ศูนย์ข่าวศรีราชา- ท่าเทียบเรือ A0 ท่าเรือแหลมฉบัง เปิดดำเนินการรองรับการขนถ่ายเรือสินค้า-เรือบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ อย่างเป็นทางการแล้ว พร้อมโชว์เทคโนโลยีและเครื่องมือที่ทันสมัยในระดับมาตรฐานโลกมาใช้
วันนี้ (27 เม.ย.) ที่บริเวณท่าเทียบเรือ A0 ท่าเรือแหลมฉบังจังหวัดชลบุรี นายชัยสวัสดิ์ กิตติพรไพบูลย์ ปลัดกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย นางสุนิดา สกุลรัตนะ ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย เป็นประธานในพิธีเปิดท่าเทียบเรือ A0 บริษัท แอล ซี เอ็ม ที จำกัด อย่างเป็นทางการ ซึ่งมีคณะผู้บริหารของบริษัทและแขกผู้มีเกียรติร่วมงานเป็นจำนวนมาก
นายชัยสวัสดิ์ กล่าวว่า การเปิดดำเนินการอย่างเป็นทางการในครั้งนี้ ของบริษัท แอล ซี เอ็ม ที จำกัด ซึ่งถือว่าเป็นการร่วมมือในการพัฒนาให้ท่าเรือแหลมฉบัง ก้าวไปสู่การเป็นท่าเรือหลักของประเทศ เนื่องจากท่าเรือแหลมฉบังเป็นท่าเรือที่มีอัตราการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว และปัจจุบันมิได้เป็นเพียงแค่จุดเชื่อมต่อหรือ Inter – Face ของการขนส่งระหว่างพื้นดินกับพื้นน้ำเพียงอย่างเดียว
ขณะนี้กิจกรรมของท่าเรือแหลมฉบัง ได้ถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของระบบ Logistic โดยเป็นหนึ่งในระบบการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ หรือ Multimodal Transportation ที่รับ-ส่งสินค้าถึงประตูบ้านเรียกว่า Door to Door ดังนั้น เป้าหมายที่ประเทศไทยจะได้เป็น Logistic Hub ที่สมบูรณ์แบบ และสร้างรายได้มหาศาลให้แก่ประเทศจึงไม่ใช่เรื่องยาก
นายชัยสวัสดิ์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับท่าเรือ A0 นั้น เป็นท่าเรืออเนกประสงค์แห่งใหม่ในท่าเรือแหลมฉบัง ที่นำเทคโนโลยีและเครื่องมือที่ทันสมัย ในระดับมาตรฐานโลกมาใช้ เพื่อให้การบริการมีประสิทธิภาพและสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น และจะเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนเป้าหมายที่วางไว้
สำหรับในส่วนภาครัฐ โดยเฉพาะ ฯพณฯ พลเรือเอก ธีระ ห้าวเจริญ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ซึ่งเป็นผู้บริหารระดับสูง พร้อมที่จะให้การสนับสนุนในทุกด้าน ที่สำคัญ ทุกๆ ฝ่ายต้องร่วมกันทำงานแบบบูรณาการ เพื่อให้บรรลุตามเจตนารมณ์ที่มุ่งหวังเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติต่อไปในอนาคต
นายไพบูลย์ ควรทรงธรรม กรรมการบริหารบริษัท แอล ซี เอ็ม ที จำกัด กล่าวว่า ท่าเรือ A0 เริ่มดำเนินการก่อสร้างและแล้วเสร็จในช่วงเดือนเมษายน โดยเป็นท่าเรือที่มีความยาวหน้าท่า 590 เมตร มีพื้นที่หลังท่าเรือรวมประมาณ 106 ไร่ สามารถให้บริการขนถ่ายเรือสินค้า หรือ เรือบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ขนาดตั้งแต่ 1 ,000 ตัน จนถึง 92 ,000 ตัน และได้รับอนุญาตจากท่าเรือแหลมฉบัง ให้เป็นท่าเรือบริการอเนกประสงค์ พร้อมให้บริการเรือชายฝั่ง เรือ Semi-Container เรือ RO/RO เรือ Conventional และเรือบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์
การดำเนินการในครั้งนี้ บริษัทมีความเชื่อมั่นในการเจริญเติบโตทางด้านเศรษฐกิจของประเทศ จึงได้ตัดสินใจลงทุน พร้อมนำเทคโนโลยีและเครื่องมือที่ทันสมัย เพื่อให้สามารถบริการได้อย่างมีประสิทธิภาพทัดเทียมกับท่าเรือที่สำคัญในระดับโลก สามารถส่งเสริมศักยภาพของท่าเรือแหลมฉบัง ให้เป็นท่าเทียบเรือมาตรฐานโลก ทัดเทียมกับท่าเรือที่ทันสมัยแห่งอื่นๆของโลกได้ รวมทั้งสามารถรองรับอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ ได้อย่างต่อเนื่องตลอดไป
นายไพบูลย์ กล่าวต่อไปว่า การเปิดดำเนินการนั้น บริษัทพร้อมให้บริการอย่างเต็มที่ เนื่องจากมีอุปกรณ์เครื่องมือที่ทันสมัย และขณะนี้ก็มีบริษัทต่างมาใช้บริการเป็นจำนวนมากแล้ว และคาดว่า จะโตอย่างต่อเนื่องอย่างแน่นอน