เปิดปูม “เรือหลวงนาคา” เรือรบหนึ่งเดียวสมัยสงครามโลก

ศูนย์ข่าวศรีราชา - เปิดปูม เรือรบประวัติศาสตร์ ไทย-อเมริกา “นาคา” นามพระราชทาน เหลือหนึ่งเดียวในโลก ราชนาวีไทยถอดเขี้ยวเล็บ ยุติสมุทรานุภาพ หวนคืนสู่อ้อมใจนักรบสงครามโบราณ สื่อสัมพันธ์ ไทย-มะกัน

ในแวดวงราชนาวีไทยถ้าเอ่ยถึง เรือหลวงนาคา ก็จะทราบกันดีว่า นาม “นาคา” กองทัพเรือได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อลำนี้ว่า “เรือหลวงนาคา” ตรงกับภาษาอังกฤษว่า “H.T.M.S NAKHA” เป็นเรือที่กองทัพเรืออเมริกาได้ส่งมอบให้กองทัพเรือไทยในโครงการช่วยเหลือทางทหาร และได้ทำพิธีรับมอบกันเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2509 ณ ท่าเทียบเรือแหลมเทียน ฐานทัพเรือสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี

ขณะที่ พลเรือเอก จรูญ เฉลิมเตียรณ ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารเรือในขณะนั้น เป็นผู้รับมอบ จึงได้ขึ้นระวางเรือประจำการในสังกัดกองเรือยกพลขึ้นบก กองเรือยุทธการ เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2509 จนถึงวันนี้ เรือหลวงนาคา ได้เป็นสมบัติอันล้ำค่าทางการยุทธ์คู่กับราชนาวีไทยย่างเข้า 41 ปี และเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2549 กระทรวงกลาโหมได้มีคำสั่ง กห ที่ 783/2549 ให้กองทัพเรือปิดฉากการรับใช้ชาติของ “เรือหลวงนาคา” ด้วยการปลดออกจากระวางประจำการอย่างเป็นรูปธรรม

สำหรับความเป็นมาของ เรือหลวงนาคา เดิมชื่อ LSSL-102 เป็นเรือประเภท Landing Craft Support สร้างที่อู่ต่อเรือ Commercial Iron Works เมือง Portland รัฐโอเรกอน ประเทศสหรัฐอเมริกา ความยาวเรือตลอดลำ 47.40 เมตร ความกว้างสูงสุด 7 เมตร ระวางขับน้ำ 387 ตัน ความเร็วสูงสุด 13 นอต เครื่องจักรใหญ่ดีเซล 2 เครื่อง ได้ทำพิธีวางกระดูกงู เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2488 และปล่อยเรือลงในในปีเดียวกัน

ขณะที่เรือลำนี้ประจำการในกองทัพเรือประเทศสหรัฐอเมริกา ถือได้ว่าเป็นเรือเขี้ยวเล็บสำคัญในการทำการศึกสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้ปฏิบัติภารกิจในมหาสมุทรแปซิฟิก จึงถือได้ว่าเรือลำนี้เป็นเรือที่คงคุณค่าทางประวัติศาสตร์สงครามมาอย่างโชกโชน และยังเป็นเรือรบลำเดียวของโลกที่ยังหลงเหลืออยู่ จากการดูแลรักษาของกองทัพเรือไทยจนถึงทุกวันนี้

นาวาเอก นภดล สุภากร ผู้บังคับการกองสนับสนุน กองเรือยุทธการ อดีตผู้บังคับการเรือหลวงนาคม ลำดับที่ 22 เป็นกำลังพลในการดูแลรักษาเรือลำนี้พร้อมกับประจำเรือทุกนาย เปิดเผยว่า ส่วนลึกความรู้สึกของข้าราชการ พลทหาร ที่เคยรับราชการในเรือหลวงนาคา ทุกคนต้องตอบเป็นประโยคเดียวกันอย่างแน่นอน ก็คือ เรือลำนี้เป็นขวัญและกำลังใจอย่างมาก
 
เมื่อนำเรือออกปฏิบัติภารกิจหมู่เรือเฉพาะกิจลาดตระเวนชายแดนทั้งภาคใต้ และภาคตะวันออก รู้สึกอุ่นใจมาก เพราะเรือลำนี้มีเขี้ยวเล็บที่น่าเกรงขามและน่ากลัว มี “สมุทรานุภาพ” หรืออำนาจทางทะเล ก็คือ ติดตั้งอาวุธปืนขนาดต่างๆ จำนวน 15 กระบอก มากที่สุดในกองทัพเรือ มีสมรรถนะ ความคล่องตัว ความพร้อมมาก จนได้รับฉายาว่า เรือบรรทุกปืน มีศักยภาพ มีแสนยานุภาพอยู่ในตัวเอง ซึ่งเรือลำนี้ได้อออกปฏิบัติตามคำสั่งลับของกองเรือยุทธการ และกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ตลอดจนออกปฏิบัติภารกิจตามคำสั่งลับในเขตติดต่อทะเลอันดามันมาแล้วจำนวนมาก

