กาญจนบุรี – “หมอเณร” หมอยาสมุนไพรไทยชื่อดังแห่งเมืองกาญจนบุรีเผยผู้ป่วยโรคหัวใจและโรคอื่นๆ ยังคงให้ความสนใจเข้ารับการรักษาโรคด้วยยาสมุนไพรต่อเนื่อง จนเป็นที่รู้จักในวงกว้างขวางมากขึ้น พร้อมเผยเมื่อเร็วๆ นี้ "พล.ต.พยงค์ สุขมา" เจ้าหน้าที่ประจำสำนักพระราชวังและคณะให้ความสนใจลงพื้นที่เก็บข้อมูลพืชสมุนไพรถึงในสวน “นายกสมาคมแพทย์แผนไทย” ยันมีสมุนไพรกว่า 20 ชนิดของหมอเณรใช้รักษาโรคร้ายได้ เผยเคยบุกบ้านพลิกคัมภีร์โบราณพิสูจน์มาแล้ว
นายชัยรัตน์ นนทชัย หรือ “หมอเณร” หมอยาสมุนไพรชื่อดังแห่งเมืองกาญจนบุรี ในฐานะประธานชมรมอนุรักษ์สวนสมุนไพรแห่งประเทศไทย และเป็นเจ้าของ “สวนสมุนไพรแพทย์แผนไทย” ตั้งอยู่ที่บ้านเลขที่ 36 หมู่ที่ 10 ต.สระลงเรือ อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี เปิดเผยเกี่ยวกับความคืบหน้าในการดำเนิน “โครงการผู้ป่วยรักษาโรคหัวใจ” เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสที่ทรงมีพระชนมายุครบ 80 พรรษาว่า ตนได้จัดโครงการนี้มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี 2549 แล้ว โดยในปี 2549 ได้โครงการ “ร้อยดวงใจถวายในหลวงทรงครองสิริราชสมบัติ ครบ 60 ปี” โดยจัดขึ้นที่สวนสมุนไพรของตน ซึ่งปีนี้ก็มีผู้ป่วยเดินทางมาเข้ารับการรักษาเป็นระยะๆ ไม่ใช่มีเฉพาะผู้ป่วยด้วยโรคหัวใจเท่านั้น โรคอื่นก็มี เช่น โรคตับ โรคเบาหวาน โรคไตเสื่อม เป็นต้น
“เมื่อปี 2549 ซึ่งเป็นปีมหามงคล ทางรัฐบาลได้จัดเฉลิมฉลองครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงถือเป็นนิมิตหมายที่ดี ทางสมาคมแพทย์แผนไทยแห่งประเทศไทย ก็ได้มอบหมายให้ผมเป็นผู้ทำการรักษาผู้ป่วยโรคหัวใจเพื่อน้อมเกล้าถวายเป็นพระราชกุศาล โดยใช้ชื่อโครงการว่า “ร้อยดวงใจถวายในหลวงทรงครองสิริราชสมบัติ ครบ 60 ปี” ซึ่งได้มีผู้ป่วยโรคหัวใจเข้าร่วมโครงการนี้กว่า 300 คน หลังจากดำเนินโครงการได้กว่า 6 เดือนผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาส่วนใหญ่จะหายเป็นปกติหมด ส่วนที่ยังไม่หายดีอาการก็ค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ” นายชัยรัตน์ กล่าว
พร้อมกล่าวต่อว่า หลังจากข่าวการรักษาผู้ป่วยโรคหัวใจด้วยยาสมุนไพรของตนรู้ไปถึงผู้ป่วยรายอื่นๆ แบบปากต่อปาก บางรายทราบข่าวจากทางสื่อก็ได้เดินทางมาเข้ารับการรักษาด้วยยาสมุนไพรกับตนมากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนใหญ่จะมากันในช่วงวันเสาร์และอาทิตย์ จากการเก็บข้อมูลของผู้ป่วยเอาไว้ตั้งแต่ต้นที่มารักษาด้วยยาสมุนไพรของตนพบว่าทุกคนอาการดีขึ้นและหายเป็นปกติในที่สุด
