กาญจนบุรี – ทีมสืบสวนภาค 7 ลุยคดีฆ่า “เจ๊จู” ลงพื้นที่กาญจนบุรีหิ้วอดีตรองนายก อบต.ลุ่มสุ่ม กลุ่มคนทรงเจ้านำตัวสอบที่นครปฐม
ความคืบหน้าคดีฆ่าเจ๊จู ที่ จ.นครปฐม วันนี้ (29 มิ.ย.) เวลา 14.00 น.ศูนย์วิทยุตำรวจ สภ.อ.เมืองกาญจนบุรี ได้สั่งสกัดรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า แค็บ รุ่น ไฮลักซ์ วีโก้ สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน ตม 2077 กรุงเทพมหานคร กระบะหลังติดตั้งหลังคาแครี่บอย โดยเจ้าหน้าที่ศูนย์วิทยุได้กำชับให้ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่เมื่อพบรถยนต์คันดังกล่าวให้ใช้ความระมัดระวัง
หลังจากนั้น เวลา 14.20 น.เจ้าหน้าที่จากชุดปฏิบัติการพิเศษของ พล.ต.ต.รชต เย็นทรวง รอง ผบช.ภ.7 ประกอบด้วย ตร.ศสส.บช.ภ.7ร่วมกับ ตร.ศสส.บก.ตร.กจ.และ ตำรวจสืบสวน สภ.อ.เมืองกาญจนบุรี ได้เดินทางไปที่ร้านขายของชำ ชื่อร้านน้ำฝน ตั้งอยู่ที่ตึกอาคารพาณิชย์ ในหมู่บ้านริเวอร์แคว บ้านเลขที่ 74/192-4 ถนนแม่น้ำแคว หมู่ 1 ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เพื่อตรวจยึดรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า แค็บ รุ่น ไฮลักซ์ วีโก้ สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน ตม 2077 กรุงเทพมหานคร ที่จอดอยู่ข้างบ้านหลังดังกล่าว และควบคุมตัวนายมนตรี ดาเปรม อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80 หมู่ 9 ต.ลุ่มสุ่ม อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี อดีตรองนายก อบต.ลุ่มสุ่ม ซึ่งเป็นผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าว เพื่อนำตัวไปสอบสวนปากคำที่ สภ.อ.เมืองนครปฐม ซึ่งน่าจะเป็นการสอบถามเกี่ยวกับคดีมือปืนยิงเจ๊จู ส่วนรถยนต์กระบะได้นำมาจอดรักษาไว้ที่ สภ.อ.เมืองกาญจนบุรี
หลังจากนั้น ทีมสืบสวนคลรี่คลายคดีฆ่าเจ๊จู ชุด ฉก.พล.ต.ต.รชต เย็นทรวง รอง ผบช.ภ.7 ได้นำตัวนายมนตรีขึ้นรถยนต์ออกเดินทางไป จ.นครปฐม เพื่อสอบสวน ในเบื้องต้นยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาและเปิดเผยเกี่ยวกับการควบคุมตัวนายมนตรีใดๆ ทั้งสิ้น
มีรายงานข่าวว่า นายมนตรี ผู้ที่ถูกเชิญตัวไปสอบสวนที่ สภ.อ.เมืองนครปฐม ถือว่าเป็นลูกน้องคนสนิทของร่างทรงแม่พระธรณีและเซียนดำ ที่เป็นข่าวว่าอาจจะเกี่ยวพันกับการตายของเจ๊จู
