าวดีก็เสนอขาย จึงทำให้รู้ว่าข้าวไม่มีเหลือแล้วในโกดัง
พ.ต.ท.เทอดศักดิ์ เปิดเผยว่า นางวันเพ็ญได้ทำบันทึกยอมรับสารภาพ ไว้กับกรรมการสหกรณ์ฯที่สอบสวน ซึ่งเป็นการเข้าข่าย “ลักทรัพย์นายจ้าง” ซึ่งเป็นคดีอาญายอมความไม่ได้ เพราะนางวันเพ็ญเป็นลูกจ้างสหกรณ์ ไม่มีอำนาจ หน้าที่ ในการขายข้าวจำนวนนั้น เป็นหน้าที่ของผู้จัดการโดยตรง ซึ่งตำรวจคงต้องสอบสวนให้ชัดเจน โดยเฉพาะสิ่งที่กรรมการสหกรณ์ฯบางคน คิดว่าน่าจะมีบุคคลอื่นรวมรับรู้ด้วย