xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดมิสไทยแลนด์ฯเลือกเก็บตัวสาวงามที่"บ้านจอมแจ้ง" โฮมสเตย์ชื่อดังเมืองหนองคาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หนองคาย-สาวงาม 30 คน จากเวทีประกวดมิสไทยแลนด์เวิร์ล เข้าเก็บตัวและทำกิจกรรมในจังหวัดหนองคาย "ณวัฒน์"ยันประกวดปีนี้ไร้เส้นสาย ไม่มีนางงามเร่ ใหม่ถอดด้ามแทบทุกคน ก่อนผุดโครงการหาเงินช่วยครูและทหารภาคใต้ นำสาวงามร่วมรณรงค์บริจาคเงินต่อยอดเป็นโครงการถาวร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วง 1-2 วันนี้ โดยเริ่มจากเมื่อวานที่ผ่านมา (11ก.ค.) คณะผู้เข้าประกวดมิสไทยแลนด์เวิร์ล ประจำปี 2550 ที่ผ่านการคัดเลือกจำนวน 30 คน ได้เดินทางมาเก็บตัวทำกิจกรรมร่วมกับกองประกวดเพื่อเตรียมความพร้อมด้านต่าง ๆ ที่โรงแรมหนองคายแกรนด์ อ.เมืองหนองคาย โดยมีนายมานิตย์ มกรพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย พล.ต.ต.ปราโมทย์ เอี่ยมทัศน์ ผบก.ภ.จว.หนองคาย, นางอรัญญา สุจนิล ประธานหอการค้า จ.หนองคาย ได้ให้การต้อนรับพร้อมกับมอบของที่ระลึกให้ด้วย

หลังจากเสร็จสิ้นพิธีต้อนรับแล้ว คณะผู้เข้าประกวดฯ ได้เดินทางไปยังศาลหลักเมืองหนองคาย บริเวณศูนย์ราชการ จ.หนองคาย เพื่อร่วมกันสักการะศาลหลักเมือง ต่อด้วยการทำกิจกรรมที่โรงเรียนอนุบาลน้ำผึ้ง ชมการแสดงจากนักเรียนชั้นอนุบาลของโรงเรียน ซึ่งทางโรงเรียนได้ฝึกหัดฟ้อนรำประกอบเพลงและเป่าแคนในรูปแบบไทยอีสาน และชมการเรียนการสอนของโรงเรียนพร้อมทั้งเล่นเปียโนและเล่นคอมพิวเตอร์กับเด็ก ๆ ด้วย

นอกจากนักเรียนและครูแล้วยังได้รับความสนใจจากผู้ปกครองนักเรียนมาร่วมต้อนรับคณะผู้เข้าประกวดและชื่นชมในความสวยงามของบรรดาสาวงามเหล่านี้ด้วย

หลังจากนั้น คณะผู้เข้าประกวดฯ ทุกคนได้ขึ้นรถโดยสารปรับอากาศ ไปยังวัดโพธิ์ชัย พระอารามหลวง อ.เมืองหนองคาย เพื่อกราบไหว้ สักการะ หลวงพ่อพระใส พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองชาวหนองคาย ชมความงดงามของสถาปัตยกรรมภาพฝาผนังภายในอุโบสถ ก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังหมู่บ้านจอมแจ้ง ต.สีกาย อ.เมืองหนองคาย พักค้างคืนกับชาวบ้านในรูปแบบโฮมเสตย์ และทำกิจกรรมตามแบบฉบับเกษตรกรชาวอีสาน ซึ่งชาวบ้านได้ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น

สำหรับกิจกรรมในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ คณะผู้เข้าประกวดฯได้สัมผัสกับการนั่งรถไถนา หรือ รถอีแต๊กของชาวบ้าน เพื่อไปทำกิจกรรมให้อาหารปลากระชัง ริมฝั่งแม่น้ำโขง บ้านเจริญสุข ต.หินโงม ซึ่งสาวงามส่วนใหญ่ไม่เคยนั่งรถอีแต๊กมาก่อน นับเป็นประสบการณ์ครั้งแรกในชีวิต

นายณวัฒน์ อิสระไกรศีล ผู้จัดการประกวด กล่าวว่า การประกวดมิสไทยแลนด์เวิร์ล ปีนี้ จะเน้นว่า งามอย่างมีคุณค่าในแบบฉบับความพอเพียง โดยได้ค้นหาข้อมูลพื้นที่ที่เป็นชนบทที่เป็นกลาง ๆ กล่าวคือ ไม่ชนบทแร้นแค้นเกินไป หรือไม่ทันสมัยฟู่ฟ่าเกินไป จะมีหลายหมู่บ้านที่เจ้าหน้าที่นำข้อมูลมาให้ศึกษา ก็พบว่าที่บ้านจอมแจ้ง จ.หนองคาย นั้นมีวัด,แม่น้ำโขง,วัฒนธรรม,กลุ่มแม่บ้าน,โอท็อป,การทำนา และมีการประมงริมแม่น้ำ ทำให้ได้ความคิดรวมยอดชัดเจนและครบถ้วน ซึ่งจะทำให้ผู้เข้าประกวดได้ฝึกความสามารถ ตอบโจทก์ความพอเพียงได้อย่างชัดเจนที่สุด

