xs
xsm
sm
md
lg

ชาวพนมฯสุดทนกลิ่นเหม็นขยะ ขนม็อบสองร้อยบุกร้องผู้ว่าฯแปดริ้ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวศรีราชา - ชาวบ้านพนมสารคามสุดทนกลิ่นเหม็นบ่อขยะ หลังมีนายทุนบริษัทยักษ์ใหญ่กว้านซื้อที่ดิน นับพันไร่รับขนขยะจาก กทม.มาถมทิ้งใกล้หมู่บ้านชุมชนอยู่อาศัย แกนนำท้องถิ่นรวบรวมพลังเคลื่อนพลขนม็อบกว่าสองร้อยยื่นเรื่องร้องเรียนผู้ว่าราชการจังหวัด ขณะพ่อเมืองรับปากจะหาแนวทางแก้ไขให้ใน 4 ช่องทาง

เวลา 13.30 น.วันนี้ (27 เม.ย.) ที่บริเวณหน้าศาลากลางหลังใหม่ จังหวัดฉะเชิงเทรา ได้มีกลุ่มชาวบ้านซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้นำชุมชน และตัวแทนท้องถิ่นกว่า 200 คน เดินทางมารวมตัวชุมนุมขอเข้าพบ นายอานนท์ พรหมนารท ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อยื่นข้อร้องเรียนเกี่ยวกับกลิ่นเน่าเหม็นของบ่อขยะ ที่มีนายทุนเข้ามากว้านซื้อที่ดินจำนวนกว่าหนึ่งพันไร่ เพื่อรองรับการขนขยะจากกรุงเทพมหานครออกมาฝังกลบทิ้ง แต่พิษของขยะได้สร้างมลพิษส่งกลิ่นเน่าเหม็นไปไกลหลายสิบกิโลเมตรเกือบทั่วทั้งตำบลกว่า 14 หมู่บ้าน

นายวีระ พึ่งเกษม อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/10 ม.11 ต.บ้านซ่อง อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 11 กล่าวว่า บ่อขยะเจ้าปัญหาดังกล่าวได้มีนายทุนรายหนึ่ง ที่เขียนป้ายชื่อติดไว้หน้ารถบรรทุกขนขยะจากเขตพื้นที่อ่อนนุช กทม.เข้ามายังพื้นที่ และวิ่งเข้าออกตลอดทั้งวันว่า “บริษัท ชัยไพโรจน์” วันละกว่า 200 เที่ยวของรถพ่วง 18 ล้อ ที่เข้ามาดำเนินกิจการรับทิ้งฝังกลบขยะ เมื่อประมาณสามปีก่อน หลังจากได้มากว้านซื้อที่ดินซึ่งเป็นบ่อลูกรังเก่าในเขตพื้นที่ตำบลท่าถ่าน อ.พนมสารคาม ซึ่งเป็นตำบลใกล้เคียงหมู่บ้านนับพันไร่ เพื่อรับขนขยะมาฝังกลบทำลายทิ้งจากเขต กทม.

หลังการดำเนินกิจการของบ่อขยะดังกล่าว ได้ส่งกลิ่นเหม็นบูดเหม็นเปรี้ยว ออกมารบกวนชาวบ้านในเขตพื้นที่ตำบลบ้านซ่องกว่า 10 หมู่บ้าน อยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนตก หรือมีลมพัดโชยแรงกลิ่นเหม็นจะออกไปไกลหลายสิบ กม.เหตุดังกล่าวได้สร้างความทุกข์ทรมานต่อชาวบ้านที่อยู่อาศัยยังบริเวณดังกล่าวเป็นอย่างมาก ที่ต้องทนอยู่กับมลพิษกลิ่นเน่าเหม็นตลอดทั้งวันทั้งคืน ที่ผ่านมา ชาวบ้านได้เคยส่งเรื่องร้องเรียนมายังทางจังหวัดแล้วหลายครั้ง แต่เรื่องก็ยังคงเงียบหาย

