ศูนย์ข่าวขอนแก่น – นักวิจัย มข.คิดค้นใช้เอทานอลแอลกอฮอล์ สกัดสารกำจัดศัตรูพืชแบบเชิงนิเวศจากต้น “พญายอ” ชี้ มีประสิทธิภาพใช้กำจัดศัตรูพืชได้ไม่ต่างสารเคมี เตรียมทดลองใช้กับกลุ่มเกษตรกรตัวอย่างในโครงการ พร้อมผลักดันให้เกษตรกรทั่วประเทศหันมาใช้สารสกัดจากพืช ลดการทำลายสิ่งแวดล้อม
บ่ายวันนี้ (25 เม.ย.) กลุ่มนักวิจัยภาควิชาพืชศาสตร์ทรัพยากรการเกษตร คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น นำตัวอย่างงานวิจัยสารกำจัดศตรูพืชจากต้นพญายอ และได้อธิบายถึงงานวิจัยและคุณสมบัติพิเศษเฉพาะตัวของพืชในงานวิจัยให้กับสื่อมวลชนได้รับทราบที่ห้องประชุม ตึกอธิการบดี มหาวิทยาลัยขอนแก่น
รศ.ดร.สุภาณี พิมพ์สมาน หัวหน้างานวิจัย เปิดเผยถึงงานวิจัยชิ้นนี้ ว่า ในปัจจุบันประเทศไทยใช้สารฆ่าแมลงในปริมาณที่สูงเกินความจำเป็น ซึ่งทำให้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยของมนุษย์ รัฐบาลได้กำหนดนโยบายในเรื่องความปลอกภัยทางด้านอาหาร โดยมีการรณรงค์ให้ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ สารชีวภาพต่อต้านศัตรูพืช และปัจจัยการผลิตที่มีความปลอดภัยเข้ามาแทน
“การใช้สารเคมีเพื่อควบคุมแมลงศัตรูพืชนั้น มีอยู่ในภูมิปัญญาท้องถิ่นมากมาย และมีพืชหลายชนิดที่เกษตรกรนำมาใช้แล้วมีทั้งได้ผล และไม่ได้ผล อาจเนื่องมาจากปัจจัยต่างๆ ดังนั้น กระบวนการที่เป็นวิทยาศาสตร์ อย่างเช่น งานวิจัยจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง” รศ.ดร.สุภาณี กล่าว และเล่าต่อว่า
พืชบางชนิดไม่มีแมลงศัตรูทำลายเลย เนื่องจากพืชนั้นมีลักษณะพิเศษ หรือมีการผลิตสารเคมีบางอย่างขึ้นมาเพื่อป้องกันตัวเอง สารจากพืชได้รับการยอมรับว่าเป็นสารที่มีความปลอดภัย สลายตัวได้ในธรรมชาติ ไม่มีสารพิษตกค้าง และยังไม่พบว่าแมลงศัตรูพืชสามารถสร้างความต้านทานได้ สารจากพืชจึงมีบทบาทสำคัญในการทดแทนสารเคมีอันตราย
รศ.ดร.สุภาณี เปิดเผยต่อว่า ทางกลุ่มงานวิจัยได้ดำเนินการศึกษางานวิจัยสารกำจัดศัตรูพืชมาตั้งแต่ พ.ศ.2539 โดยคัดสรรพืชกว่า 200 ชนิด และพบว่า ต้นพญายอมีสารที่สามารถกำจัดศัตรูพืชได้ดี อีกทั้งพญายอยังเป็นพืชที่ขึ้นง่ายกับทุกอากาศ มีอยู่ทั่วไปในท้องถิ่น โดยชาวบ้านสามารถทำสารชนิดนี้ขึ้นมาอย่างง่ายๆ โดยใช้ทุกส่วนของต้นพญายอมาตากให้แห้งแล้วบดให้ละเอียดผสมน้ำแช่ไว้ 1 คืน แล้วนำไปกรองเอาแต่น้ำ ก็สามารถใช้กำจัดศตรูพืชได้ทันที
ข้อแตกต่างของสารเคมีกับสารสกัดจากต้นพญายอ คือ สารเคมีเมื่อฉีดลงไปกำจัดแมลงจะเห็นผลในทันที แต่ถ้าเป็นสารสกัดจากต้นพญายอจะต้องรอ แล้วถึงจะเห็นผลในส่วนของสารสกัดจากต้นพญายอมีข้อดีคือเรื่องธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม สารกสัดจากพืชจะไม่ทำลายและไม่มีผลข้างเคียงต่อมนุษย์และสัตว์เลี้ยง
ในอนาคตถ้ารัฐบาลให้ความสำคัญกับงานวิจัยชิ้นนี้ คาดว่า น่าจะเป็นพืชเศรษฐกิจที่สามารถทำรายได้เข้าประเทศได้มาก โดยเฉพาะกลุ่มประเทศอียูที่ให้ความสำคัญเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก ซึ่งน่าจะเป็นตลาดที่สำคัญในการส่งสารสกัดจากต้นพญายออกไปจำหน่าย
เบื้องต้นทางกลุ่มงานวิจัยได้ให้เกษตรกรตัวอย่างนำไปใช้กับพืชเกษตรของตนเอง โดยจะมีการติดตามผลอยู่ตลอดเวลาว่ามีผลอย่างไร และพร้อมจะเตรียมผลักดันให้ใช้กันอย่างแพร่หลายไปทั่วประเทศ ส่วนในเรื่องต้นทุนนั้นเมื่อจะทำเป็นเชิงพาณิชย์ก็จะต้องมีส่วนประกอบหลายอย่างราคาก็อาจจะไม่แตกต่างกับสารเคมีที่ใช้ในปัจจุบัน แต่ที่สำคัญ คือ การช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
สำหรับต้นพญายอ เป็นพืชสมุนไพรที่มีสรรพคุณทางยาและใช้ประโยชน์อย่างแพร่หลายและเป็นพืชท้องถิ่นอายุสั้น ปลูกและขยายพันธุ์ได้ง่ายและมีมากในทุกภูมิภาค