xs
xsm
sm
md
lg

ถอดรหัส 3 ผู้ยิ่งใหญ่ลำปางหลังถูกตัดสิทธิ์/“พินิจ-ไพโรจน์”ดันทายาท-ไม่ทิ้ง ทรท./“บุญชู”ยันเว้นวรรคแน่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายไพโรจน์ โลห์สุนทร - นายบุญชู ตรีทอง อดีต ส.ส.ผูกขาดลำปาง ร่วมกันชูมือนายกิตติกร โลห์สุนทร ลูกชายนายไพโรจน์ เมื่อคราวลงสมัคร ส.ส.เขต 2 ลำปาง ในการเลือกตั้ง 2 เม.ย.49 ที่ผ่านมา
ลำปาง – 3 ผู้ยิ่งใหญ่ทางการเมืองเขลางค์นคร ออกปากน้อมรับคำตัดสินตุลาการ รธน.ตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี “พินิจ จันทรสุรินทร์” อดีต ส.ส.ลำปาง 12 สมัยประกาศหนุนลูกลงสนามแทน พร้อมยืนยันอยู่กับ “ทรท.” ต่อ ด้าน “ป๋าโรจน์-ไพโรจน์ โลห์สุนทร” ขอทำสวน – เฟ้นหาคนลงสนามแทน แต่ไม่ทิ้งพรรคเก่าแน่ ขณะที่ “บุญชู ตรีทอง” ประกาศอยู่อย่าง “พอเพียง” ยึดครอบครัว-ธุรกิจเป็นที่ตั้ง เมินส่งนอมินีลงสนาม ประกาศอีก 5 ปียังไม่แก่เกินแกง

หลังจากตุลาการรัฐธรรมนูญตัดสินให้ยุบพรรคไทยรักไทย และตัดสิทธิทางการเมืองของกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยทั้งหมด 111 คน ซึ่งมีชื่อ 3 ผู้ยิ่งใหญ่ทางการเมืองของจังหวัดลำปาง ที่ผูกขาดเก้าอี้ ส.ส.ของเขลางค์นครแห่งนี้มาอย่างยาวนาน ก็ติดร่างแหถูกตัดสิทธิ์ไปด้วย ทั้ง “ไพโรจน์ โลห์สุนทร – พินิจ จันทรสุรินทร์ และบุญชู ตรีทอง” ทำให้พื้นที่ลำปาง กลายเป็นอีก 1 จังหวัดที่ถูกจับจ้องว่า จะมีความเคลื่อนไหวออกมาต่อต้าน คัดค้านคำตัดสินนี้ หรือคัดค้านรัฐบาล – คมช.หรือไม่

เนื่องจากทั้ง 3 ผู้ยิ่งใหญ่ทางการเมืองของลำปางของไทยรักไทย ล้วนแต่ทรงอิทธิพลในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน

ล่าสุด “ผู้จัดการรายวัน” ได้ขอสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ 3 อดีต ส.ส.ผู้ยิ่งใหญ่ลำปาง เกี่ยวกับอนาคตทางการเมือง หลังจากที่พวกเขาต้องเจอกับวิกฤตการณ์ทางการเมืองครั้งสำคัญอีกครั้งหนึ่ง

โดยนายพินิจ จันทรสุรินทร์ ที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าของ “อาณาจักรดอยเงิน” เข้าสู่วงการเมืองตั้งแต่ปี 2518 เป็น ส.ส.ลำปาง 12 สมัย รวมกับสภานิติบัญญัติอีกหนึ่งสมัยรวม 13 สมัย เคยดำรงตำแหน่งอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร,อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยและเคยทำหน้าที่เป็นคณะกรรมการในองค์กรระหว่างประเทศอีกหลายแห่ง ทุกอย่างก็ต้องมาสะดุดหยุดลงทันที คำถามที่เกิดขึ้นคือ เขาทำใจได้หรือไม่และได้วางทายาททางการเมืองไว้อย่างไรในอนาคต

