แพร่ – สาธารณสุขแพร่เตือนลาบหมู/หลู้ดิบ มีเชื้อหูดับ ปวดกระดูกสันหลัง ตาบอด จนอาจถึงตาย เร่งคนแพร่เปลี่ยนวัฒนธรรมการกินลาบหมูดิบ ต้นเหตุติดเชื้อสเตปโตคอกคัล ซูอิส ระบุมีคนเสียชีวิตแล้ว 100 ราย
นายแพทย์ปรีดา ดีสุวรรณ สาธารณสุขจังหวัดแพร่ เปิดเผยว่า ผู้ติดเชื้อสเตปโตคอกคัล ซูอิส (streptococcus suits) ซึ่งมาจากการรับประทานเนื้อสุกรดิบๆ หรือสุกๆ ดิบๆ ทั่วประเทศพบผู้ป่วยแล้วจำนวน 100 ราย ในจังหวัดแพร่พบจำนวน 1 ราย ในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิตแล้วจำนวน 10 ราย
แนวโน้มในจังหวัดแพร่ โรคดังกล่าวน่าจะมีโอกาสระบาดมากขึ้น เนื่องจากวัฒนธรรมการบริโภค ชาวแพร่ชอบรับประทานเนื้อหมูดิบในการทำลาบ หลู้ รับประทานเลือดหมูสดๆ ถ้ายังไม่มีการระวังปัญหาการเสียชีวิตจากโรคดังกล่าวจะเกิดมากขึ้น
เชื้อโรคดังกล่าวมีอยู่ในโพรงจมูกและลำคอของสุกร แต่จะมีฤทธิ์รุนแรงจากภูมิคุ้มกันหมูอ่อนแอลง จากอาการป่วย อ่อนแอ และเสียชีวิตลง เชื้อจะแพร่ไปกับน้ำลายของสุกร ถ้ามีการรับประทานหมูดิบ เชื้อก็จะเข้าสู่ร่างกาย หลังจากนั้น เพียง 1-3 วัน ผู้รับเชื้อจะมีอาการป่วยมีไข้ขึ้นสูง ปวดตามข้อ ปวดเมื่อยตามตัว และปวดกระดูกสันหลัง มีอาการเวียนศีรษะมาก รู้สึกเหมือนกับโลกหมุน หูจะได้ยินเสียงลดลงจนถึงขึ้นหูหนวก และตาบอด บางรายมีอาการเป็นอัมพาต
ส่วนแนวทางแก้ไขนายแพทย์ปรีดา กล่าวว่า การฆ่าสุกรจำหน่ายควรอยู่ในการควบคุมด้านโรคติดต่อไม่ควรฆ่าสุกรรับประทานเอง หรือซื้อจากโรงฆ่าสัตว์ที่มีมาตรฐาน และที่สำคัญต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหารหันมารับประทานหมูสุก ถ้าพบผู้ป่วยมีอาการดังกล่าวหรือคล้ายให้รีบไปพบแพทย์โดยด่วน ก่อนที่โรคดังกล่าวจะรุกลามหนักจนยากแก่การรักษาต่อไป
นายแพทย์ปรีดา ดีสุวรรณ สาธารณสุขจังหวัดแพร่ เปิดเผยว่า ผู้ติดเชื้อสเตปโตคอกคัล ซูอิส (streptococcus suits) ซึ่งมาจากการรับประทานเนื้อสุกรดิบๆ หรือสุกๆ ดิบๆ ทั่วประเทศพบผู้ป่วยแล้วจำนวน 100 ราย ในจังหวัดแพร่พบจำนวน 1 ราย ในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิตแล้วจำนวน 10 ราย
แนวโน้มในจังหวัดแพร่ โรคดังกล่าวน่าจะมีโอกาสระบาดมากขึ้น เนื่องจากวัฒนธรรมการบริโภค ชาวแพร่ชอบรับประทานเนื้อหมูดิบในการทำลาบ หลู้ รับประทานเลือดหมูสดๆ ถ้ายังไม่มีการระวังปัญหาการเสียชีวิตจากโรคดังกล่าวจะเกิดมากขึ้น
เชื้อโรคดังกล่าวมีอยู่ในโพรงจมูกและลำคอของสุกร แต่จะมีฤทธิ์รุนแรงจากภูมิคุ้มกันหมูอ่อนแอลง จากอาการป่วย อ่อนแอ และเสียชีวิตลง เชื้อจะแพร่ไปกับน้ำลายของสุกร ถ้ามีการรับประทานหมูดิบ เชื้อก็จะเข้าสู่ร่างกาย หลังจากนั้น เพียง 1-3 วัน ผู้รับเชื้อจะมีอาการป่วยมีไข้ขึ้นสูง ปวดตามข้อ ปวดเมื่อยตามตัว และปวดกระดูกสันหลัง มีอาการเวียนศีรษะมาก รู้สึกเหมือนกับโลกหมุน หูจะได้ยินเสียงลดลงจนถึงขึ้นหูหนวก และตาบอด บางรายมีอาการเป็นอัมพาต
ส่วนแนวทางแก้ไขนายแพทย์ปรีดา กล่าวว่า การฆ่าสุกรจำหน่ายควรอยู่ในการควบคุมด้านโรคติดต่อไม่ควรฆ่าสุกรรับประทานเอง หรือซื้อจากโรงฆ่าสัตว์ที่มีมาตรฐาน และที่สำคัญต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหารหันมารับประทานหมูสุก ถ้าพบผู้ป่วยมีอาการดังกล่าวหรือคล้ายให้รีบไปพบแพทย์โดยด่วน ก่อนที่โรคดังกล่าวจะรุกลามหนักจนยากแก่การรักษาต่อไป