ธุรกิจที่พักในพัทยายังไปได้ โรงแรม-เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ จ่อผุด

ศูนย์ข่าวศรีราชา - ประธานชมรมโรงแรมเมืองพัทยา มั่นใจธุรกิจโรงแรม 3-4 ดาว ยังไม่ถึงทางตัน การลงทุนมีให้เห็นต่อเนื่อง ทั้งโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ ขณะที่ลูกค้าก็มีต่อเนื่อง แต่ผู้ประกอบการต้องดึงมืออาชีพ จัดระบบจัดการแบบครบวงจร พร้อมสร้างตลาดสัมมนาเสริมช่วงโลว์ซีซัน ขณะเดียวกันต้องกล้าทุ่มเงินปรับโฉมให้สวย และทันสมัยเพื่ออัปราคา ล่าสุด โรงแรมทาวน์อินทาวน์ปรับเป็นเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ เชื่อเบื่อทำธุรกิจและรอขายต่างชาติ พร้อมเตือนกลุ่มที่ปรับเป็นเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์รับลองสเตย์ อาจต้องเผชิญภาวะแข่งขันทั้งการตลาดและทำเลที่ตั้ง

เมื่อเร็วๆ นี้ โรงแรมทาวน์อินทาวน์ ที่เป็นโรงแรมระดับ 3 ดาวกลางเมืองพัทยา ได้ประกาศเลิกกิจการโรงแรม เพื่อปรับเป็นเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ ทำให้ต้องเลิกจ้างพนักงานบางส่วน โดยผู้บริหารให้เหตุผลว่า ธุรกิจขาดทุนสะสมต่อเนื่อง จากการแข่งขันสูง และนักท่องเที่ยวลดลง จนไม่สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้

นายสุวัฒน์ แพภิรมย์รัตน์ ประธานชมรมโรงแรมเมืองพัทยา ซึ่งมีสมาชิกเป็นกลุ่มโรงแรมระดับ 2-3 ดาวในเมืองพัทยา กล่าวถึงสถานการณ์โรงแรมระดับ 3 ดาวในเมืองพัทยาว่า ยังคงไปได้สวย แม้ช่วงที่ผ่านมาจะมีผู้ประกอบการบางรายปิดกิจการ

ปัจจัยที่ทำให้เชื่อว่าตลาดของโรงแรม 3 ดาว ยังดีอยู่ มาจากกลุ่มลูกค้าทั้งตลาดเอเชียและยุโรปยังต้องการห้องพักระดับปานกลาง แต่สามารถรองรับเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกได้

ขณะเดียวกัน การลงทุนของกลุ่มผู้ประกอบการท้องถิ่น และส่วนกลางยังมีให้เห็นอย่างต่อเนื่อง เช่น กลุ่มซันไซน์กรุ๊ป ซึ่งเป็นของตระกูลศุภรสหัสรังษี ที่มีการก่อสร้างโรงแรมระดับ 4 ดาวในลักษณะรีสอร์ตเพิ่มอีก 1 แห่ง หลังปรับโฉมโรงแรมในเครือและเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์อย่างต่อเนื่อง

ส่วนผู้ประกอบการอีกหลายรายต่างทุ่มงบประมาณ 2-3 ล้านบาท เพื่อรีโนเวตโรงแรมให้สวยงามและทันสมัยก่อนอัปราคาห้องพักเพิ่มอีก 10% เพื่อให้สามารถอยู่รอดได้ และการดำเนินการดังกล่าวก็ได้รับการยอมรับจากกลุ่มลูกค้าเดิม ที่เห็นว่าเป็นการลงทุนเพื่อพัฒนาศักยภาพของโรงแรม

ด้านทุนส่วนกลางก็แห่ขยายการลงทุนตั้งแต่ระดับ 3 ดาว จนถึง 5 ดาว ทำให้ปัจจุบันจำนวนห้องพักในเมืองพัทยาทั้งที่จดทะเบียนถูกต้องและไม่ถูกต้องมีมากกว่า 7 หมื่นห้อง

