ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- “พล.ต.อ.วงกต มณีรินทร์” รุดตรวจเยี่ยมตำรวจภูธรภาค 3 พร้อมร่วมแถลงข่าวผลการกวาดล้างอาชญากรรมก่อนถึงเทศกาลสงกรานต์ ได้ผู้ต้องหา และของกลางเป็นจำนวนมาก ทั้งคดีรวบมือปืนในบัญชีดำ ก่อคดีสังหารโชกโชน หลบหนีการจับกุมมาเกือบ 10 ปี รวบขบวนการลักลอบตัด-ขายไม้พยุงเถื่อนได้ผู้ต้องหาอื้อทั้งชาวไทย และนายทุนต่างชาติมูลค่าไม้กว่า 10 ล้านบาท และจับกุมแก๊งโจรกรรมรถยนต์มาจาก จ.มหาสารคาม พลาดท่าชนเกาะกลาง ถ.มิตรภาพ จนมุมตำรวจที่โคราช
วันนี้ (11 เม.ย.) เมื่อเวลา 14.30 น.ที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 3 อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.อ.วงกต มณีรินทร์ ที่ปรึกษา (สบ 10) ปฏิบัติหน้าที่รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (สป.) ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมหน่วยงานที่ปฏิบัติงานเกี่ยวกับเด็ก เยาวชนสตรี แรงงานและการจัดระเบียบสังคม ของตำรวจภูธรภาค 3 โดยมี พล.ต.ต.วราสิทธิ์ พรเลิศ ผู้บัญชาตำรวจภูธรภาค 3 นำคณะรองผู้บัญชาการและผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดในพื้นที่รับผิดชอบ 8 จังหวัดอีสานล่าง ให้การต้อนรับ
หลังจากนั้น พล.ต.อ.วงกต มณีรินทร์ ได้ร่วมกับตำรวจภูธรภาค 3 แถลงข่าวผลการกวาดล้างอาชญากรรมก่อนช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2550 ในพื้นที่ความรับผิดชอบ 8 จังหวัดอีสานตอนล่าง จำนวน 3 คดีสำคัญได้ผู้ต้องหารวม 14 ราย พร้อมของกลางอีกจำนวนมาก
แบ่งเป็นคดีการจับกุมมือปืนรับจ้าง ได้ผู้ต้องหาจำนวน 1 ราย คือ นายสุชาติ มากทองหลาง อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 137 หมู่ 8 ต.ทองหลาง อ.จักราช จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นผู้ต้องหาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ขึ้นบัญชี มือปืนรับจ้างไว้ลำดับที่ 48 และลำดับที่ 6 ของตำรวจภูธรภาค 3 ตามหมายจับของศาลจังหวัดนครราชสีมา ที่ 93/2546 วันที่ 15 ม.ค.2546
นายสุชาติ มีประวัติก่อคดีอาชญากรรมอย่างโชกโชน เช่น ใช้อาวุธปืนยิง นายครรชิต ตั้งเจิดจ้า เสียชีวิต และนางสุกัญญา ตั้งเจิดจ้า ภรรยา บาดเจ็บสาหัส เมื่อปี 2543 ที่ อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา แล้วหลบหนีไปอยู่ประเทศพม่า และถูกจับกุมได้ที่ฟาร์มเลี้ยงหมู ที่ ต.ห้วยยายจิ๋ว อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ วันนี้ (11 เม.ย.) ซึ่งขณะนี้ ตำรวจภูธรภาค 3 ยังมีมือปืนรับจ้างในบัญชีดำที่อยู่ระหว่างการสืบสวนติดตามจับกุมอีก 6 ราย
ส่วนอีกคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 3 และเจ้าพนักงานป่าไม้ ได้ทำการจับกุมขบวนการลักลอบทำลายทรัพยากรป่าไม้เป็นไม้พยุงผิดกฎหมาย ได้ผู้ต้องหารวม 13 ราย ในจำนวนนี้เป็นชาวจีน 1 คน คือ นายเฉิน แซนเจิน อายุ 36 ปี ซึ่งคาดว่า เป็นนายทุนรับซื้อไม้พยุง พร้อมของกลาง เป็นรถยนต์บรรทุกกึ่งพ่วง หมายเลขทะเบียน 70-4818 สงขลา, หมายเลขทะเบียนพ่วง 70-4817 สงขลา, ไม้พยุงจำนวน 252 ท่อน บรรจุอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์และกองอยู่บริเวณที่เกิดเหตุ คิดเป็นมูลค่าเมื่อถูกส่งออกขายต่างประเทศไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท และรถอีแต๋นหมายเลขทะเบียน ต-8430 นม 1 คัน
เจ้าหน้าที่จับกุมได้ที่ ด้านทิศเหนือของหมู่บ้านซับก้านเหลือง หมู่ 4 ต.ครบุรีใต้ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ห่างจากถนนสายบ้านปอแดง-เขื่อนมูลบน ประมาณ 300 เมตร เมื่อเช้าวันนี้ (11 เม.ย.) ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จึงแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งหมด ว่า ร่วมกันทำไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต, มีไม้หวงห้ามยังไม่ได้แปรรูปและแปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และ ร่วมกันรับไว้ ซ่อนเร้น หรือนำไปจำหน่าย มีความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้
นอกจากนี้ ในเช้าวันเดียวกันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา ได้ทำการจับกุม นายดิเรก อินทร์บุญ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 93 หมู่ 1 ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี พร้อมของกลางเป็นรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเทน่า สีฟ้า-ดำ หมายเลขทะเบียน ขรพ 496 นม 1 คัน และรถยนต์กระบะยี่ห้อ อีซูซุรุ่นดีแมคซ์ สีเทา หมายเลขทะเบียน บท 775 มหาสารคาม 1 คัน ที่บริเวณ ถ.มิตรภาพ หน้าบ้านสีสุก หมู่ 8 ต.ดอนชมพู อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา
ทั้งนี้ นายดิเรก ได้ร่วมกับพวก ก่อเหตุขโมยรถยนต์กระบะคันดังกล่าวมาจาก จ.มหาสารคาม เมื่อเวลา 02.00 น.วันนี้ (11 เม.ย.) และหลบหนีมาตาม ถ.มิตรภาพ เมื่อมาถึงบริเวณตลาดแค อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา ได้เกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนเกาะกลางถนน รถยนต์ไม่สามารถวิ่งต่อไปได้ นายดิเรก กับพวกจึงได้แยกย้ายกันหลบหนี และนายดิเรก ได้มาขโมยรถจักรยานยนต์ซึ่งจอดไว้บริเวณปั๊มน้ำมันขับหลบหนีไป และเจ้าของรถจักรยานยนต์ คือ นายจาก ดีดพิมาย อายุ 45 ปี ชาว ต.ธารปราสาท อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา ได้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าสกัดจับกุมได้ดังกล่าว
จากการสืบสวนทราบว่า รถยนต์คันดังกล่าวเป็นของ นางรัชนี ชินสอน อายุ 49 ปี ชาว อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม เจ้าหน้าที่ได้แจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมเร่งสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาที่อยู่ระหว่างการหลบหนีต่อไป