กาญจนบุรี – รอง ผบช.ภ.7 คุม 2 ผู้ต้องมือปืนยิงดีเจ.อสมท.ทำแผนหลังถูกจับก่อเหตุปล้น ที่สามพรานจนถูกจับ รับสารภาพก่อเหตุเพียบกว่า 20 คดี
วันนี้ (26 ก.ค.50) เวลา 14.00 น.พล.ต.ต.รชต เย็นทรวง รอง ผบช.ภาค 7 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อม ร.ต.อ.สุชาย เทศัชบุตร หน.นปพ.บก.กาญจนบุรี ที่นำกำลังตำรวจสายตรวจและ ตร.นปพ.กว่า 50 นายนำตัว 2 ผู้ต้องหาฆ่านายสิทธิพร สุขเกษม อายุ 27 ปี เจ้าหน้าที่เทคนิค (อสมท.) FM.107.25 Mhz.จนเสียชีวิตเมื่อไม่มีกี่วันที่ผ่านมา คือ 1.นาย สุวัฒน์ หรือบอล โชติช่วง อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7 ตอกหลังอำเภอเมืองนครปฐม ถ.เกษา ซ.ข้าง ร.ร.ราชินีบูรณะ อ.เมือง จ.นครปฐม 2.นาย สมชาย หรือจักร กองเสม อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 218/1 ต.ท่าเรือ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี
ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่บริเวณจุดเกิดเหตุหน้าสถานีวิทยุองค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย (อสมท.) หมู่ 4 ต.ท่าไม้ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ซึ่งมีประชาชนที่อยู่ในละแวกเดียวนั้นพอรู้ข่าวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายได้และจะนำตัวผู้ต้องหามาทำแผนประกอบคำรับสารภาพต่างก็เดินทางมายังจุดเกิดเหตุเป็นจำนวนกว่า 300 คน รวมทั้ง นางหวัน สุขเกษม อายุ 50 ปี มารดาของผู้เสียชีวิต นายวิชัย สุขเกษม อายุ 53 ปี บิดา และ น.ส.ชลิตา พรรคน้อย อายุ 17 ปี ภรรยาซึ่งมีลูกด้วยกันหนึ่งคนเป็นหญิงอายุ 1 ปี
ต่อมาเวลา 14.30 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำผู้ต้องหาเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุแต่เนื่องจากมีประชาชนอยู่ที่เกิดเหตุเป็นจำนวนมากกว่า 300 คนที่ทราบว่าจะมีการนำผู้ต้องหามาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ต่อจากนั้น พ.ต.อ.เรวัช กลิ่นเกษร รอง ผบก.ศสส.ภ.7 ได้เดินเข้าไปหากลุ่มประชาชนเพื่ออธิบายให้ชาวบ้านเข้าใจและขอร้องอย่าทำร้ายผู้ต้องหาที่จับกุมได้ จนชาวบ้านเข้าใจ จากนั้นจึงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนเรียงแถวกันไม่ให้ชาวบ้านเข้าใกล้ตัวผู้ต้องหาได้
ต่อจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เตรียมรถจักรยานยนต์ไว้ 1 คัน และอาวุธปืนไม่มีกระสุนไว้ 1 กระบอก และนำผู้ต้องหาลงจากรถสายตรวจ คือนาย สมชาย หรือจักร กองเสม อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 218/1 ต.ท่าเรือ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ผู้ต้องหาที่ลงมือใช้อาวุธปืนยิงนาย สิทธิพร สุขเกษม อายุ 27 ปี เจ้าหน้าที่เทคนิค (อสมท.) จนเสียชีวิตเมื่อวันที่ 16 ก.ค.50ที่ผ่านมา และนาย สุวัฒน์ หรือ บอล โชติช่วง อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7 ตอกหลังอำเภอเมืองนครปฐม ถ.เกษา ซ.ข้าง ร.ร.ราชินีบูรณะ อ.เมือง จ.นครปฐม ซึ่งเป็นคนที่กระชากกระเป๋าเงินหลังจากนาย สิทธิพร โดนยิงจนเสียชีวิต แล้วขับรถจักรยานยนต์มุ่งหน้าหลบหนี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านที่มามุงดูการทำแผนได้ทำการตะโกนด่าทอ 2 ผู้ต้องหาอย่างหยาบคายและในช่วงท้ายการทำแผนกลุ่มไทยมุงกว่า 50คนได้กรูเข้าหา2ผู้ต้องหาเพื่อประชาทัณฑ์ผู้ต้องหาทั้งสองทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องรีบกันประชาชนและอีกส่วนหนึ่งได้ทำการคุ้มกัน2 ผู้ต้องรีบนำตัวขึ้นรถสายตรวจและรีบออกจากที่เกิดเหตุทันที หลังจากเจ้าหน้าที่คุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คนทำแผนเสร็จได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนไปควบคุมที่สภ.อ.สามพราน จ.นครปฐม เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติมสืบสวนขยายผลในคดีอื่นๆที่กลุ่มผู้ต้องหากกลุ่มนี้ได้ก่อคดีไว้อีกกว่า 20 คดีในพื้นที่ภาคกลาง
พล.ต.ต.รชต เย็นทรวง รอง ผบช.ภาค 7 ได้เปิดเผยเกี่ยวกับคดีนี้ว่า จากการที่เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 50 ที่ผ่านมา สภ.อ.สามพรานได้จับกุมกลุ่มผู้ต้องหาทั้งสองคนนี้ที่ก่อคดีปล้นทรัพย์ในท้องที่สภ.อ.สามพราน จ.นครปฐม โดยคนร้ายแก็งค์นี้มีผู้ร่วมแก็งค์จำนวน 4 คน จับได้ 2 คน และถูกเจ้าทุกข์ผู้เสียหายยิงเสียชีวิตไป 1 คน และเมื่อมีการสนอบปากคำผู้ต้องหาทั้งสองคนได้ให้การรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุปล้นทรัพย์มากว่า 20 คดี ซึ่งรวมทั้งก่อเหตุชิงทรัพย์และยิงดีเจในท้องที่สภ.ต.ลูกแกอีกด้วย ดังนั้นจึงนำตัวมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ส่วนหากประชาชนท่านใดที่ถูกก่อเหตุในทำนองนี้ก็สามารถติดต่อดูตัวคนร้ายทั้งสองคนนี้ได้ที่สภ.อ.สามพรานเพื่อจะได้ทำการสอบสวนขยายผลในคราวเดียวกัน
พ.ต.อ.เรวัธ กลิ่นเกสร รอง ผบก.ศสส.ภ.7 เปิดเผยเกี่ยวกับพฤติการณ์ของโจรแก็งค์นี้ว่า คนร้ายแก็งนี้มี 4 คน ถูกจับ แล้ว 2 คน คือ นาย สุวัฒน์ หรือบอล โชติช่วงและ นาย สมชาย หรือจักร กองเสม ส่วนอีกคนถูกผู้เสียหายยิงเสียชีวิตในท้องที่ สภ.อ.สามพราน ยังหลบหนีอีก 1 คนยังทำการติดตามอยู่ ส่วนพยานหลักฐานที่เชื่อได้ว่าทั้งสองผู้ต้องหาก่อเหตุคือการตรวจพิสูจน์หัวกระสุนคือปืนพกสั้นขนาด 9 มม.กับปืนพกสั้นขนาด .22 ที่ยึดได้จากคนร้ายกลุ่มที่ขณะก่อเหตุที่ท้องที่ สภ.อ.สามพราน