ล่าสุดนายพินิจ กล่าวยืนยันว่า ยอมรับคำตัดสินของตุลาการรัฐธรรมนูญทุกอย่าง และพร้อมยุติบทบาททางการเมืองของตนเองทั้งหมด และต้องขอบคุณประชาชนที่ให้การสนับสนุนครอบครัว “จันทรสุรินทร์” มาโดยตลอด บางคนอยากให้เขามาเล่นการเมืองอีก แต่ทั้งนี้เราต้องยึดคำตัดสินของตุลาการฯ

สำหรับอนาคตทางการเมือง เขาขอดูความชัดเจนของทุกอย่างก่อน เพราะขณะนี้รัฐธรรมนูญก็ยังไม่ออกมา กฎระเบียบของ กกต.ก็ยังไม่ชัดเจน เขตการเลือกตั้งต่างๆ ก็ยังไม่ชัดเจน จึงยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะดำเนินงานทางการเมืองต่อไปอย่างไร ระหว่างนี้ต้องขอดูความชัดเจนก่อน แต่ถึงผลจะออกมาอย่างไรก็ตาม เขาจะเป็นผู้สนับสนุนให้บุตรทั้งสองคนลงสมัคร ส.ส.ทั้ง 2 เขตแน่นอน

ส่วนที่มีข่าวว่าเขาจะพาบุตรทั้งสองย้ายไปสังกัดพรรคประชาธิปัตย์นั้น นายพินิจ ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง

“ผมยังอยู่กับไทยรักไทย ไม่ได้ย้ายไปไหนและยังไม่คิดจะย้ายด้วย ข่าวที่มีสื่อนำไปลง ไม่เคยสอบถามผมเลยเขียนเองเออเองหมด ผมยืนยันว่า ผมยังอยู่กับไทยรักไทย และขอขอบคุณพี่น้องทุกคนที่เป็นห่วงและโทรมาสอบถามตลอด เมื่อผมยุติบทบาทผมก็อยากให้ลูกมาสานต่องานต่างๆที่เคยทำไว้เพื่อประโยชน์ของพี่น้องชาวลำปางต่อไป ส่วนอดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นอดีตหัวหน้าพรรคของผมท่านก็ฝากขอบคุณพี่น้องมาด้วยเช่นกัน”

ขณะที่นายไพโรจน์ โล่ห์สุนทร อดีต ส.ส.ลำปาง 7 สมัย,อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยและอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงแนวทางการดำเนินงานทางด้านการเมืองหลังจากนี้ไปว่า ยอมรับคำตัดสินของตุลาการรัฐธรรมนูญ ซึ่งก็จะต้องยุติบทบาทของตนเอง และยังไม่คิดเอาใครมาลงสมัครหรือวางทายาททางการเมืองแทน แต่ก็ยังไม่ตัดขาดทางการเมืองไปเสียทีเดียว แต่ขณะนี้ขอใช้ชีวิตเหมือนกับประชาชนทั่วไปกลับไปทำไร่ทำสวนของตัวเองก่อน

“ป๋าโรจน์” หนึ่งในผู้ยิ่งใหญ่ทางการเมืองของลำปาง บอกอีกว่า แต่เขาก็ยังพร้อมที่จะอยู่เบื้องหลังและจะให้การสนับสนุนคนรุ่นใหม่ที่มีความคิดดี และตั้งมั่นที่จะเข้ามาทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติ ไม่เข้ามาโกงกิน หรือหาผล ประโยชน์ และยังคงอยู่กับไทยรักไทยเช่นเดิมไม่ย้ายไปสังกัดพรรคไหน แม้พรรคไทยรักไทยจะถูกยุบไปแล้วก็ตาม

“ตอนนี้ผมก็คงจะไปทำไร่ทำสวนก่อน ตอนนี้ตกงาน ไม่มีงานทำ ไม่มีเงินเดือน คงต้องให้ผู้สื่อข่าวเลี้ยงข้าวบ้างแล้วทีนี้ และตอนนี้ยังไม่คิดส่งใครลงสมัครแทน แต่จะสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง”