ต่อมา เวลา 16.00 น.นางสุทธาพร มฤคพิทักษ์ กลุ่มเพื่อนนายสมชาติสามีเจ๊จูที่เป็นผู้ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อ นพ.วัลลภ ไทยเหนือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้ช่วยเหลือนายสมชาติที่ถูกส่งตัวเข้ารักษาที่สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ ได้เดินทางมาที่ร้านน้ำฝน เพื่อมาพบ นางนวลพร ร่างทรงประจำสำนักแม่พระธรณีดังกล่าว โดยนางกาญน์ลดาได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับการควบคุมตัวนายมนตรีในครั้งนี้ ว่า ตนอยู่ที่สำนักงานที่ดินจังหวัดกาญจนบุรีและมีคนแจ้งว่าตำรวจจากนครปฐมมาจับตัวนายมนตรีและพาตัวไปที่จ.นครปฐม ดดยตนได้พูดคุยกับตำรวจทางโทรศัพท์บอกว่าให้รอทนายความก่อนเขาก็ไม่รอควบคุมตัวไปเลย
นางสุทธาพร มฤคพิทักษ์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของพวกเราถือว่าเป็นเพื่อนของคุณสมชาติที่แรกเราเรียกรองความเป็นธรรมให้กับคุณสมชาติ แต่ไม่นึกว่าเรื่องต่างๆจะบานปลาย เราเองก็รูสึกตกใจเมื่อทราบข่าวของคุณสุกัญญา แต่ก็เชื่อมั่นว่า ทางตำรวจจะทำหน้าที่สืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ แต่จากการดูการเสนอข่าวทางสื่อมวลชน กลับเป็นการนำเสนอข่าวชี้นำประเด็นที่พุ่งเป้ามาที่พวกเรา ทำเหมือนกลับเราถูกพิพากษาทางสื่อมวลชน ทั้งที่ทุกอย่างต้องเป็นหน้าที่ของตำรวจที่สอบสวนหาข้อเท็จจริงต่างๆ เพื่อจับคนร้ายให้ได้ สื่อต้องเสนอข่างอย่างเป็นกลางและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายโดยไม่นำเสนอข่าวชี้นำ
ในส่วนของเรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้อยากขอภาวนาให้คุณสมชาติปลอดภัยและออกมาบอกกับสังคมว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเราไม่เกี่ยวข้อง แต่คุณสมชาติ ถือว่า เป็นกุญแจที่กุมความลับทั้งหมด ซึ่งบางเรื่องเป็นเรื่องส่วนตัวของครอบครัวเขาเอง เราไม่อยากเข้าไปยุ่ง คงต้องภาวนาให้คุณสมชาติปลอดภัยและออกมาพูดต่อสาธารณะว่าความจริงคืออะไร ในส่วนของนายมนตรีที่ถูกควบคุมตัวไป อยากให้ตำรวจให้ความเป็นธรรมกับเขาด้วย อย่าไปทำอะไรเพื่อให้เขาต้องรับเคราะห์ต่างๆ เราก็เป็นห่วงมาก เพราะถามอะไรจากตำรวจที่มาเอาตัวไปไม่ได้รับคำตอบทั้งสิ้น บอกว่ามาจากนครปฐมเพื่อเอาตัวไปสอบสวนอย่างเดียว เอกสารหมายต่างๆก็ไม่มีแสดงให้ดูทั้งสิ้นตรงนี้อยากให้สื่อให้ความเป็นธรรมด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสุทธาพร มฤคพิทักษ์ ได้มอบซีดีบันทึกเสียงแก่ผู้สื่อข่าว โดยในซีดีมีเสียงบันทึกการสนทนาระหว่างกลุ่มตนเอง กับบุตรของนายสมชาติที่ตามถ่ายรูปพวกตนเมื่อวันที่ 11 มิ.ย.2550 ที่ผ่านมาอีกด้วย โดยนางกาญจน์ลดา บอกกับสื่อว่า พวกตนถูกกระทำอย่างไม่เหมาะสมจากการกระทำในครั้งนี้อีกด้วย ซึ่งเสียงที่บันทึกลงแผ่นซีดีเป็นการสนทนาของผู้ชายกับผู้หญิงเกี่ยวกับเรื่องการแอบถ่ายรูป ซึ่งเสียงผู้หญิงได้อธิบายเกี่ยวกับเรื่องความเป็นเพื่อนของนายสมชาติและมีแต่ความหวังดีต่อนายสมชาติที่กลุ่มเพื่อนต้องช่วยเหลือเพื่อน และตำหนิการกระทำของผู้ชายที่แอบถ่ายรูปพวกตน ซึ่งเสียงของผู้ชายได้กล่าวขอโทษในการถ่ายรูปดังกล่าวด้วย
