ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- ปัญหาสังคมโคราชเข้าขั้นวิกฤติ พบเด็ก-คนชราถูกทอดทิ้งกว่า 2.6 แสนคน ชี้สาเหตุสำคัญมาจากปัญหาความยากจน เผยเด็กแรกเกิดถูกทอดทิ้งมากขึ้นเพราะความไม่พร้อมของพ่อแม่ ด้านพัฒนาสังคมฯนครราชสีมาดึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นร่วมแก้ปัญหาอย่างจริงจังเป็นรูปธรรม
วันนี้ (13 มี.ค.) ที่โรงแรมราชพฤกษ์ แกรนด์โฮเทล นายพงษ์ศิริ กุสุมภ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานเปิด “โครงการฝึกอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับงานสวัสดิการสังคมแก่บุคลากรองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อความมั่นคงของประชาชน” ที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครราชสีมาจัดขึ้น โดยมีผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ประกอบด้วย นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.), องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา (อบจ.) และ นายกเทศมนตรีเทศบาล ในพื้นที่ จ.นครราชสีมาเข้าร่วมการรับการอบรมประมาณ 80 คน
ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้มีความรู้ และเป็นเครือข่ายที่สำคัญในการช่วยกันผนึกกำลัง ระดมความคิด งบประมาณ การสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ เพื่อให้สังคมดีอยู่เย็นเป็นสุขร่วมกัน และให้ อปท.เข้ามามีส่วนร่วมในการช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป
นายพงษ์ศิริ กุสุมภ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า จังหวัดนครราชสีมาเป็นจังหวัดใหญ่อันดับ 2 รองจากกรุงเทพฯ มีประชาชนกว่า 2.6 ล้านคน สภาพสังคมในปัจจุบัน พบว่า มีปัญหาสังคมเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะปัญหาเด็ก, คนพิการ, คนชราถูกทอดทิ้ง, เด็กวัยรุ่นที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม การถูกละเมิดทางเพศ ความรุนแรงในครอบครัว ปัญหาด้านเศรษฐกิจ ปัญหาความยากจน ปัญหาความรุนแรงต่อเด็กและสตรี การแพร่ระบาดของโรคเอดส์ และปัญหายาเสพติดในกลุ่มวัยรุ่น
ปัญหาที่มีแนวโน้มรุนแรงกว่าทุกปัญหา คือ ปัญหาเด็กถูกพ่อแม่ทอดทิ้งด้วยความไม่พร้อมที่จะมีครอบครัว และปัญหาคนชราที่ไม่มีคนเลี้ยงดู เนื่องจากความยากจน ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญนำไปสู่การเกิดปัญหาสังคมอื่นๆ ตามมา
“โดยเฉพาะเด็กที่คลอดออกมามักจะถูกพ่อแม่ซึ่งมีฐานะยากจนทอดทิ้ง เนื่องจากไม่สามารถเลี้ยงดูด้วยตัวเองได้ เป็นปัญหาที่น่าเป็นห่วงและมีสถิติเพิ่มสูงขึ้นทุกปี ขณะนี้ทางจังหวัดได้มอบหมายให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดำเนินการช่วยเหลือในเบื้องต้น ซึ่ง อปท.มีงบประมาณส่วนนี้ดำเนินการช่วยเหลือได้อยู่แล้วโดยสนับสนุนให้มีศูนย์เด็กเล็กเกิดขึ้นในแต่ละตำบล ที่สามารถช่วยเหลือเด็กเหล่านี้ได้ ส่วนปัญหาคนชราที่มีฐานะยากจนซึ่งมีเป็นจำนวนมากนั้น อปท.ก็จะมีงบประมาณลงไปช่วยเหลือได้เช่นกัน” นายพงษ์ศิริ กล่าว