ส่วน อดีต ส.ส.รุ่นน้อง บุญชู ตรีทอง ครองตำแหน่ง ส.ส.ลำปางมาถึง 4 สมัย อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง,อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่ชิงลาออกจากพรรคไทยรักไทย ก่อนจะมีการปฏิรูปการปกครอง แต่ก็ติดร่างแห 111 คนที่ต้องยุติบทบาททางการเมืองเช่นกันนั้น

นายบุญชู กล่าวว่า น้อมรับคำตัดสินยุบพรรคไทยรักไทย ซึ่งคำตัดสินของตุลาการรัฐธรรมนูญ นับว่ามีความละเอียดและชัดเจนที่สุด เขาเองไม่มีปัญหาแม้ไม่ได้ทำงานการเมืองแต่ก็มีงานสังคมที่ต้องทำให้คนลำปางต่อเนื่องอยู่แล้ว ควบคู่ไปกับการดูแลธุรกิจครอบครัว ต่อจากนี้ไปขออยู่อย่างพอเพียง อยู่อย่างสุขใจ สบายกาย

ส่วนอนาคตทางการเมือง หากสภาพร่างกายและจิตใจพร้อม ก็อาจจะกลับมาใหม่ก็ยังไม่สาย เพราะปีนี้เพิ่งจะอายุ 62 ปีเท่านั้น

“ในช่วงเว้นวรรคทางการเมือง จะไม่ส่งใครหรือสนับสนุนผู้ใดเป็นทายาทการเมืองแน่นอน”

นายบุญชู บอกว่า แม้เขาจะประกาศวางมือทางการเมืองชั่วคราว ก่อนที่จะมีการปฏิรูปการปกครองนั้น เพราะเชื่อว่าผู้บริหารพรรคฯบางคน มีพฤติกรรมมิชอบ กระทำไปโดยไม่มีมติของพรรคและกรรมการ บริหารทั้งหมด แต่ก็ไม่ได้ติดใจอะไร คงทำหน้าที่ให้กับสังคมและกลับมาดูแลครอบครัว - ธุรกิจที่บุตรสาวดำเนินการอยู่โดยเป็นที่ปรึกษาด้านการต่างประเทศให้

“สิ่งเหล่านี้ก็ถือเป็นความสุขใจที่พอเพียงอยู่แล้ว”

ส่วนการตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี สำหรับเขาไม่มีผลในอนาคต หากคิดจะกลับมาทำงานการเมืองต่อก็คงไม่แก่จนเกินไป โดยเฉพาะการทำงานการเมืองนั้นต้องใช้มันสมองที่คิดถึงประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ของตนเอง อีกทั้งปัจจุบันตนเพิ่งจะมีอายุ 62 ปีเท่านั้น ถ้าหากดูแลสุขภาพร่างกายดี จิตใจดี อีก 5 ปี ก็คงไม่แก่เกินไปที่จะกลับมารับใช้บ้านเมืองในฐานะนักการเมือง

“ที่ผ่านมา ตัวผมเองก็ไม่ได้ละทิ้งงานสังคมโดยเฉพาะด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญที่จะนำไปสู่การพัฒนาด้านใดก็ได้ถ้าคนมีการศึกษา มีความรู้ ฉะนั้นการตัดสินใจสมัครเป็นนายกสมาคมนักเรียนเก่าบุญวาทย์ ก็เพื่อต้องการพัฒนาสถาบันการศึกษาที่ผมเคยได้รับการศึกษามาให้มีศักยภาพทางการศึกษา เพื่อป้อนบุคลากรที่มีคุณภาพเข้าสู่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์ลำปางหรือสถาบันอื่นในภูมิภาคนี้ ครอบครัว “ตรีทอง”จะยังคงยึดมั่นที่จะทำงานให้กับสังคมต่อไปแม้ไม่ได้เป็นนักการเมืองก็ตาม”
นายพินิจ จันทรสุรินทร์ 1 ใน 3 ผู้ยิ่งใหญ่ทางการเมืองของลำปาง ที่ถูกตัดสิทธิ์ 5 ปีไปพร้อม ๆ กับอีก 2 ผู้ยิ่งใหญ่แห่งเมืองเขลางค์นคร และกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย
กำลังโหลดความคิดเห็น