ความคืบหน้าคดีฆ่าเจ๊จู ที่ จ.นครปฐม วันนี้ (29 มิ.ย.) เวลา 14.00 น.ศูนย์วิทยุตำรวจ สภ.อ.เมืองกาญจนบุรี ได้สั่งสกัดรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า แค็บ รุ่น ไฮลักซ์ วีโก้ สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน ตม 2077 กรุงเทพมหานคร กระบะหลังติดตั้งหลังคาแครี่บอย โดยเจ้าหน้าที่ศูนย์วิทยุได้กำชับให้ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่เมื่อพบรถยนต์คันดังกล่าวให้ใช้ความระมัดระวัง
หลังจากนั้น เวลา 14.20 น.เจ้าหน้าที่จากชุดปฏิบัติการพิเศษของ พล.ต.ต.รชต เย็นทรวง รอง ผบช.ภ.7 ประกอบด้วย ตร.ศสส.บช.ภ.7ร่วมกับ ตร.ศสส.บก.ตร.กจ.และ ตำรวจสืบสวน สภ.อ.เมืองกาญจนบุรี ได้เดินทางไปที่ร้านขายของชำ ชื่อร้านน้ำฝน ตั้งอยู่ที่ตึกอาคารพาณิชย์ ในหมู่บ้านริเวอร์แคว บ้านเลขที่ 74/192-4 ถนนแม่น้ำแคว หมู่ 1 ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เพื่อตรวจยึดรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า แค็บ รุ่น ไฮลักซ์ วีโก้ สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน ตม 2077 กรุงเทพมหานคร ที่จอดอยู่ข้างบ้านหลังดังกล่าว และควบคุมตัวนายมนตรี ดาเปรม อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80 หมู่ 9 ต.ลุ่มสุ่ม อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี อดีตรองนายก อบต.ลุ่มสุ่ม ซึ่งเป็นผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าว เพื่อนำตัวไปสอบสวนปากคำที่ สภ.อ.เมืองนครปฐม ซึ่งน่าจะเป็นการสอบถามเกี่ยวกับคดีมือปืนยิงเจ๊จู ส่วนรถยนต์กระบะได้นำมาจอดรักษาไว้ที่ สภ.อ.เมืองกาญจนบุรี
หลังจากนั้น ทีมสืบสวนคลรี่คลายคดีฆ่าเจ๊จู ชุด ฉก.พล.ต.ต.รชต เย็นทรวง รอง ผบช.ภ.7 ได้นำตัวนายมนตรีขึ้นรถยนต์ออกเดินทางไป จ.นครปฐม เพื่อสอบสวน ในเบื้องต้นยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาและเปิดเผยเกี่ยวกับการควบคุมตัวนายมนตรีใดๆ ทั้งสิ้น
มีรายงานข่าวว่า นายมนตรี ผู้ที่ถูกเชิญตัวไปสอบสวนที่ สภ.อ.เมืองนครปฐม ถือว่าเป็นลูกน้องคนสนิทของร่างทรงแม่พระธรณีและเซียนดำ ที่เป็นข่าวว่าอาจจะเกี่ยวพันกับการตายของเจ๊จู
ต่อมา เวลา 16.00 น.นางสุทธาพร มฤคพิทักษ์ กลุ่มเพื่อนนายสมชาติสามีเจ๊จูที่เป็นผู้ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อ นพ.วัลลภ ไทยเหนือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้ช่วยเหลือนายสมชาติที่ถูกส่งตัวเข้ารักษาที่สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ ได้เดินทางมาที่ร้านน้ำฝน เพื่อมาพบ นางนวลพร ร่างทรงประจำสำนักแม่พระธรณีดังกล่าว โดยนางกาญน์ลดาได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับการควบคุมตัวนายมนตรีในครั้งนี้ ว่า ตนอยู่ที่สำนักงานที่ดินจังหวัดกาญจนบุรีและมีคนแจ้งว่าตำรวจจากนครปฐมมาจับตัวนายมนตรีและพาตัวไปที่จ.นครปฐม ดดยตนได้พูดคุยกับตำรวจทางโทรศัพท์บอกว่าให้รอทนายความก่อนเขาก็ไม่รอควบคุมตัวไปเลย