ทั้งนี้ ต้นเหตุสำคัญของปัญหา คือ ความยากจน ที่จะต้องดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วน โดยจังหวัดนครราชสีมา ได้กำหนดยุทธศาสตร์ในการแก้ไขปัญหาความยากจนไว้แล้ว 5 ประการหลัก คือ โครงการอยู่ดีมีสุข โดยเน้นการนำเศรษฐกิจพอเพียงเป็นมาใช้ในการดำเนินชีวิต, การใช้ผลิตภัณฑ์ในชุมชนของตนเอง, การนำงบประมาณของ อปท.มาใช้ในการสงเคราะห์ให้แก่ประชาชนที่ยากจน, การบริการประชาชนด้านต่างๆ จากภาครัฐ โดยเฉพาะเรื่องสวัสดิการ และ การนำคุณธรรมมาใช้ในสังคม เช่นความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ความสมานฉันท์ และความรักสามัคคี
ด้าน ว่าที่ ร.ต.เกรียงศักดิ์ คุณวิเศษ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า จากการสำรวจครั้งล่าสุด พบว่า เด็กและคนชราในจังหวัดนครราชสีมาถูกทอดทิ้งไม่ได้รับการเหลียวแลประมาณ 10% ของจำนวนประชาชนกรทั้งหมด หรือประมาณ 2.6 แสนคน เป็นตัวเลขที่ค่อนข้างสูง แต่หากเปรียบเทียบระดับประเทศแล้ว ปัญหาเด็กและคนชราถูกทอดทิ้งของจังหวัดนครราชสีมา ยังอยู่ในระดับกลาง เนื่องจากใน จ.นครราชสีมา มีการเติบโตด้านอุตสาหกรรม มีโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่จำนวนมาก ทำให้มีแหล่งทำงานมีรายได้ คุณภาพชีวิตดีกว่าหลายจังหวัด ประชาชนไม่ต้องอพยพไปทำงานที่อื่น ทำให้มีเวลาอยู่กับครอบครัวได้
อย่างไรก็ตาม เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาทวีความรุนแรงมากขึ้น สำนักงานพัฒนาสังคมฯ ได้ส่งเสริมให้ อปท.เข้ามามีบทบาทในการแก้ไขปัญหาเนื่องจากเป็นหน่วยงานที่ใกล้ชิดกับประชาชน โดยจัดฝึกอบรม ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 2 รุ่น โดยรุ่นที่ 1 เป็นการอบรมให้ความรู้แก่นายก อบต., นายก อบจ.และนายกเทศมนตรี ระหว่างวันที่ 13-14 มี.ค.2550 และรุ่นที่ 2 ระหว่างวันที่ 27-28 มี.ค.2550 เป็นการอบรมให้ความรู้แก่ปลัด อบจ., อบต. และปลัดเทศบาล รวมจำนวน 334 คน
วันนี้ (13 มี.ค.) ที่โรงแรมราชพฤกษ์ แกรนด์โฮเทล นายพงษ์ศิริ กุสุมภ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานเปิด “โครงการฝึกอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับงานสวัสดิการสังคมแก่บุคลากรองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อความมั่นคงของประชาชน” ที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครราชสีมาจัดขึ้น โดยมีผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ประกอบด้วย นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.), องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา (อบจ.) และ นายกเทศมนตรีเทศบาล ในพื้นที่ จ.นครราชสีมาเข้าร่วมการรับการอบรมประมาณ 80 คน
ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้มีความรู้ และเป็นเครือข่ายที่สำคัญในการช่วยกันผนึกกำลัง ระดมความคิด งบประมาณ การสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ เพื่อให้สังคมดีอยู่เย็นเป็นสุขร่วมกัน และให้ อปท.เข้ามามีส่วนร่วมในการช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป
