ศูนย์ข่าวศรีราชา-ชาวบ้านหมู่ 3 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง นับร้อยค้านโครงการก่อสร้างแพนท์ปูนในเขตชุมชน ร้อนถึงเจ้าหน้าที่เทศบาลต้องเข้าไกล่เกลี่ย
วันนี้ (26 มิ.ย. 50) ชาวบ้านจำนวนกว่า 100 คนในเขตพื้นที่หมู่ที่ 3 บ้านห้วยร่วม ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เดินทางเข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรม ในที่ประชุมประชาคมเทศบาลเมืองหนองปรือ เพื่อคัดค้านการก่อสร้างโรงงานผลิตปูนสำเร็จหรือแพนท์ปูน ของห้างหุ้นส่วนจำกัด ป.พิพัฒน์การโยธา ที่กำลังดำเนินการจัดสร้างในพื้นที่จำนวนกว่า 4 ไร่ เนื่องจากหวั่นเกรงปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะเรื่องของฝุ่นละอองและมลพิษทางเสียง โดยมีตัวแทนจากเทศบาลเมืองหนองปรือ สำนักงานโยธาธิการจังหวัดชลบุรี สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี เข้าร่วมประชุม
กล่าวนายมาย ไชยนิตย์ นายกเทศมนตรีเมืองหนองปรือ ชี้แจงว่า ที่ผ่านมาโรงงานได้ยื่นความจำนงขอก่อสร้างอาคารจำนวน 2 หลัง และแพนท์ปูนผสม 1 หลัง เทศบาลก็ได้อนุมัติไปตามขั้นตอนของอาคารจำนวน 2 ประเภท ยกเว้นแพนท์ผสมปูน ซึ่งพบว่าชาวบ้านได้คัดค้านจึงระงับไว้เป็นการชั่วคราวและส่งเรื่องไปยังจังหวัดชลบุรี เพื่อขอความเห็นชอบ
ต่อมาทางจังหวัดได้แจ้งให้ทราบว่า การดำเนินการดังกล่าวสามารถกระทำได้ เนื่องจากถูกต้องในเรื่องของพ.ร.บ.ควบคุมอาคาร และพ.ร.บ.ผังเมือง เพียงแต่ให้ทำประชาคมเพื่อไกล่เกลี่ยกับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย
ทางด้านตัวแทนกลุ่มชาวบ้านชี้แจงว่า โครงการดังกล่าวน่าจะสร้างปัญหาเรื่องของฝุ่นละ
อองและมลพิษทางเสียงเป็นอย่างมาก เนื่องจากโรงงานตั้งอยู่ใจกลางชุมชนและห่างจากที่พักอาศัยเพียงไม่ถึง 100 เมตร จึงเห็นควรให้แก้ไขและระงับการดำเนินการไป
ขณะที่นายชาญยุทธ เฮงตระกูล อดีต ส.ส.ชลบุรี กล่าวว่าเบื้องต้นจากการตรวจสอบเอก
สารพบว่าทางบริษัทได้ดำเนินการขออนุญาตอย่างถูกต้อง อย่างไรก็ตาม โรงงานดังกล่าวแม้จะไม่ผิดตามขั้นตอนของกฎหมาย แต่ก็ถือว่าส่งผลกระทบต่อประชาชนโดยตรงโดยเฉพาะปัญหามลพิษ แต่เมื่อได้ดำเนินการลงทุนไปแล้ว และเจ้าของกิจการก็เป็นคนในพื้นที่ก็ควรหาทางออกที่เป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย ที่จะเจรจาไกล่เกลี่ยกัน
เบื้องต้นเห็นควรให้ทำการปรับปรุงตัวแพนท์ปูนผสม ที่ต้องทำกรงครอบดักฝุ่นควันและเสียง พร้อมปรับแต่งโรงงานโยการปลูกต้นไม้ และทำแสลนท์กันฝุ่นเพื่อป้องกันปัญหาออกสู่ชุมชนต่อไป
ทั้งนี้จากผลสรุปดังกล่าวทุกฝ่าย ต่างเห็นชอบให้ติดตั้งเครื่องครอบป้องกันฝุ่นควันให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน พร้อมทำการปรับสภาพภูมิทัศน์โรงงาน จากนั้นจึงจะเรียกผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายรวมทั้งแกนนำชาวบ้านเข้ามาร่วมสังเกตการณ์ ซึ่งหากพบว่าสามารถป้องกันปัญหาได้ก็จะให้ความเห็นชอบในการดำเนินการต่อไป