เลย - ตำรวจเมืองเลย ทลายแก๊งต้มตุ๋นหินกินเหล็ก อ้างเป็นคนของผู้ใหญ่ ทั้งนายพลและผู้ว่าฯเลย ได้ผู้ต้องหา 3 รายของกลางเพียบ แฉพฤติกรรมหลอกลวงเอาเงินนักธุรกิจผู้หลงเชื่อมาแล้วจำนวนมาก
นายพรศักดิ์ เจียรนัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ ตนได้รับแจ้งจากนักธุรกิจที่เดินทางมาจากกรุงเทพฯ ที่ถูกต้มตุ๋น และตอนนี้แก๊งดังกล่าวได้มาอยู่ในพื้นที่จังหวัดเลย ตนจึงได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.อุดมเดช กปิตถา ณ อยุธยา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเลย ไปดำเนินการสืบสวนจับกุมแก้งต้มตุ๋นที่เข้ามาในพื้นที่จังหวัดเลยดังกล่าว
ต่อมาผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเลย ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ธนันต์ชัย สุขา ผกก.สภ.อ.เมืองเลย ทำการสืบสวนจับกุมแก้งต้มตุ๋นรายนี้โดยมอบหมายให้ พ.ต.ท.ภุชงค์ ภัทรพงษ์สิน รอง ผกก.ป.พ.ต.ต.จักรภพ ท้าวฤทธิ์ รอง ผกก.สส.ร.ต.อ.พีระฉัตร สาขา สว.สส. ร.ต.ท.นพดล เปลี่ยนรูป พงส.1 พร้อมชุดสืบสวนของ สภ.อ.เมืองเลย ออกสืบสวนจนทราบแก้งต้มตุ๋นรายนี้
จนกระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 05.00 น.ของวันที่ 19 เมษายน 2550 ที่ผ่านมา ทางตำรวจจึงได้นำหมายศาลจังหวัดเลย ไปที่โรงแรมภูหลวง ถนนเจริญรัฐ จังหวัดเลย ในห้องพัก ทราบชื่อในเวลาต่อมาชื่อนายวีระพล อุฆัษเฐียร อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 196 หมู่ 14 แขวงบางระมาด เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ ค้นภายในห้องพบเงินสดจำนวน 40,000 บาท อาวุธปืนพกสั้นขนาด .38 มม.จำนวน 1 กระบอก ตะปูสำหรับในในการสาธิตต้มตุ๋นที่หักได้และหักไม่ได้จำนวนหนึ่ง
พร้อมรถยนต์เก๋งโตโยต้า คัมมี่ สีดำหมายเลขทะเบียน ษล 6697 กรุงเทพฯ พร้อมด้วยหินแร่เหล็กซึ่งเป็นอุปกรณ์ในการต้มตุ๋น 1 ก้อน
จากการขยายผลสามารถจับกุมรถเก๋ง โอเปิล สีขาวมายเลขทะเบียน กข 8669 นครราชสีมา ขณะที่ผ่านด่านปากภู อ.เมืองเลย โดยมีคนนั่งมาในรถ 2 คน ทราบชื่อในเวลาต่อมาชื่อนายธนศักดิ์ ไพเราะ อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่144/1 หมู่ 4 ต.บ้านเกาะ อ.เมือง จ.นครราชสีมา และนางมะลิ ก้อนคำ อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 999/844 หมู่ 6 แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพฯ
ทางเจ้าหน้าที่จึงคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.อ.เมืองเลย ค้นภายในรถพบหินแร่เหล็ก และอีกก้อนว่าเป็นแร่พลูโตเนียม (หินกินเหล็ก) จำนวน 2 ก้อน จึงยึดไว้เป็นของกลางทางตำรวจชุดจับกุมจึงได้นำตัวคนทั้ง 3 มอบให้ พ.ต.ต.อัษดิน สมศรี ร้อยเวรสอบสวน สภ.อ.เมืองเลย ดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกงโดยมีผู้สียหายมาแจ้งความด้วย
