ศูนย์ข่าวศรีราชา - คาดเครื่องบินเล็กปีกหมุนฝึกบินพลเรือน 2 ที่นั่งเซสนา 172 ร่วงกลางป่าดงดิบอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ หากันวุ่นทั่วรอยต่อปราจีนบุรี-นครนายก-สระบุรี ตั้งแต่เที่ยงยันมืดยังไร้วี่แวว
วันนี้ (9 ส.ค. 50) จ.ส.ต.ชัยณรงค์ คำจึน ผบ.หมู่ (ป) สภ.ต.นาหินลาด อ.ปากพลี จ.นครนายก ได้รับแจ้งจากชาวบ้านและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอ่างเก็บน้ำวังบอน ต.นาหินลาด อ.ปากพลี จ.นครนายกว่า ได้ยินเสียงระเบิดดังกึกก้องติดต่อกันรวม 3 ครั้งกลางป่าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ คาดว่าเป็นบริเวณกลางป่าลึกด้านแถบน้ำตกเหวนรก กับน้ำตกวังน้อยและน้ำตกวังบ่อ ขอให้ช่วยตรวจสอบ
พบว่า เครื่องบินปีกหมุนฝึกบิน 2 ที่นั่งขนาดเล็กพลเรือนยี่ห้อเซสนา 172 มีนายโภคิน ภัยสนอง และนายประณพ วิลาพรรณ เป็นครูฝึกและนักบินฝึกหัดตามลำดับ ออกเดินทางจากสนามบิน จ.นครราชสีมา มุ่งหน้าเข้าสนามบินดอนเมืองได้หายไปจากเรดาห์ตรวจการณ์การบินพลเรือน ตรวจเช็คพิกัดทางอากาศครั้งสุดท้ายอยู่บริเวณ พิกัดเหนือ 14 องศา 31 ลิปดา 44 ฟิลอบดาตะวันออก 101 องศา 11 ลิปดา 06 ฟิลิบดา บวกลบไม่เกิน 3 ไมล์และหายไป
โดยคาดการณ์เบื้องต้น ที่ตั้งดังกล่าวอยู่ในพื้นที่อ่างเก็บน้ำบ้านระเมย อ.ปากพลี จ.นครนายก ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำสร้างใหม่ จึงรีบประสานหน่วยกู้ภัยสว่างอารียะ จ.นครนายก และหน่วยกู้ภัยสว่างบำเพ็ญธรรมสถาน พร้อมหน่วยบรรเทาสาธารณะภัยจ.นครนายก และ จ.ปราจีนบุรี และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่รวมกว่า 100 คนรีบตรวจสอบ
โดยในพื้นที่ดังกล่าวเป็นป่าลึกดงดิบจะต้องใช้การเดินเท้าเข้าไปตรวจสอบเป็นระยะทางไกลกว่า 5 - 8 กม. จึงได้ประสานกองร้อยบินกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ค่ายพรหมโยธี ต.บ้านพระ อ.เมือง จ.ปราจีนบุรีมาช่วยค้นหา
ต่อมาเวลาประมาณ 16.00 น. ร.อ.สุทัศน์ ปักโภพรรณ์ เป็นหัวหน้าชุดพร้อมเฮลิคอปเตอร์พร้อม จ.ส.อ.สายหยุด มั่งคั่ง เป็นผู้ช่วยโดยใช้เครื่องตรวจหาพิกัดจีพีเอสผ่านสัญญาณดาวเทียมเช็คหาพิกัดดังกล่าวเบื้องต้นผลการเช็คพิกัดภาคพื้นดิน
คาดพื้นที่ดังกล่าวอยู่บริเวณย่านแถบน้ำตกเจ็ดคต อ.แก่งคอย จ.สระบุรี พื้นที่รอยต่อ 3 จังหวัดคือสระบุรี นครนายก และปราจีนบุรี ที่อยู่กลางอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และเพื่อให้แน่ใจจะได้ให้เฮลิคอปเตอร์บินไปยังพิกัดดังกล่าว เพื่อตรวจสอบทางอากาศในบริเวณดังกล่าวก่อนเป็นเบื้องต้น และหากทัศนวิสัยโปร่งไม่มืดก่อนกำหนดจะได้ให้ทหารโรยตัวลงพื้นดินตรวจหา และจะดำเนินการติดตามค้นหานักบินพลเรือนและนักบินฝึกหัดทั้งภาคพื้นดินและทางอากาศต่อไปในวันรุ่งเช้าวันพรุ่งนี้
ต่อมาเวลา 18.00 น.หน่วยกู้ภัยสว่างบำเพ็ญธรรมสถานและหน่วยกู้ภัยสว่างอารียะได้เคลื่อนย้ายเพื่อเตรียมค้นหาผู้ประสบภัยที่ยังไม่ทราบชะตากรรมพร้อมเครื่องบินเล็กดังกล่าวต่อไป
วันนี้ (9 ส.ค. 50) จ.ส.ต.ชัยณรงค์ คำจึน ผบ.หมู่ (ป) สภ.ต.นาหินลาด อ.ปากพลี จ.นครนายก ได้รับแจ้งจากชาวบ้านและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอ่างเก็บน้ำวังบอน ต.นาหินลาด อ.ปากพลี จ.นครนายกว่า ได้ยินเสียงระเบิดดังกึกก้องติดต่อกันรวม 3 ครั้งกลางป่าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ คาดว่าเป็นบริเวณกลางป่าลึกด้านแถบน้ำตกเหวนรก กับน้ำตกวังน้อยและน้ำตกวังบ่อ ขอให้ช่วยตรวจสอบ
พบว่า เครื่องบินปีกหมุนฝึกบิน 2 ที่นั่งขนาดเล็กพลเรือนยี่ห้อเซสนา 172 มีนายโภคิน ภัยสนอง และนายประณพ วิลาพรรณ เป็นครูฝึกและนักบินฝึกหัดตามลำดับ ออกเดินทางจากสนามบิน จ.นครราชสีมา มุ่งหน้าเข้าสนามบินดอนเมืองได้หายไปจากเรดาห์ตรวจการณ์การบินพลเรือน ตรวจเช็คพิกัดทางอากาศครั้งสุดท้ายอยู่บริเวณ พิกัดเหนือ 14 องศา 31 ลิปดา 44 ฟิลอบดาตะวันออก 101 องศา 11 ลิปดา 06 ฟิลิบดา บวกลบไม่เกิน 3 ไมล์และหายไป
โดยคาดการณ์เบื้องต้น ที่ตั้งดังกล่าวอยู่ในพื้นที่อ่างเก็บน้ำบ้านระเมย อ.ปากพลี จ.นครนายก ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำสร้างใหม่ จึงรีบประสานหน่วยกู้ภัยสว่างอารียะ จ.นครนายก และหน่วยกู้ภัยสว่างบำเพ็ญธรรมสถาน พร้อมหน่วยบรรเทาสาธารณะภัยจ.นครนายก และ จ.ปราจีนบุรี และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่รวมกว่า 100 คนรีบตรวจสอบ
โดยในพื้นที่ดังกล่าวเป็นป่าลึกดงดิบจะต้องใช้การเดินเท้าเข้าไปตรวจสอบเป็นระยะทางไกลกว่า 5 - 8 กม. จึงได้ประสานกองร้อยบินกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ค่ายพรหมโยธี ต.บ้านพระ อ.เมือง จ.ปราจีนบุรีมาช่วยค้นหา
ต่อมาเวลาประมาณ 16.00 น. ร.อ.สุทัศน์ ปักโภพรรณ์ เป็นหัวหน้าชุดพร้อมเฮลิคอปเตอร์พร้อม จ.ส.อ.สายหยุด มั่งคั่ง เป็นผู้ช่วยโดยใช้เครื่องตรวจหาพิกัดจีพีเอสผ่านสัญญาณดาวเทียมเช็คหาพิกัดดังกล่าวเบื้องต้นผลการเช็คพิกัดภาคพื้นดิน
คาดพื้นที่ดังกล่าวอยู่บริเวณย่านแถบน้ำตกเจ็ดคต อ.แก่งคอย จ.สระบุรี พื้นที่รอยต่อ 3 จังหวัดคือสระบุรี นครนายก และปราจีนบุรี ที่อยู่กลางอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และเพื่อให้แน่ใจจะได้ให้เฮลิคอปเตอร์บินไปยังพิกัดดังกล่าว เพื่อตรวจสอบทางอากาศในบริเวณดังกล่าวก่อนเป็นเบื้องต้น และหากทัศนวิสัยโปร่งไม่มืดก่อนกำหนดจะได้ให้ทหารโรยตัวลงพื้นดินตรวจหา และจะดำเนินการติดตามค้นหานักบินพลเรือนและนักบินฝึกหัดทั้งภาคพื้นดินและทางอากาศต่อไปในวันรุ่งเช้าวันพรุ่งนี้
ต่อมาเวลา 18.00 น.หน่วยกู้ภัยสว่างบำเพ็ญธรรมสถานและหน่วยกู้ภัยสว่างอารียะได้เคลื่อนย้ายเพื่อเตรียมค้นหาผู้ประสบภัยที่ยังไม่ทราบชะตากรรมพร้อมเครื่องบินเล็กดังกล่าวต่อไป