“การที่ผู้ประกอบการบางรายปิดกิจการ น่าจะมาจาก 1.ไม่ต้องการดำเนินุธุรกิจโรงแรมต่อ เพราะมีธุรกิจอื่นที่สร้างผลกำไรให้มากกว่า หรือรอขายกิจการให้แก่ต่างชาติ 2.นำเงินกู้ที่ได้มาใช้ในเรื่องที่ไม่ใช่การพัฒนาโรงแรม จึงทำให้ไม่สามารถหาเงินจ่ายให้แก่เจ้าหนี้ได้ และ 3.ไม่อยากทุ่มงบประมาณว่าจ้างนักบริหารมืออาชีพเข้ามาบริหารอย่างเป็นระบบ”

นายสุวัฒน์ ยังเผยถึงการที่ผู้ประกอบการโรงแรมระดับ 3 ดาวบางราย ที่ปรับรูปแบบธุรกิจเป็นเซอร์วิสอพาร์ตมนต์เพื่อรับกลุ่มผู้บริหารชาวต่างชาติ และกลุ่มเกษียณอายุที่เข้าพักแบบลองสเตย์ ว่า นอกจากจะต้องเจอกับการแข่งขันทางการตลาด และการหาลูกค้าที่จะเข้าพักระยะยาวให้ได้แล้ว ทำเลที่ตั้งยังจะเป็นเงื่อนไขสำคัญ ที่กลุ่มผู้เข้าพักกำลังซื้อสูงเลือก ดังนั้นในความเห็นของตน จึงคิดว่าการเปิดให้พักแบบรายวัน น่าจะทำรายได้ให้ดีกว่าการเข้าพักแบบรายเดือน

ซันไซน์กรุ๊ป ผุด รร.4 ดาว ริมหาดจอมเทียน

ด้านนายธเนศ ศุภรสหัสรังสี อดีตนายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา และยังเป็นผู้บริหารโรงแรมในเครือซันไซน์กรุ๊ป ที่มีทั้งโรงแรมระดับ 3-4 ดาว และรีสอร์ตในเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี เผยถึงภาวการณ์แข่งขันที่สูงขึ้นทำให้ผู้ประกอบการโรงแรมที่ไม่สามารถปรับตัวรับการแข่งขันได้ต้องปิดตัวเองไป แต่ก็ยังมีผู้ประกอบการอีกจำนวนมากในเมืองพัทยา ที่ยอมทุ่มงบประมาณในการปรับปรุงห้องพัก เพื่อสร้างสีสันและจุดดึงดูดใจนักท่องเที่ยว ที่ยังคงเดินทางเข้ามาในเมืองพัทยาอย่างต่อเนื่อง

เห็นได้จากซันไซน์กรุ๊ป ในปีที่ผ่านมาได้ใช้งบประมาณจำนวนมากปรับปรุงห้องพักของโรงแรมต่างๆ ในเครือจนแล้วเสร็จ และในปีนี้ได้ทุ่มงบประมาณก้อนใหญ่ในการก่อสร้างโรงแรมลักษณะรีสอร์ตขนาด 4 ดาว บริเวณริมชายหาดจอมเทียน ในพื้นที่อำเภอสัตหีบ เพื่อเพิ่มทางเลือกในการเข้าพักให้แก่นักท่องเที่ยว

“เมื่อดูจากตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เข้ามาพัทยาของ ททท.พบว่า ไม่ได้ดร็อปลง แต่เพราะการมีโรงแรมเกิดใหม่จำนวนมาก ทำให้มาร์เกตแชร์ของธุรกิจนี้ถูกแชร์ไปยังผู้ประกอบการต่างๆ จึงมียอดการเข้าพักลดลง ซึ่งทางอยู่รอดของผู้ประกอบการโรงแรมในพัทยา คือ การพัฒนาตนเอง ซึ่งหากใครไม่กันงบประมาณในส่วนการพัฒนาไว้ ก็จะหลุดจากกระแสธุรกิจและต้องปิดตัวลง” นายธเนศ กล่าว