นายพรศักดิ์ เจียรนัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ซึ่งได้มาร่วมสอบสวนผู้ต้องหาในครั้งด้วย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2550 ที่ผ่านมา เวลา 13.00 น.ได้มีนายอดิศักดิ์ พรหมมณี อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 67/130 เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ ได้มาที่ศาลากลางจังหวัดเพื่อพบผู้ว่าราชการจังหวัดเลย นายสำเริง เชื้อชวลิต แต่ผู้ว่าฯไม่อยู่จึงได้เข้าพบตนเพื่อแจ้งความร้องทุกข์ว่าถูกกลุ่มของผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ได้หลอกลวงให้ นายอดิศักดิ์ พรหมณี ให้นำเงินมาลงทุนในการทำธุรกิจ ซึ่งขายแร่เหล็กพลูโตเนียมซึ่งเป็นหินกินเหล็ก โดยหลอกให้นำเงินมาลงทุ่นร่วม
โดยตนเองเห็นว่ามีพฤติการน่าจะเป็นเรื่องของการหลอกหลวงที่อ้างผู้หลักผู้ใหญ่ในกรุงเทพฯ อ้างแม่กระทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดเลย จึงมอบหมายให้ทางตำรวจดำเนินการจนสามารถจับกุมได้ดังกล่าว
ทางด้าน นายอดิศักดิ์ พรหมณี ผู้เสียหาย กล่าวว่า กลุ่มบุคคลดังกล่าวได้มาหลอกลวงให้ตนเองนำเงินไปลงทุนในการทำธุรกิจซื้อขายแร่พลูโตเนียมเป็นเงินร่วม 3 แสนบาท โดยเอาตัวอย่างแร่เหล็กอ้างว่าแร่พลูโตเนียมว่าเอามาจากพ่อค้าคนลาวโดยทางแก๊งต้มตุ๋นอ้างว่าพวกเขามีอยู่แล้ว 3 ล้านบาท ขาดอีก 3 แสนบาท
โดยให้ตนเอามาสมทบ พร้อมกับมีการเอาตาปูขนาด 4 นิ้วทดลองกับหินดังกล่าว โดยเอาตะปูวางก้อนหินสักพักก็เอาตะปูมาหักให้ดู ซึ่งเป็นตาปูที่เขาเตรียมมาแล้ว จึงหลงเชื่อ ตนจึงเอาเงินร่วมลงทุนด้วยโดยกลุ่มต้มตุ๋นดังกล่าวอ้างว่าซื้อแล้วจะนำไปขายให้ชาวต่างประเทศในกิโลกรัมละ 300-500 ล้านบาท ซึ่งหินที่นำมาทดลองแต่ละก้อนหนัก 6-9 กิโลกรัม ตนจึงได้เอาเงินมาร่วมลงทุนด้วย
ต่อมากลุ่มคนทั้ง 3 ได้ให้ตนไปแนะนำคนอื่นไห้มาลงทุนด้วย เพื่อจะได้ส่วนแบ่งในการขายและกลุ่มต้มตุ๋นดังกล่าวยังได้มอบแร่บางส่วนให้ตนไว้ เมื่อตนเอาแร่ที่ได้มาไปตรวจสอบก็ทราบว่าเป็นแร่เหล็กธรรมดา เท่านั้นจึงรู้ว่าถูกต้มและได้ติดตามทราบว่ามาอยู่ที่จังหวัดเลย จึงไปแจ้งความกับผู้ว่าฯ แต่ผู้ว่าฯ ไม่อยู่จึงแจ้งกับรองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย
ทางด้าน พล.ต.ต.อุดมเดช กปิตถา ณ อยุธยา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเลย กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ตอนนี้ดำเนินการทางด้านการสอบสวนจับกุมคิดว่าคดีนี้ไม่มีปัญหาอะไร แต่คาดว่าน่าจะมีผู้เสียหายอีกหลายคนถ้าใครที่ถูกแก้งต้มตุ๋นกลุ่มนี้หลอกลวง เหตุเกิดท้องที่ได้ก็ขอให้มาแจ้งความ และดูตัวที่ สภ.อ.เมืองเลย ได้เลย