เชียงใหม่ – พบบันทึกในพงศาวดารระบุเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อปี พ.ศ.690 ทำให้เมืองโยนกนครล่มจมหายไปทั้งเมือง ซึ่งปัจจุบันอยู่ในพื้นที่เชียงราย ขณะที่ประเทศไทยยังมีรอยเลื่อนที่มีพลังอีกกว่า 10 แห่ง
นายอดิศร ฟุ้งขจร รักษาการหัวหน้าสถานีตรวจวัดแผ่นดินไหวเชียงใหม่ เผยถึงเหตุการณ์ในอดีต ว่า จากการศึกษาค้นคว้าข้อมูลแผ่นไหวที่เกิดขึ้นประเทศไทย พบมีการบันทึกในพงศาวดารว่า เมื่อประมาณปี พ.ศ.690 ในวันอังคาร เดือน 8 ขึ้น 14 ค่ำ เกิดเหตุแผ่นดินไหวที่ละติจูด 20.25 องศาเหนือ ลองจิจูด 100.08 องศาตะวันออก จนเป็นเหตุทำให้เมืองโยนกนครล่ม
โดยในบันทึกระบุว่า หลังจากที่พระอาทิตย์ตกแล้ว ได้ยินเสียงแผ่นดินดังสนั่นหวั่นไหว ประดุจว่าเวียงโยนกจะเคลื่อนพังไป จากนั้นเมืองก็ยุบจมหายลงไปใต้ดินกลายเป็นหนองน้ำ ซึ่งเชื่อว่าปัจจุบันเมืองโยนกนคร หรือเวียงหนองล่ม น่าจะจมอยู่ในหนองน้ำในพื้นที่เขตรอยต่ออำเภอเวียงชัย และอำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย
ทั้งนี้ จากบันทึกในพงศาวดารดังกล่าวทำให้เชื่อว่าในอดีตแผ่นดินไหวมีผลกระทบกับประเทศไทยเช่นกัน และสามารถนำข้อมูลมาวิเคราะห์วงรอบการเกิดเหตุการณ์ได้ โดยปัจจุบันยังมีรอยเลื่อนอีกกว่า 10 แห่ง ที่มีพลังงานอยู่
นายอดิศร ฟุ้งขจร รักษาการหัวหน้าสถานีตรวจวัดแผ่นดินไหวเชียงใหม่ เผยถึงเหตุการณ์ในอดีต ว่า จากการศึกษาค้นคว้าข้อมูลแผ่นไหวที่เกิดขึ้นประเทศไทย พบมีการบันทึกในพงศาวดารว่า เมื่อประมาณปี พ.ศ.690 ในวันอังคาร เดือน 8 ขึ้น 14 ค่ำ เกิดเหตุแผ่นดินไหวที่ละติจูด 20.25 องศาเหนือ ลองจิจูด 100.08 องศาตะวันออก จนเป็นเหตุทำให้เมืองโยนกนครล่ม
โดยในบันทึกระบุว่า หลังจากที่พระอาทิตย์ตกแล้ว ได้ยินเสียงแผ่นดินดังสนั่นหวั่นไหว ประดุจว่าเวียงโยนกจะเคลื่อนพังไป จากนั้นเมืองก็ยุบจมหายลงไปใต้ดินกลายเป็นหนองน้ำ ซึ่งเชื่อว่าปัจจุบันเมืองโยนกนคร หรือเวียงหนองล่ม น่าจะจมอยู่ในหนองน้ำในพื้นที่เขตรอยต่ออำเภอเวียงชัย และอำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย
ทั้งนี้ จากบันทึกในพงศาวดารดังกล่าวทำให้เชื่อว่าในอดีตแผ่นดินไหวมีผลกระทบกับประเทศไทยเช่นกัน และสามารถนำข้อมูลมาวิเคราะห์วงรอบการเกิดเหตุการณ์ได้ โดยปัจจุบันยังมีรอยเลื่อนอีกกว่า 10 แห่ง ที่มีพลังงานอยู่