ขณะที่ นายอนันต์ มงคลธารทิพย์ อายุ 58 ปี สมาชิก อบต. หมู่ 12 (ส.อบต.) อยู่บ้านเลขที่ 26 ม.12 ต.บ้านซ่อง กล่าวว่า สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ ส่วนหนึ่งเกิดจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นผู้ที่อนุญาตให้ดำเนินกิจการดังกล่าวในพื้นที่นั้น ไม่ใช่ผู้เดือดร้อน เพราะบ่อขยะที่เกิดปัญหาตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ ม.3 ของตำบลท่าถ่าน อ.พนมสารคาม สภา อบต.ท่าถ่าน จึงเป็นผู้ออกข้อบัญญัติอนุญาต เพราะมีพื้นที่บ้านเรือนประชาชนอยู่อาศัยน้อย และอยู่ห่างไกลชุมชนในตำบลท่าถ่าน จึงไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แต่ผู้ที่ได้รับผลกระทบความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัสคือ ชาวบ้านในเขตพื้นที่ตำบลบ้านซ่อง ซึ่งมีชุมชนพื้นที่อยู่ใกล้ติดกับบ่อขยะดังกล่าว และกำลังได้รับผลกระทบอย่างหนักหน่วงขึ้นทุกวันอยู่ในขณะนี้

หลังจากนั้น ทางผู้ว่าราชการจังหวัดได้เชิญตัวแทนผู้ชุมนุม 7 คน เข้าไปเจรจาภายในห้องทำงานผู้ว่าฯ ประกอบด้วย ผู้นำชุมชน กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ส.อบจ.เขตพื้นที่ รวมทั้งนายกฯและสมาชิก อบต.บ้านซ่อง นำโดย นายสมศักดิ์ ภู่พนมภูมิ และนายธรรมรัตน์ ผาวันดี ส.อบจ.พนมสารคาม พร้อมรับข้อเสนอจะดำเนินการให้จำนวน 4 ข้อ

นายสมศักดิ์ กล่าวถึงข้อตกลงที่ผู้ว่าราชการจังหวัดจะรับไปดำเนินการให้ว่า ในเรื่องกลิ่นของขยะจะได้ทำหนังสือไปยังเจ้าของบริษัทให้ทำการแก้ไข และชี้แจงระบุกลับมาว่าจะดำเนินการให้ได้ภายในกี่วันจนกว่ากลิ่นจะหมดไป เรื่องเกี่ยวกับน้ำเสียหากตรวจสอบพบว่ามีการปล่อยน้ำเสียออกจากบ่อขยะลงสู่แหล่งน้ำสาธารณะจะสั่งปิดโรงงานบ่อขยะทันที และในการตั้งคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมตรวจสอบจะต้องให้ชุมชนรับรู้ และเข้าไปมีส่วนร่วมในการตรวจสอบ หากต่อไปท้องถิ่นจะผ่านข้อบังคับฉบับใดในลักษณะนี้อีกจะต้องมีเวทีประชาพิจารณ์ทุกเรื่อง ซึ่งจะทราบผลได้ภายใน 15 วัน

หลังการประชุมเจรจา นายอานนท์ ได้ลงมาพบกับผู้ชุมนุมอีก และกล่าวถึงเรื่องที่ทางจังหวัดรับที่จะนำไปดำเนินการให้ทั้ง 4 เรื่องให้แก่ผู้ชุมนุมทราบ พร้อมกล่าวว่า ทางจังหวัดยินดีที่จะรับเรื่องความเดือดร้อนของประชาชนไปดำเนินการให้อย่างเต็มที่ โดยประชาชนสามารถเข้าพบปะกับผู้ว่าฯ ได้โดยตรงในทุกเรื่องที่เกี่ยวกับความเดือดร้อนไม่เป็นธรรม

นอกจากนี้ ทางจังหวัดจะได้ทำเรื่องส่งไปยัง กทม.ให้รับทราบเกี่ยวกับเรื่องปัญหานี้ด้วย โดยหากบริษัทเอกชนได้มาสร้างปัญหาให้กับพื้นที่ข้างเคียง ทาง กทม.ก็ไม่ควรให้สัมปทานแก่เอกชนรายนั้นอีก
กำลังโหลดความคิดเห็น