อุบลราชธานี - ผู้ปกครองแจ้งความเอาเรื่องโรงเรียนดังเมืองอุบลฯตุกติกไม่รับนักเรียนทั้งที่สอบได้ ร้องศูนย์ดำรงธรรม และผู้ว่าฯสอบเอาผิดพฤติกรรมผู้บริหาร
เมื่อวันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา พ.ต.ต.ปวีณ แข็งเขตการณ์ สารวัตรเวร สภ.อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ได้รับแจ้งจาก นางสมใจ อุดรตระกูล อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39/35 หมู่ 3 ต.ขามใหญ่ อ.เมืองอุบลราชธานี ซึ่งเมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้ไปตรวจสอบรายชื่อของบุตรสาว คือ น.ส.ปรัชญานีย์ อุดรตระกูล ที่ศึกษาต่อระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนชื่อดังของจังหวัดแห่งหนึ่งปรากฏไม่มีชื่อของบุตรสาวที่เป็นศิษย์เก่าได้เข้าเรียนต่อจึงได้ไปขอความเป็นธรรมกับ นายสุธี มากบุญ ผู้ว่าราชการจังหวัด เพราะมีข้อสงสัยในการจัดสอบคัดเลือก เนื่องจากทางโรงเรียนให้ศิษย์เก่า 735 คน สอบแข่งขันกันเพื่อเรียนต่อโดยรอบแรกโรงเรียนประกาศผลรับนักเรียนไว้ 520 คน แต่บุตรสาวสอบได้ลำดับที่ 526
ต่อมาคุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สั่งให้โรงเรียนรับนักเรียนเพิ่มเติมเพื่อลดปัญหาความเดือดร้อนของนักเรียนที่ยังไม่มีที่เรียน โรงเรียนจึงประกาศรับสมัครนักเรียนรอบที่ 2 จำนวน 91 คน ระหว่างวันที่ 8-9 เม.ย.โดยไม่มีการสอบแข่งขัน แต่บุตรสาวและเพื่อนๆ นักเรียนที่สอบผ่านในลำดับถัดไปไม่ผ่านการคัดเลือก กลุ่มผู้ปกครองเห็นความไม่เป็นธรรมเกิดขึ้นจึงชุมนุมประท้วง
ต่อมาสำนักงานพื้นที่การศึกษาเขต 1 ได้เข้ามาแก้ปัญหาโดยให้โรงเรียนรับนักเรียนที่ตกค้างเพิ่มอีก 69 คนและประกาศรายชื่อนักเรียนรอบที่ 3 ในวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา ปรากฏว่า บุตรสาวไม่ผ่านการคัดเลือก ทั้งที่มีสิทธิจากลำดับการสอบแข่งขันที่ผ่านมา
จึงเข้าร้องเรียนกับศูนย์ดำรงธรรมและผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อให้สอบสวนพฤติกรรมของผู้บริหารโรงเรียนชื่อดังแห่งนี้ เพราะไม่มีความเที่ยงธรรมในการคัดนักเรียนเข้าต่อ ซึ่งทางศูนย์ดำรงธรรมได้แนะนำให้เข้าแจ้งความใช้เป็นหลักฐานเอาผิดกับผู้บริหารโรงเรียนแห่งนี้ต่อไป
เมื่อวันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา พ.ต.ต.ปวีณ แข็งเขตการณ์ สารวัตรเวร สภ.อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ได้รับแจ้งจาก นางสมใจ อุดรตระกูล อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39/35 หมู่ 3 ต.ขามใหญ่ อ.เมืองอุบลราชธานี ซึ่งเมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้ไปตรวจสอบรายชื่อของบุตรสาว คือ น.ส.ปรัชญานีย์ อุดรตระกูล ที่ศึกษาต่อระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนชื่อดังของจังหวัดแห่งหนึ่งปรากฏไม่มีชื่อของบุตรสาวที่เป็นศิษย์เก่าได้เข้าเรียนต่อจึงได้ไปขอความเป็นธรรมกับ นายสุธี มากบุญ ผู้ว่าราชการจังหวัด เพราะมีข้อสงสัยในการจัดสอบคัดเลือก เนื่องจากทางโรงเรียนให้ศิษย์เก่า 735 คน สอบแข่งขันกันเพื่อเรียนต่อโดยรอบแรกโรงเรียนประกาศผลรับนักเรียนไว้ 520 คน แต่บุตรสาวสอบได้ลำดับที่ 526
ต่อมาคุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สั่งให้โรงเรียนรับนักเรียนเพิ่มเติมเพื่อลดปัญหาความเดือดร้อนของนักเรียนที่ยังไม่มีที่เรียน โรงเรียนจึงประกาศรับสมัครนักเรียนรอบที่ 2 จำนวน 91 คน ระหว่างวันที่ 8-9 เม.ย.โดยไม่มีการสอบแข่งขัน แต่บุตรสาวและเพื่อนๆ นักเรียนที่สอบผ่านในลำดับถัดไปไม่ผ่านการคัดเลือก กลุ่มผู้ปกครองเห็นความไม่เป็นธรรมเกิดขึ้นจึงชุมนุมประท้วง
ต่อมาสำนักงานพื้นที่การศึกษาเขต 1 ได้เข้ามาแก้ปัญหาโดยให้โรงเรียนรับนักเรียนที่ตกค้างเพิ่มอีก 69 คนและประกาศรายชื่อนักเรียนรอบที่ 3 ในวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา ปรากฏว่า บุตรสาวไม่ผ่านการคัดเลือก ทั้งที่มีสิทธิจากลำดับการสอบแข่งขันที่ผ่านมา
จึงเข้าร้องเรียนกับศูนย์ดำรงธรรมและผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อให้สอบสวนพฤติกรรมของผู้บริหารโรงเรียนชื่อดังแห่งนี้ เพราะไม่มีความเที่ยงธรรมในการคัดนักเรียนเข้าต่อ ซึ่งทางศูนย์ดำรงธรรมได้แนะนำให้เข้าแจ้งความใช้เป็นหลักฐานเอาผิดกับผู้บริหารโรงเรียนแห่งนี้ต่อไป