เพราะทุกขั้นตอนที่มาทำกิจกรรมและเก็บตัวที่นี่จะได้ออกอากาศทางช่อง 3 วันที่ 30 ก.ค. และภาพบางส่วนจะได้ออกอากาศในวันถ่ายทอดสด วันที่ 4 ส.ค.นี้ ที่สำคัญคือจะทำให้ทราบว่าผู้เข้าประกวดที่ผ่านเข้ารอบจะใช้ไหวพริบปฏิภาณในการปรับตัวเองให้เข้ากับวิถีชีวิตกับชาวบ้านได้เร็วแค่ไหน ต้องยอมรับว่าหลายคนไม่เคยเห็นวิถีชีวิตแบบนี้เลย เพราะหลายคนเป็นลูกครึ่ง บางคนเพิ่งเรียนจบจากรั้วมหาวิทยาลัย เพิ่งได้รับปริญญา สามารถผ่านการใช้ชีวิตนอกห้องเรียนได้ดีเพียงใด

สำหรับกิจกรรมต่าง ๆ ที่จัดให้คณะผู้เข้าประกวดได้ทำ เช่น ดำนา ฝึกหัดทำอาหาร เลี้ยงปลากระชัง ทำบุญ ตักบาตร ไหว้พระ เหล่านี้ จัดกิจกรรให้สอดคล้องกับวิถีชีวิต ธรรมชาติ และวัฒนธรรมของประชาชนคนไทยส่วนใหญ่ทั้งประเทศ จะสะท้อนความสุขที่แท้จริงว่าไม่ต้องวิ่งเข้าหาความเจริญตามห้างสรรพสินค้าหรือบนท้องถนนที่รถติดแน่นขนัด บางทีการอยู่และใช้ชีวิตแบบชนบทก็เป็นการอยู่แบบพอเพียงจริง ๆ การพอเพียงไม่ใช่ว่าทุกข์ หรือความไม่ขาดหาย แต่สิ่งที่การประกวดครั้งนี้จะบ่งบอกได้ชัดคือการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกายสบายใจในแบบฉบับความพอเพียง

ผู้เข้าประกวดเหล่านี้ต้องเดินทางไปเก็บตัวอย่างประเทศ เช่น พม่า,เวียดนาม และลาว ด้วย ซึ่งนายณวัฒน์ กล่าวถึงเหตุผลที่ต้องเก็บตัวต่างประเทศว่า เรื่องของความพอเพียงจะเป็นศัพท์ที่เป็นแฟชั่นในตอนนี้ ทุกคนพูดได้ แต่มีไม่กี่คนที่เห็นความพอเพียงที่แท้จริง ประเทศเพื่อนบ้านเหล่านี้อาจจะมีได้ใช้คำว่าพอเพียง แต่เขาใช้หลักการพอเพียงเดียวกัน ดังนั้นไม่ว่าจะไปที่เวียงจันทน์ พนมเปญ หรือ ย่างกุ้ง จะเห็นว่าถนน 1 สาย มีวัดไม่ต่ำกว่า 10 วัด แต่ไม่เห็นห้างสรรพสินค้าแม้แต่ห้างเดียว

ผู้ที่ชนะเลิศได้คว้ามงกุฎมิสไทยแลนด์เวิร์ลในปีนี้ จะต้องมีความสวย แต่ที่สำคัญกว่าคือต้องเป็นผู้หญิงที่พร้อมใช้ในปี 2007 เพราะในการประกวดนางงามหลายครั้งที่ผ่านมาจะทำให้เห็นว่านางงามคือ กุลสตรีที่เป็นผ้าพับไว้ เป็นการประกวดที่เป็นอาชีพ อยากให้เห็นว่าการประกวดปีนี้ไม่ได้เพื่อมุ่งรางวัลอย่างเดียว แต่เมื่อลงจากเวทีแล้วจะสามารถเข้าสู่อาชีพอื่นได้อย่างสบายที่สามารถเป็นผู้นำในอาชีพที่ทำได้ ผู้ที่เข้าประกวดในปีนี้ยืนยันว่าร้อยละ 80 เป็นสาวงามใหม่ถอดด้าม ไม่ใช่นางงามเดินสายแน่นอน และ “ยืนยันว่าการประกวดปีนี้ไม่มีการใช้เส้นสายเด็ดขาด เพราะสุดท้ายอยู่ที่ผม คะแนนทุกคะแนนอาจจะถูกตัดหรือถูกปรับออกได้โดยง่าย ระบบของเส้นสายทำลายได้หลายอย่าง แม้แต่นางงามหากเริ่มต้นด้วยการใช้เส้นสายจะเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีแก่สังคม”

นอกจากรางวัลที่สูงมากคือ เงินรางวัล 7 ล้านกว่าบาท ตำแหน่งมิสไทยแลนด์เวิร์ล แต่สิ่งที่มากกว่านั้นคือ ทางกองประกวดมีโครงการรณรงค์หาเงินช่วยเหลือครอบครัวครูที่เสียชีวิตทางภาคใต้ ฉะนั้นนางงามทั้ง 30 คน จะมีการรณรงค์หาเงินด้วยการเดินแฟชั่นโชว์การกุศลในวันที่ 20 ก.ค.นี้ที่กรุงเทพฯ โดยใช้บีทีเอสเป็นการขับเคลื่อนทั่วกรุงเทพฯ

โครงการนี้จะไม่สิ้นสุดเพียงแค่การประกวดนางงาม เมื่อเสร็จการประกวดจะหา 10 คน ที่จะเสียสละตัวเองทำโครงการนี้ต่อเนื่องแล้วไม่เพียงแต่จะช่วยครูเท่านั้น ยังจะช่วยทหาร ตำรวจ ระดมเงินช่วยเหลือแล้วนำเงินไปให้ และเป็นกำลังใจให้อย่างเต็มที่

กำลังโหลดความคิดเห็น