นายชัยรัตน์ เปิดเผยด้วยว่า เมื่อวันที่ 25 ก.ค.50 ที่ผ่านมา คณะของท่าน พล.ต.พยงค์ สุขมา เจ้าหน้าที่ประจำสำนักพระราชวังพิเศษระดับ 10 (เทียบเท่ารองราชเลขาธิการพระราชวัง) กองงานส่วนพระองค์ พร้อมคณะ ได้เดินทางมายังที่สวนสมุนไพรหมอเณรของตน เพื่อเก็บข้อมูลเกี่ยวกับยาสมุนไพรไทย โดยมีผู้ป่วยโรคหัวใจ 2 คน คือ นางพรม เดชา อายุ 73 ปี และนางอั้ว คำบ่อ อายุ 63 ปี ผู้ป่วยที่ป่วยเป็นโรคหัวใจที่มารับการรักษาโรคหัวใจโดยการใช้ยาสมุนไพรของตน และตนได้ทำการรักษาจนอาการป่วยดีขึ้นจนหายเป็นปกติมาร่วมให้ข้อมูลหลังจากที่ผู้ป่วยทั้ง 2 คนได้เข้ารับการรักษาด้วยยาสมุนไพรของตน
นายชัยรัตน์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของตนนั้นได้บรรยายเกี่ยวกับขั้นตอนวิธีที่ใช้ในการรักษาโรคต่างๆ ด้วยยาสมุนไพรให้กับประชาชนที่มาเข้ารับการรักษาต่อคณะของ พล.ต.พยงค์ ให้รับทราบตลอดทุกขั้นตอน โดยเฉพาะสรรพคุณของพืชสมุนไพรไทยที่ใช้ในการรักษาโรคต่างๆ เช่น โรคหัวใจ โรคตับ โรคเบาหวาน โรคไตเสื่อม และโรคอื่นๆ อีกมากมาย
นอกจากนี้ ตนยังได้นำคัมภีร์โบราณที่เป็นมรดกตกทอดมาตั้งแต่สมัยปู่ ย่า ซึ่งถือเป็นตำราเกี่ยวกับยาสมุนไพรออกมาแสดงประกอบคำบรรยายให้กับคณะทั้งหมดได้ชมและรับทราบข้อเท็จจริงด้วย
“หลังจากที่ผมบรรยายเสร็จสิ้น พล.ต.พยงค์ ท่านได้พูดคุยกับผมว่าท่านได้รับทราบข้อมูลเบื้องต้น โดยได้พูดคุยกับผู้ป่วยที่เคยป่วยเป็นโรคหัวใจ ซึ่งผู้ป่วยเองก็ยืนยันว่าหลังจากได้กินยาสมุนไพรที่ผมจัดให้ อาการต่างๆ ก็หายเป็นปกติโดยเฉพาะนางพรม เดชา อายุ 73 ปี และ นางอั้ว คำบ่อ อายุ 63 ปี ซึ่งทั้ง 2 คนเป็นคนจังหวัดสุพรรณบุรี ดังนั้น คณะของท่าน พล.ต.พยงค์ จึงเดินทางมารับทราบข้อมูลการรักษา” นายชัยรัตน์ กล่าว
ด้านนางพรม เดชา อายุ 73 ปี เปิดเผยว่า ตนป่วยเป็นโรคหัวใจมาตั้งแต่ปี 2540 และทำการรักษาตามโรงพยาบาลต่างๆ ในสุพรรณบุรี เสียเงินค่ารักษาพยาบาลแล้วเป็นจำนวนมาก ช่วงแรกที่ทำการรักษานั้นอาการก็ทุเลา แต่ก็ไม่หายขาด แต่พอนานไปอาการก็ทรุดหนักลง จนทางครอบครัวทุกคนหมดหนทางที่จะเยียวยา เนื่องจากทางบ้านเองเป็นครอบครัวที่ยากจน ช่วงที่อาการทรุดหนักนั้นตนได้สั่งเสียกับครอบครัวเรียบร้อยแล้วว่าตนจะต้องตาย
ทางด้านนายอร่าม อามระดิษ นายกสมาคมแพทย์แผนไทย เปิดเผยว่า เมื่อไม่นานมานี้ ตนและคณะได้เดินทางไปที่สวนสมุนไพรหมอเณรที่ จ.กาญจนบุรี เพื่อดูคัมภีร์แพทย์แผนโบราณเกี่ยวกับการรักษาโรคต่างๆ มาแล้วพบว่าที่สวนสมุนไพรของหมอเณรนั้นมียาสมุนไพรดีๆ อยู่มากกว่า 20 ชนิดที่เชื่อว่าสามารถใช้รักษาโรคร้ายต่างๆ ให้หายได้ อาทิ รากชิงชี รากพร้าวยายม่อม รากมะเดื่อชุมพร รากคนพา รากยายนาง รากลำโศก รากมะเม่า โลดทนงแดง พลูคาว ข้าวเย็นเหนือ ข้าวเย็นใต้ เป็นต้น
นายกสมาคมแพทย์แผนไทย เชื่อด้วยว่า สมุนไพรของหมอเณรอาจใช้รักษาโรคเอดส์ได้ ซึ่งตนจะส่งตัวอย่างของยาสมุนไพรของหมอเณรให้กับทางกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ทำวิจัยดู เพราะในสถานการณ์ขณะนี้ เราไม่สามารถที่จะอยู่นิ่งได้เนื่องจากมีผู้ป่วยเพิ่มจำนวนมากขึ้นทุกวัน ถ้ายาสมุนไพรดังกล่าวใช้รักษาโรคเอดส์ได้เราจะสามารถช่วยผู้ป่วยเอดส์ให้พ้นจากความทุกข์ทรมานได้อีกเป็นจำนวนมาก