ทั้งนี้ จากการเปิดเผยตัวเลขนักท่องเที่ยวในเมืองพัทยา ของ ททท.พัทยาช่วงครึ่งปีแรก 2550 พบว่ามีการเติบโตมากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณ 11.25% คือ มีนักท่องเที่ยวชาวไทย 1.05 ล้านคน นักท่องเที่ยวต่างชาติ 2.48 ล้านคน คิดเป็นยอดรวมประมาณ 3.53 ล้านคน และคาดว่าเมื่อถึงสิ้นปียอดการเติบโตจะสูงกว่าช่วงปี 2549 ตลอดทั้งปีอีกไม่น้อยกว่า 10-20%

แนวโน้มห้องชุด-อพาร์ตเมนต์ก็โตไม่หยุด

ร.ต.ชัยวัฒน์ เจริญสุข ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภาคกลาง เขต 3 พัทยา เผยถึงแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจลองสเตย์ในเมืองพัทยาไว้ว่า ห้องชุด คอนโดมิเนียม และอพาร์ตเมนต์ ที่ตกแต่งสวยงามและมีราคาขายที่ยูนิตละ 3-5 ล้านบาท จะเพิ่มขึ้นตามความต้องการของชาวต่างชาติ ที่เข้ามาลงทุนในเมืองพัทยาและต้องการที่พักอาศัยในระยะ 3-6 เดือน เพื่อทำธุรกิจก่อนบินกลับประเทศ เช่นเดียวกับกลุ่มผู้เกษียณอายุที่นิยมหันมาซื้อที่อยู่อาศัยในลักษณะดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น

นอกจากนี้ แม้ปัจจุบันจะยังไม่มีตัวเลขการซื้อ-ขายห้องชุด อพาร์ตเมนต์ และคอนโดมิเนียม ที่มีชาวต่างชาติถือครองอย่างชัดเจน แต่จากการเปิดใหม่ของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ย่อมชี้ให้เห็นว่า การลงทุนในส่วนนี้จะเกิดเพื่อรองรับกลุ่มชาวต่างชาติที่ต้องการเข้ามาอาศัยอยู่ในเมืองพัทยาในระยะยาวแทนการซื้อบ้าน ซึ่งถือเป็นทรัพย์สินขนาดใหญ่ที่มีปัญหาด้านกฎหมายเกี่ยวกับการถือครองสิทธิ์

นางโสภิญ เทพจักร กรรมการบริหารกลุ่มไดอาน่ากรุ๊ป ซึ่งดำเนินธุรกิจที่พักในรูปแบบโรงแรมและรีสอร์ต ลองสเตย์ในเมืองพัทยา กล่าวในลักษณะเดียวกันว่าธุรกิจลองสเตย์ในเมืองพัทยาจะเติบโตอย่างต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 5 ปี เพราะกลุ่มเกษียณอายุต่างชาติ ทั้งในยุโรปและสแกนดิเนเวีย รวมถึงตลาดใหม่อย่างเกาหลีนิยมจองที่พักในระยะยาว ทั้งในรูปแบบบ้านเดี่ยวและคอนโดมิเนียม ผ่านเอเยนซีต่างประเทศ

แม้รัฐบาลจะออกกฎหมายนอมินี เพื่อป้องกันการถือครองสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ แต่ก็ไม่ทำให้เจ้าของโครงการหรือผู้ต้องการเข้ามาใช้เมืองพัทยา เพื่อเป็นบ้านหลังสุดท้ายได้รับผลกระทบ เพราะเจ้าของโครงการจะหันมาใช้วิธีทำสัญญาเช่าระยะยาว 20-30 ปีแทน

ทั้งนี้ พื้นที่หลายจุดของเมืองพัทยา ไม่ว่าจะเป็นถนนพัทยาสาย 3 ,จอมเทียน, พัทยาเหนือ และวงศ์อำมาตย์ รวมทั้งพื้นที่โดยรอบอำเภอสัตหีบ พบว่า มีการขึ้นคอนโดมิเนียมขนาดหลายร้อยยูนิตจำนวนมาก โดยเฉพาะพื้นที่ติดทะเลที่มีการก่อสร้างคอนโดมิเนียมหรู เพื่อแย่งชิงลูกค้ากลุ่มกำลังซื้อสูงหลายโครงการ