เปิดแล้ว “ศูนย์สินค้าเกษตรภาคเหนือ” บริหารโดยชุมนุมสหกรณ์ฯ

ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – “ศูนย์สินค้าเกษตรภาคเหนือ” ได้ฤกษ์เปิดตัวเป็นทางการแล้ว ชุมนุมสหกรณ์เกษตรภาคเหนือแบะท่าชัด ดึงชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทยร่วมบริหารจัดการ เหลือเพียงตกลงรายละเอียดผลประโยชน์ตอบแทนขั้นสุดท้าย ก่อนลงนามสัญญา คาด 1 ต.ค.50 เริ่มบริหารได้ มั่นใจช่วยแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ เผยรับผลตอบแทน 4 แสนบาทต่อเดือน พร้อมส่วนแบ่ง 10% จากผลกำไร

วันนี้ (28 ส.ค.) นางสาวสุพัตรา ธนเสนีวัฒน์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นประธานทำพิธีเปิดศูนย์สินค้าเกษตรภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ และเปิดงานโครงการความร่วมมือเครือข่ายสหกรณ์ NACOF 2007 ครั้งที่ 1” ซึ่งชุมนุมสหกรณ์การเกษตรภาคเหนือจัดขึ้น เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้สถาบันเกษตรกร เกษตรกร ผู้ประกอบการ และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเข้ามาใช้บริการและร่วมพัฒนาระบบการผลิต การตลาด เพื่อยกระดับราคาและแก้ไขปัญหาสินค้าเกษตรโดยเฉพาะจังหวัดภาคเหนือ

ขณะเดียวกัน ยังจัดให้มีการลงนามความร่วมมือ การบริหารจัดการศูนย์สินค้าเกษตรภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างตัวแทนชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด กับ ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรภาคเหนือ จำกัด ด้วย

อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า ศูนย์สินค้าเกษตรภาคเหนือแห่งนี้ ถือว่าเป็นศูนย์กลางตลาดสินค้าเกษตรที่ใหญ่ที่สุดและเป็นการสร้างโอกาสที่ดีที่จะทำให้ธุรกิจมีการพัฒนาและเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มสถาบันเกษตรกร เกษตรกรเครือข่ายและผู้ประกอบการ

ทั้งนี้ ในส่วนของการบริหารจัดการนั้น ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรภาคเหนือ จำกัด กำลังเจรจาตกลงในรายละเอียดอยู่กับทางชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด ที่จะเข้ามาร่วมกันบริหารจัดการศูนย์สินค้าเกษตรภาคเหนือ โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ได้ให้เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจเข้าไปร่วมให้คำปรึกษาด้วย คาดว่า จะได้ข้อสรุปในเร็วๆ นี้

ด้าน นายอรรนพ ดวงติ๊บ ประธานชุมสหกรณ์การเกษตรภาคเหนือ จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้ค่อนข้างจะเป็นที่ชัดเจนแล้วในหลักการว่า ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรภาคเหนือ จำกัด จะร่วมกับชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด ในการบริหารจัดการศูนย์สินค้าเกษตรภาคเหนือ อย่างไรก็ตามยังต้องมีการพูดคุยหารือกันเกี่ยวกับข้อตกลงในเรื่องของผลประโยชน์ตอบแทน ให้ได้ข้อสรุปเป็นที่พอใจร่วมกันของทุกฝ่ายอีกครั้งหนึ่งเสียก่อน จึงจะมีการลงนามสัญญาร่วมกันในการบริหารจัดการ

รายละเอียดเกี่ยวกับผลประโยชน์ตอบแทนนั้น ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในเวลานี้ บอกได้แต่เพียงว่าอายุสัญญาในการบริหารจัดการน่าจะอยู่ระหว่าง 5-10 ปี

ประธานชุมสหกรณ์การเกษตรภาคเหนือ จำกัด บอกว่า การทำสัญญาระหว่าง ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรภาคเหนือ จำกัด กับ ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด น่าจะเสร็จเรียบร้อยในเร็วๆ นี้ และจะเริ่มบริหารจัดการศูนย์สินค้าเกษตรภาคเหนือได้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2550 เป็นต้นไป

สำหรับโครงสร้างผู้บริหารของศูนย์สินค้าเกษตรภาคเหนือ จะเป็นไปในลักษณะกรรมการร่วมกันของทั้งสองฝ่าย ส่วนรูปแบบการให้บริการของศูนย์สินค้าเกษตรภาคเหนือแห่งนี้ จะเป็นไปในลักษณะของโชว์รูมสินค้าเกษตรมากกว่าที่จะเป็นเหมือนตลาดทั่วไป โดยนำสินค้าเกษตรของสหกรณ์และเกษตรกร มาจัดแสดง แล้วให้ผู้ที่ต้องการซื้อเข้ามาทำการประมูลซื้อ ซึ่งภายในจะมีการให้บริการอย่างครบวงจรทุกด้าน พร้อมสำหรับการส่งสินค้าออกได้ทันที เชื่อว่าจะเป็นกลไกหนึ่งที่สำคัญในการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำได้เป็นอย่างดี

ขณะที่แหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือในสำนักงานสหกรณ์จังหวัดเชียงใหม่ เผยว่า หากชุมนุมสหกรณ์ภาคเหนือ จำกัด ลงนามสัญญาให้ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด เข้ามาร่วมบริหารจัดการศูนย์สินค้าเกษตรภาคเหนือแล้ว จะได้รับผลประโยชน์ตอบแทนเป็นเงิน 400,000 บาทต่อเดือน พร้อมทั้งได้รับส่วนแบ่ง 10% ของผลกำไรทั้งหมด โดยในการเข้ามาบริหารจัดการนั้น ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด จะเป็นฝ่ายออกเงินลงทุนและค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการทั้งหมด ส่วนทางชุมนุมสหกรณ์การเกษตรภาคเหนือ จำกัด เป็นฝ่ายลงทุนด้านสถานที่

สำหรับศูนย์สินค้าเกษตรภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ แห่งนี้ เป็นไปตามยุทธศาสตร์ในการพัฒนาระบบการตลาดสินค้าเกษตร และการพัฒนาระบบการขนส่งสินค้าให้มีการเชื่อมโยงกัน ซึ่งกรมส่งเสริมสหกรณ์ กระทรวงเกษตร สนับสนุนงบประมาณ ให้กับชุมนุมสหกรณ์ภาคเหนือ จำกัด เพื่อดำเนินการก่อสร้างอาคารและจัดหาเครื่องมืออุปกรณ์ที่จำเป็นประมาณ 286 ล้านบาท รวมทั้งเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอีกประมาณ 12 ล้านบาท โดยก่อสร้างบนที่ราชพัสดุพื้นที่ 65 ไร่ ในตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่