นครปฐม – สาวเมืองนครปฐม เดินชอปปิ้งภายในห้างสรรพสินค้า “บิ๊กซี” สาขานครปฐม ถูกแก๊งมิจฉาชีพหญิงสาว 2 คนป้ายยาก่อนหลอกให้กดเงินสดและรูดทรัพย์สินภายในตัวและกระเป๋าไปกว่าครึ่งแสน ตำรวจสั่งล่าตัวมาดำเนินคดี
วันนี้ (23 ส.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. พ.ต.ต.สรรค์ กุลนานันท์ พนักงานสอบสวน (สบ 3) สภ.อ.เมืองนครปฐม ได้รับแจ้งมีลูกค้าของห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขานครปฐม ถูกแก๊งมิจฉาชีพป้ายยาก่อนลวงเอาเงินสด และทรัพย์สินในตัวมูลค่ากว้า 5 หมื่นบาทหลบหนีไป โดยผู้เสียหายยังอยู่ในอาการมึนงงจากฤทธิ์ยา
ต่อมา พ.ต.ต.สรรค์ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภาสกร กลั่นหวาน ผกก.สภ.อ.เมืองนครปฐม พ.ต.ท.เจนณรงค์ สมเสถียร สว.ป.และเจ้าหน้าที่สายตรวจรถจักรยานยนต์ไปเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุบริเวณด้านหน้าห้างบิ๊กซี สาขานครปฐม ซึ่งด้านหน้าติดกับถนนเพชรเกษมฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ เป็นธนาคารกรุงไทย สาขาย่อยบิ๊กซีนครปฐม เจ้าหน้าที่พบ น.ส.อิสราภา บุญฤทธิ์ อายุ 29 ปี อยู่เลขที่ 53/73 ม.5 ต.ธรรมศาลา อ.เมือง จ.นครปฐม กำลังยืนร้องไห้ และมีอาการมึนงงคล้ายคนถูกมอมยา ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสอบถาม และให้การช่วยเหลือ จากนั้นจึงได้เชิญมาทำการตั้งสติ ยัง สภ.อ.เมืองนครปฐม เพื่อทำการสอบถามข้อมูล
น.ส.อิสรา บอกว่า ตนได้ออกจากบ้านพักมาตั้งแต่เช้า และมาหาหมอที่ รพ.ศูนย์นครปฐม ก่อนจะมาที่ห้างบิ๊กซี เพื่อจะมาซื้อของใช้ กระทั่งช่วงจังหวะที่กำลังเดินขึ้นบันไดเลื่อนได้มีหญิงสาว 2 คน เข้ามายืนประกบขนาบทั้ง 2 ข้าง จากนั้นตนก็เริ่มรู้สึกควบคุมตัวเองไม่ได้และมึนงง กระทั่งมีหญิงสาวทั้ง 2 คน มาชวนไปที่โรงหนังบริเวณชั้น 3 ของห้าง ซึ่งจำได้ว่า หญิงคนหนึ่งเป็นหญิงร่างเตี้ยท้วม ผิวคล้ำ แต่อีกคนจำไม่ได้
จากนั้นรู้สึกตัวว่า มีสติครึ่งเดียวโดยได้ไปกดเงินจากตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทย ตรงบันไดเลื่อนให้ 2 สาว ไป 28,000 บาท จนหมดบัญชี และได้ถอดสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท 1 เส้น แหวนทองคำหนัก 2 สลึง 1 วง โทรศัพท์มือถือโนเกีย 1 เครื่อง รวมมูลค่าทรัพย์สินไม่น้อยกว่า 5 หมื่นบาท
จากนั้นประมาณ 15 นาที หญิงสาวทั้ง 2 คนได้หายไป เมื่อตนตั้งสติได้จึงได้เดินไปกดเงินดูอีกครั้ง พบว่า มีการกดไปจริงจากที่จำได้เพียงครึ่งเดียว เมื่อมาสำรวจตัวเองก็พบเครื่องประดับในตัวได้หายไปหมด จึงได้วิ่งไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ช่วยเหลือ ซึ่งก็ไม่คิดว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดกับตัวเอง
พ.ต.อ.ภาสกร กลั่นหวาน ผกก.สภ.อ.เมืองนครปฐม เปิดเผยว่า พฤติกรรมของคนร้ายนั้นเหมือนแก๊งป้ายยาทั่วไป ซึ่งจากการสอบสวนจะมีการส่งตัวผู้เสียหายตรวจที่ รพ.ศูนย์นครปฐม ก่อนว่าได้มีการโดนตัวยาอะไรในตัวบ้าง แต่พฤติกรรมของแก๊งป้ายยาก็มีให้ได้ยินและมีผู้เสียหายถูกล่อลวงมาโดยตลอด และก่อนหน้าก็ได้มีการกำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มีการตรวจสอบตอลดเวลา และหายไปจากพื้นที่ได้พักใหญ่ก่อนจะมีผู้เสียหายเกิดขึ้นล่าสุด และตอนนี้ต้องรอให้ผู้เสียหายตั้งสติได้ก่อนจึงจะมีการสเกตช์ภาพคนร้ายและติดตามจับกุมมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป