เพลี้ยไฟบุกนาข้าวอุบลฯเสียหายหลายร้อยไร่

อุบลราชธานี- เพลี้ยไฟบุกนาข้าวใน กิ่ง อ.นาตาล จ.อุบลฯเกือบทั้งอำเภอ ต้นข้าวเสียหายหลายร้อยไร่ แนะทางออกต้องดูแลแปลงข้าวระยะกล้าอย่าให้ขาดน้ำ เมื่อพบการระบาดระยะต้นให้ปล่อยน้ำให้ท่วมยอดข้าวทิ้งไว้ 1-2 วัน ใส่ปุ๋ยเร่งการเจริญเติบโต เมื่อตรวจพบปลายใบม้วนมากกว่า 20% ต้องใช้สารเคมีฉีดป้องกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ได้เกิดโรคเพลี้ยไฟระบาดในพื้นที่นาข้าว กิ่ง อ.นาตาล จ.อุบลราชธานี เป็นบริเวณกว้างทั้งอำเภอ ทำให้ต้นข้าวได้รับความเสียหายหลายร้อยไร่ สำหรับเพลี้ยไฟเป็นแมลงจำพวกปากดูดขนาดเล็ก ลำตัวยาวประมาณ 1-2 มิลลิเมตร มีทั้งชนิดมีปีกและไม่มีปีก ตัวเต็มวัยมีสีดำ ตัวอ่อนมีสีเหลืองอ่อน ตัวเต็มวัยจะวางไข่ในเนื้อเยื่อของใบข้าว เพลี้ยไฟทั้งตัวอ่อนและตัวเต็มวัย จะทำลายข้าวโดยการดูดกินน้ำเลี้ยงจากใบข้าวที่ยังอ่อน

เมื่อใบข้าวโตขึ้นใบที่ถูกทำลายจะเหี่ยว ขอบใบจะม้วนเข้าหากลางใบ และเพลี้ยไฟจะอาศัยอยู่ในใบที่ม้วนต่อไป การระบาดของเพลี้ยไฟจะพบช่วงระยะกล้า หรือหลังปักดำ 2-3 สัปดาห์ ในพื้นที่ที่มีสภาพอากาศร้อน แห้งแล้ง หรือฝนทิ้งช่วงนานติดต่อกัน ผลการทำลายของตัวเพลี้ยไฟ ทำให้ต้นข้าวแห้งตายได้ทั้งแปลง

นางจันทร์เพ็ญ โคตรนาม ราษฎรบ้านเพชรเจริญ ต.พังเคน กิ่ง อ.นาตาล กล่าวถึงการระบาดของเพลี้ยไฟในนาข้าวเกิดติดต่อมาเป็นปีที่ 2 แล้ว โดยปีก่อนเพลี้ยไฟทำลายต้นข้าวเสียหายไปเกือบ 40 % ของแปลงนา การป้องกันปีที่ผ่านมาใช้น้ำสะเดาไปราดบริเวณเกิดการระบาด แต่ไม่สามารถช่วยลดการระบาดได้มาก

สำหรับปีนี้ หลังการปักดำต้นกล้าเพียง 2 สัปดาห์ เพลี้ยไฟเริ่มระบาดกัดกินต้นข้าวในแปลงนาอีก และยังไม่มีหน่วยเกี่ยวกับการเกษตรเข้ามาให้คำแนะนำ วิธีป้องกันและกำจัดศัตรูพืชชนิดนี้

ด้านสำนักงานเกษตรจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวถึงวิธีการป้องกันและกำจัดเพลี้ยไฟ ให้ ดูแลแปลงข้าวระยะกล้าอย่าให้ขาดน้ำ เมื่อพบการระบาดระยะต้นให้ปล่อยน้ำให้ท่วมยอดข้าวทิ้งไว้ 1-2 วัน ใส่ปุ๋ยเร่งการเจริญเติบโต เมื่อตรวจพบปลายใบม้วนมากกว่า 20% ต้องใช้สารเคมีฉีดป้องกันตามคำแนะนำ เพลี้ยไฟมีแมลงมุม และเพลี้ยไฟตัวห้ำ เป็นศัตรูตามธรรมชาติ