xs
xsm
sm
md
lg

ร้องศาลปกครองสั่งเลิกรื้อ 3 ฝายเก่าแม่น้ำปิงสร้างประตูน้ำ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ฝายพญาคำหรือฝายท่าศาลา ที่กลุ่มผู้ใช้น้ำไม่ต้องการให้รื้อทิ้งเพื่อสร้างประตูระบายน้ำ พร้อมทั้งยืนยันว่าฝายแห่งนี้ รวมทั้งฝายเก่าแก่อื่นๆ ที่มีอยู่ในแม่น้ำปิง ไม่ได้เป็นสาเหตุของน้ำท่วมเมืองเชียงใหม่
ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – กลุ่มผู้ใช้น้ำ 3 ฝายโบราณในแม่น้ำปิงเตรียมยื่นคำร้องต่อศาลปกครองเชียงใหม่ขอให้มีคำสั่งยกเลิกโครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำในแม่น้ำปิง มูลค่า 500 ล้านบาทของกรมชลประทาน ซึ่งจะเป็นเหตุให้ต้องรื้อฝายทั้ง 3 แห่งทิ้ง ชี้เป็นโครงการที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาน้ำท่วมเมืองเชียงใหม่ได้จริง และยังเป็นการทำลายภูมิปัญหาท้องถิ่นที่สืบทอดมาหลายชั่วอายุคนอีกด้วย ด้านอธิบดีกรมการขนส่งทางน้ำฯ ยืนยันการแก้ปัญหาน้ำท่วมเชียงใหม่ให้ได้ผลต้องรื้อฝายแล้วสร้างประตูระบายน้ำทดแทน

บ่ายวันนี้ (27 มิ.ย.) นายหมื่น ทิพยเนตร ประธานกลุ่มผู้ใช้น้ำฝายพญาคำ นายสมบูรณ์ บุญชู รองประธานกลุ่มผู้ใช้น้ำฝายพญาคำ และนายกว้าง เกิดศรี ประธานกลุ่มผู้ใช้น้ำฝายหนองผึ้ง ได้เป็นตัวแทนกลุ่มผู้ใช้น้ำเหมืองฝายในแม่น้ำปิง เข้ายื่นคำร้องต่อศาลปกครองเชียงใหม่ เพื่อขอให้พิจารณายกเลิกโครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำในแม่น้ำปิงพร้อมรื้อย้ายฝายเก่า 3 แห่ง ที่ประกอบด้วย ฝายพญาคำ ฝายหนองผึ้ง และฝายท่าวังตาล ของกรมชลประทาน ที่อ้างว่าจะช่วยแก้ไขปัญหาน้ำท่วมเมืองเชียงใหม่และกักเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้ง

กลุ่มผู้ใช้น้ำเหมืองฝายในแม่น้ำปิงไม่เห็นด้วย เพราะมองว่าเป็นการแก้ไขปัญหาที่ไม่ถูกวิธีและไม่เชื่อว่าจะได้ผล รวมทั้งจะเป็นการทำลายจิตวิญญาณและความรู้ภูมิปัญญาในการจัดการน้ำของท้องถิ่นที่สืบทอดมายาวนานด้วย อย่างไรก็ตามในเบื้องต้นยังไม่สามารถยื่นคำร้องได้เนื่องจากคำร้องยังขาดความสมบูรณ์ โดยทางเจ้าหน้าที่ศาลปกครองเชียงใหม่ได้แนะนำให้กลับไปปรับปรุงแก้ไข ซึ่งตัวแทนกลุ่มผู้ใช้น้ำเหมืองฝายในแม่น้ำปิงมีกำหนดจะนำคำร้องกลับมายื่นใหม่อีกครั้งในวันที่ 2 ก.ค.2550

ทั้งนี้ นายสมบูรณ์ กล่าวว่า ทางกลุ่มผู้ใช้น้ำเหมืองฝายในแม่น้ำปิงทั้ง 3 แห่ง รวมทั้งฝายอื่นๆ อีกนับสิบแห่ง ไม่เห็นด้วยกับโครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำในแม่น้ำปิงแล้วรื้อฝายที่มีอยู่เดิม 3 แห่ง ได้แก่ ฝายพญาคำ ฝายหนองผึ้งและฝายท่าวังตาล ออกไป โดยอ้างว่าจะช่วยป้องกันแก้ไขน้ำท่วมเมืองเชียงใหม่ได้ ซึ่งไม่เป็นความจริง จึงจะยื่นคำร้องต่อศาลปกครองเชียงใหม่เพื่อให้พิจารณายกเลิกโครงการดังกล่าวมูลค่า 500 ล้านบาทของกรมชลประทาน เพราะนอกจากจะเป็นการใช้จ่ายงบประมาณโดยเปล่าประโยชน์ เนื่องจากไม่สามารถแก้ไขปัญหาน้ำท่วมได้แล้ว ยังจะเป็นการทำลายภูมิปัญญาในการจัดการทรัพยากรน้ำที่สืบทอดมายาวนานหลายชั่วอายุคนของท้องถิ่นอีกด้วย และจะทำให้เกิดปัญหาการจัดการทรัพยากรน้ำของชุมชนตามมาในอนาคต
นายสมบูรณ์ บุญชู
ขณะเดียวกัน รองประธานกลุ่มผู้ใช้น้ำฝายพญาคำ ยืนยันว่า ฝายทั้ง 3 แห่งที่ตกเป็นเป้าหมายของความพยายามที่จะรื้อทิ้งเพื่อสร้างประตูระบายน้ำขึ้นทดแทนนั้น ไม่ได้เป็นสาเหตุของปัญหาน้ำท่วมเมืองเชียงใหม่ พร้อมเสนอแนะว่า หากทางกรมชลประทานต้องการ และมีความจำเป็นที่จะต้องก่อสร้างประตูระบายน้ำในแม่น้ำปิง เพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาน้ำท่วมเมืองเชียงใหม่ให้ได้จริงๆ ควรจะไปทำการก่อสร้างในช่วงต้นของลำน้ำแม่ปิงหรือช่วงก่อนที่แม่น้ำปิงจะไหลผ่านเข้าสู่ตัวเมืองเชียงใหม่ เพื่อจะได้สามารถใช้ป้องกันปริมาณน้ำที่จะไหลเข้ามาท่วม

ด้าน นายประสงค์ ตันมณีวัฒนา อธิบดีกรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมเมืองเชียงใหม่นั้น นอกจากการขุดลอกขยายความกว้างของแม่น้ำปิง ช่วงผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ให้มีความกว้าง 90 เมตร เพื่อให้สามารถรองรับปริมาณน้ำได้เพิ่มขึ้นแล้ว ยังมีความจำเป็นที่จะต้องรื้อฝายทั้ง 3 แห่งในแม่น้ำปิงออก แล้วสร้างประตูระบายน้ำขึ้นทดแทนด้วย จึงจะสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากปัจจุบันฝายดังกล่าวเป็นสิ่งกีดขวางน้ำในช่วงน้ำหลากทำให้น้ำไม่สามารถไหลระบายได้อย่างเต็มที่ ซึ่งจะต้องมีการทำความเข้าใจกับชาวบ้านว่าแม้จะรื้อฝายออกไป แต่ประตูระบายน้ำที่สร้างขึ้นใหม่นั้น สามารถใช้ประโยชน์ได้เหมือนกับฝายที่มีอยู่เดิมทุกอย่าง และสามารถป้องกันน้ำท่วมได้ด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น