พลเรือเอก นพพร อาชวาคม ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เปิดเผยว่า หลังจากที่เรือหลวงนาคาเข้ามาประจำการในสังกัดกองเรือยกพลขึ้นบก ซึ่งเป็นหน่วยขึ้นตรงกับ กองเรือยุทธการ นานเกือบ 41 ปี พลเรือตรี บุญชัย มรินทร์พงษ์ ผู้บัญชาการกองเรือยกพลขึ้นบก เป็นผู้บังคับบัญชาคนสุดท้ายที่รับผิดชอบเรือหลวงนาคา อดีตผู้บังคับบัญชาหลายท่านได้พิจารณาบรรจุข้าราชการ นายทหารชั้นสัญญาบัตรที่จบจากโรงเรียนนายเรือ ยศเรือเอก หมุนเวียนเป็นผู้บังคับการเรือลำนี้มาแล้วถึง 42 นาย คนแรกคือ เรือเอก วิเชษฐ การุณยวนิช อดีตเคยดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารเรือ และคนสุดท้ายคือ เรือเอก ภาณุชา ลุขะรัง

เมื่อทุกคนทราบว่า ทางสมาคม National Association of USS LCS (L) 1-130 ซึ่งเป็นสมาคมที่รวบรวมนักรบที่ปฏิบัติงานกับเรือลำนี้ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 และยังมีชีวิตอยู่ประมาณ 150 นาย ขอรับมอบสิทธิโอนเรือลำนี้ไปเก็บไว้เป็นเรือพิพิธภัณฑ์ทางประวัติศาสตร์ ที่ Mare Island Naval Shipyard เมือง Vallejo มลรัฐ California ประเทศสหรัฐอเมริกา ทุกคนรู้สึกดีใจที่เรือลำนี้ยังคงไว้ให้อนุชนรุ่นหลังได้ศึกษากันต่อไป และที่สำคัญกองทัพเรือไทยยังดูแล รักษาสภาพเรือได้อย่างสมบูรณ์

ด้านพลเรือเอก สถิรพันธุ์ เกยานนท์ ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวว่า เรือหลวงนาคา เป็นเรือประวัติศาสตร์ของอเมริกา เพราะเรือชุดนี้ต่อขึ้นเพื่อทำสงครามกับญี่ปุ่นทั้งหมด 130 ลำ แต่ปัจจุบันเหลือเป็นเพียงลำเดียวในโลกที่คงสภาพสมบูรณ์ ก็คือ เรือหลวงนาคา เพราะกองทัพเรือรักษาไว้ ตามมารยาทและระเบียบปฏิบัติตามข้อตกลงระหว่างมิตรประเทศ เมื่อมีการปลดระวางเรือรบ ซึ่งได้มาจากการช่วยเหลือทางทหารของกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา กองทัพเรือไทยก็ต้องแจ้งให้ทราบก่อน

ประกอบกับ Mr.Jeff Jeffers นักรบอเมริกาในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งได้มีการรวมตัวสมาชิกนักรบในยุคนั้นได้ประมาณ 150 คน ก่อตั้งสมาคมขึ้นตั้งแต่ พ.ศ.2529 ได้ทราบเรื่อง กองทัพเรือปลดระวางเรือหลวงนาคา จึงได้ทำหนังสือผ่านมาทางสถานเอกอัครราชทูต ถึงกระทรวงกลาโหม จนในที่สุดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้เห็นชอบให้ กองทัพเรือ ส่งเรือหลวงนาคาคืนให้แก่ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อนำไปจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ทางสงครามในอดีตที่ผ่านมา

พร้อมทั้งยังได้กล่าวอีกว่า ทางสมาคมได้ให้สัญญาว่า จะยังคงชื่อ H.T.M.S.NAKHA หรือ เรือหลวงนาคา ไว้ตลอดกาล เพื่อเป็นเกียรติแก่ประเทศไทยและกองทัพเรือไทย อีกทั้งยังเป็นชื่อซึ่งได้รับพระราชทานจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระมหากษัตริย์ไทย เรือหลวงนาคา จึงเป็นสื่อสัญลักษณ์แห่งความสัมพันธ์ทางทหารที่ดีระหว่างประเทศไทย กับประเทศสหรัฐอเมริกาอย่างมั่นคง และรู้สึกดีใจอย่างมากที่เรือหลวงนาคาได้ยุติบทบาททางการยุทธ์ของกองทัพเรืออย่างสง่างาม

กองทัพเรือไทยมีความภาคภูมิใจที่สุด ก็คือ บุคลากรของกองทัพเรือได้บำรุง ดูแล รักษาเรือหลวงนาคาไว้อย่างยาวนาน สมบูรณ์ จนถึงวันสุดท้ายกลายเป็นเรือที่มีคุณค่าย้อนสู่ประวัติศาสตร์ทางสงคราม จึงเป็นเรือรบหนึ่งเดียวในโลกที่ยังหลงเหลืออยู่ในปัจจุบัน