นางสุทธาพร มฤคพิทักษ์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของพวกเราถือว่าเป็นเพื่อนของคุณสมชาติที่แรกเราเรียกรองความเป็นธรรมให้กับคุณสมชาติ แต่ไม่นึกว่าเรื่องต่างๆจะบานปลาย เราเองก็รูสึกตกใจเมื่อทราบข่าวของคุณสุกัญญา แต่ก็เชื่อมั่นว่า ทางตำรวจจะทำหน้าที่สืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ แต่จากการดูการเสนอข่าวทางสื่อมวลชน กลับเป็นการนำเสนอข่าวชี้นำประเด็นที่พุ่งเป้ามาที่พวกเรา ทำเหมือนกลับเราถูกพิพากษาทางสื่อมวลชน ทั้งที่ทุกอย่างต้องเป็นหน้าที่ของตำรวจที่สอบสวนหาข้อเท็จจริงต่างๆ เพื่อจับคนร้ายให้ได้ สื่อต้องเสนอข่างอย่างเป็นกลางและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายโดยไม่นำเสนอข่าวชี้นำ
ในส่วนของเรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้อยากขอภาวนาให้คุณสมชาติปลอดภัยและออกมาบอกกับสังคมว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเราไม่เกี่ยวข้อง แต่คุณสมชาติ ถือว่า เป็นกุญแจที่กุมความลับทั้งหมด ซึ่งบางเรื่องเป็นเรื่องส่วนตัวของครอบครัวเขาเอง เราไม่อยากเข้าไปยุ่ง คงต้องภาวนาให้คุณสมชาติปลอดภัยและออกมาพูดต่อสาธารณะว่าความจริงคืออะไร ในส่วนของนายมนตรีที่ถูกควบคุมตัวไป อยากให้ตำรวจให้ความเป็นธรรมกับเขาด้วย อย่าไปทำอะไรเพื่อให้เขาต้องรับเคราะห์ต่างๆ เราก็เป็นห่วงมาก เพราะถามอะไรจากตำรวจที่มาเอาตัวไปไม่ได้รับคำตอบทั้งสิ้น บอกว่ามาจากนครปฐมเพื่อเอาตัวไปสอบสวนอย่างเดียว เอกสารหมายต่างๆก็ไม่มีแสดงให้ดูทั้งสิ้นตรงนี้อยากให้สื่อให้ความเป็นธรรมด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสุทธาพร มฤคพิทักษ์ ได้มอบซีดีบันทึกเสียงแก่ผู้สื่อข่าว โดยในซีดีมีเสียงบันทึกการสนทนาระหว่างกลุ่มตนเอง กับบุตรของนายสมชาติที่ตามถ่ายรูปพวกตนเมื่อวันที่ 11 มิ.ย.2550 ที่ผ่านมาอีกด้วย โดยนางกาญจน์ลดา บอกกับสื่อว่า พวกตนถูกกระทำอย่างไม่เหมาะสมจากการกระทำในครั้งนี้อีกด้วย ซึ่งเสียงที่บันทึกลงแผ่นซีดีเป็นการสนทนาของผู้ชายกับผู้หญิงเกี่ยวกับเรื่องการแอบถ่ายรูป ซึ่งเสียงผู้หญิงได้อธิบายเกี่ยวกับเรื่องความเป็นเพื่อนของนายสมชาติและมีแต่ความหวังดีต่อนายสมชาติที่กลุ่มเพื่อนต้องช่วยเหลือเพื่อน และตำหนิการกระทำของผู้ชายที่แอบถ่ายรูปพวกตน ซึ่งเสียงของผู้ชายได้กล่าวขอโทษในการถ่ายรูปดังกล่าวด้วย