มุ่งปมไฟลัดวงจรเหตุไหม้ “อภิพลาซ่า”

เชียงราย – ตำรวจวิทยาการมุ่งปมไฟลัดวงจรเหตุไฟไหม้ “อภิพลาซ่า” ห้างฯเก่าแก่เมืองเชียงราย หลังพบสายไฟขาดหลายท่อนบนชั้นลอย เผยพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวง-ราชินี และพระรูปรัชกาลที่ 5 รอดเปลวเพลิงปาฏิหาริย์ ทั้งที่พื้นที่รอบๆ ถูกไฟไหม้หมด ทายาท “อภินิเวศ” รับเป็นอุบัติเหตุครั้งใหญ่สุดของตระกูล

รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงราย แจ้งว่า หลังจากตำรวจวิทยาการเขต 32 เชียงใหม่ นำโดย พ.ต.อ.ฐิติพงษ์ อาทิตยานนท์ ผกก.กองวิทยาการเขต 32, พ.ต.ท.นพคุณ กิรติการกุล ตำรวจวิทยาการเขต 32 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ประทักษ์ เจริญศิลป์ ผกก.สภ.อ.เมืองเชียงราย,พ.ต.ท.นพดล กลึงไกร รอง ผกก.ป., พ.ต.ต.สุรชาติ บุญเจริญ สวป. และตำรวจกองวิทยาการเชียงราย เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ห้างสรรพสินค้าอภิพลาซ่า เลขที่ 412/1 ถนนสนามบิน เขตเทศบาลนครเชียงราย อ.เมือง จ.เชียงราย ที่ต้นเพลิงได้เผาไหม้สินค้าภายในห้างกว่า 20 คูหาเสียหายทั้งหมด เมื่อ 19 เม.ย.50 ที่ผ่านมาแล้ว

เจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการ ยังได้เชิญ พันตรีนายแพทย์สกนธ์ อภินิเวศ ลูกชายเจ้าของห้างฯ พร้อมด้วยนางนิธิพรรณ อภินิเวศ กรรมการผู้จัดการห้างฯ และนายประยูร เขื่อนฉอ้อน อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 132/1 ม.12 ต.รอบเวียง อ.เมืองเชียงราย ช่างไฟและช่างอิเล็กทรอนิกส์ เข้าร่วมตรวจสอบ บริเวณที่ได้รับแจ้งว่าเห็นประกายไฟเป็นจุดแรก ซึ่งอยู่ในชั้นล่างของห้างฯด้านหลังของตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงไทย และตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงเทพ จำกัด ที่อยู่บริเวณด้านหน้าของห้าง

เจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการระบุว่า ไม่มีร่องรอยของไฟฟ้าลัดจร สายไฟทุกเส้นยังเป็นปกติ จากนั้นได้ทำการตรวจสอบจุดที่ 2 บริเวณชั้นลอยจึงได้พบสายไฟฟ้าขนาดใหญ่จำนวน 3 เส้น มีร่องรอยของสายไฟขาดตกเป็นท่อนๆ รวม 6 จุด และได้เข้าไปตรวจสอบบริเวณชั้น 2 ซึ่งมีห้องควบคุมระบบไฟฟ้าของห้างฯ พบว่าสะพานไฟหลายจุดไม่ได้อยู่ในตำแหน่งปิด

นายประยูร ช่างไฟฟ้าชี้แจงว่า ที่ไม่ปิดสะพานไฟบางส่วนเนื่องจากจำเป็นต้องจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับเครี่องใช้ไฟฟ้า คือ ตู้แช่เย็นในส่วนของซูเปอร์มาร์เกต รวมถึงตู้เอทีเอ็มทั้ง 2 ตู้ด้วย

พ.ต.ท.นพคุณ กิรติการกุล เจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการเขต 32 จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า เท่าที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ คงจะต้องมุ่งประเด็นไปที่กระแสไฟฟ้าลัดวงจร เพราะหลักฐานที่พบสามารถเชื่อมโยงไปถึงสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ได้ และบริเวณจุดที่เกิดเพลิงไหม้ก็ไม่ใช่บริเวณด้านหน้าชั้นล่างของห้างฯแต่อย่างใด แต่ภายหลังที่ปิดให้บริการแล้ว ห้างฯได้ปิดประตูเหล็กม้วนทุกด้านทำให้เปลวเพลิงไหม้คุอยู่ภายในและลุกลามอย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตาม ก็ยังไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่าเกิดจากกระแสไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ได้นำหลักฐานซึ่งเป็นสายไฟฟ้าที่ขาดตกอยู่นำไปให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจวิเคราะห์อีกครั้ง เพราะว่าเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้มีความเสียหายจำนวนมาก มูลค่าเกือบ 100 ล้านบาท จึงต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียด

ด้านพันตรีนายแพทย์สกนธ์ อภินิเวศ บุตรชายนายบัณฑิต อภินิเวศ ผู้บริหารห้างอภิพลาซ่า ซึ่งมีบ้านพักอยู่หลังห้าง กล่าวว่า ตอนเกิดเหตุตนมาดูพบว่าเพลิงไหม้ที่บริเวณจุดขายเสื้อผ้าบูติก ด้านหน้าชั้นล่าง ไม่ได้เกิดมาจากห้องครัว เพราะบริเวณดังกล่าวไม่มีห้องครัว และไม่เคยขัดแย้งกับใคร

สำหรับความเสียหายมีราว 60 ล้านบาทเศษ และมีวงเงินประกันราว 5% หรือ ราว 10 ล้านบาทเท่านั้น เพราะเพิ่งลดวงเงินประกันลงเมื่อเร็วๆนี้ ส่วนพนักงานกว่า 200 คน ต้องหยุดงานไปก่อนไม่มีกำหนด แต่อาจจะมีบางส่วนที่จะส่งไปทำงานที่ห้างฯอภิสแควร์ ที่กำลังจะเปิดใหม่ เพราะห้างฯเสียหายหมด เรื่องนี้ถือว่าเป็นเหตุเพลิงไหม้ใหญ่ที่สุดเท่าที่ครอบครัวประสบมา

ในระหว่างที่มีการตรวจสอบบริเวณชั้น 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจ และสื่อมวลชน พบว่า ภายในห้องทำงานของนางสาวนิธิพรรณ อภินิเวศ กรรมการผู้จัดการห้าง ซึ่งรอบๆ โต๊ะไฟไหม้หมด แต่บริเวณผนังที่มีพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์ พระบรมราชินีนาถ แขวนอยู่บนผนังหลังโต๊ะทำงาน รวมถึงพระบรมฉายาลักษณ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ แขวนอยู่ผนังอีกด้าน พร้อมด้วยพระรูปรัชกาลที่ 5 และรูปหลวงพ่อโสธร ซึ่งอยู่ภายในห้องไม่ได้รับความเสียหายจากเปลวไฟที่เผาไหม้บริเวณหลังคาจนยุบคงมาแต่อย่างใด ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่และพนักงานห้างฯ เชื่อว่าเกิดมาจากพระบารมีของพระองค์