นายพงษ์ศิริ กุสุมภ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า จังหวัดนครราชสีมาเป็นจังหวัดใหญ่อันดับ 2 รองจากกรุงเทพฯ มีประชาชนกว่า 2.6 ล้านคน สภาพสังคมในปัจจุบัน พบว่า มีปัญหาสังคมเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะปัญหาเด็ก, คนพิการ, คนชราถูกทอดทิ้ง, เด็กวัยรุ่นที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม การถูกละเมิดทางเพศ ความรุนแรงในครอบครัว ปัญหาด้านเศรษฐกิจ ปัญหาความยากจน ปัญหาความรุนแรงต่อเด็กและสตรี การแพร่ระบาดของโรคเอดส์ และปัญหายาเสพติดในกลุ่มวัยรุ่น
ปัญหาที่มีแนวโน้มรุนแรงกว่าทุกปัญหา คือ ปัญหาเด็กถูกพ่อแม่ทอดทิ้งด้วยความไม่พร้อมที่จะมีครอบครัว และปัญหาคนชราที่ไม่มีคนเลี้ยงดู เนื่องจากความยากจน ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญนำไปสู่การเกิดปัญหาสังคมอื่นๆ ตามมา
“โดยเฉพาะเด็กที่คลอดออกมามักจะถูกพ่อแม่ซึ่งมีฐานะยากจนทอดทิ้ง เนื่องจากไม่สามารถเลี้ยงดูด้วยตัวเองได้ เป็นปัญหาที่น่าเป็นห่วงและมีสถิติเพิ่มสูงขึ้นทุกปี ขณะนี้ทางจังหวัดได้มอบหมายให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดำเนินการช่วยเหลือในเบื้องต้น ซึ่ง อปท.มีงบประมาณส่วนนี้ดำเนินการช่วยเหลือได้อยู่แล้วโดยสนับสนุนให้มีศูนย์เด็กเล็กเกิดขึ้นในแต่ละตำบล ที่สามารถช่วยเหลือเด็กเหล่านี้ได้ ส่วนปัญหาคนชราที่มีฐานะยากจนซึ่งมีเป็นจำนวนมากนั้น อปท.ก็จะมีงบประมาณลงไปช่วยเหลือได้เช่นกัน” นายพงษ์ศิริ กล่าว
ทั้งนี้ ต้นเหตุสำคัญของปัญหา คือ ความยากจน ที่จะต้องดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วน โดยจังหวัดนครราชสีมา ได้กำหนดยุทธศาสตร์ในการแก้ไขปัญหาความยากจนไว้แล้ว 5 ประการหลัก คือ โครงการอยู่ดีมีสุข โดยเน้นการนำเศรษฐกิจพอเพียงเป็นมาใช้ในการดำเนินชีวิต, การใช้ผลิตภัณฑ์ในชุมชนของตนเอง, การนำงบประมาณของ อปท.มาใช้ในการสงเคราะห์ให้แก่ประชาชนที่ยากจน, การบริการประชาชนด้านต่างๆ จากภาครัฐ โดยเฉพาะเรื่องสวัสดิการ และ การนำคุณธรรมมาใช้ในสังคม เช่นความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ความสมานฉันท์ และความรักสามัคคี
ด้าน ว่าที่ ร.ต.เกรียงศักดิ์ คุณวิเศษ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า จากการสำรวจครั้งล่าสุด พบว่า เด็กและคนชราในจังหวัดนครราชสีมาถูกทอดทิ้งไม่ได้รับการเหลียวแลประมาณ 10% ของจำนวนประชาชนกรทั้งหมด หรือประมาณ 2.6 แสนคน เป็นตัวเลขที่ค่อนข้างสูง แต่หากเปรียบเทียบระดับประเทศแล้ว ปัญหาเด็กและคนชราถูกทอดทิ้งของจังหวัดนครราชสีมา ยังอยู่ในระดับกลาง เนื่องจากใน จ.นครราชสีมา มีการเติบโตด้านอุตสาหกรรม มีโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่จำนวนมาก ทำให้มีแหล่งทำงานมีรายได้ คุณภาพชีวิตดีกว่าหลายจังหวัด ประชาชนไม่ต้องอพยพไปทำงานที่อื่น ทำให้มีเวลาอยู่กับครอบครัวได้
อย่างไรก็ตาม เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาทวีความรุนแรงมากขึ้น สำนักงานพัฒนาสังคมฯ ได้ส่งเสริมให้ อปท.เข้ามามีบทบาทในการแก้ไขปัญหาเนื่องจากเป็นหน่วยงานที่ใกล้ชิดกับประชาชน โดยจัดฝึกอบรม ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 2 รุ่น โดยรุ่นที่ 1 เป็นการอบรมให้ความรู้แก่นายก อบต., นายก อบจ.และนายกเทศมนตรี ระหว่างวันที่ 13-14 มี.ค.2550 และรุ่นที่ 2 ระหว่างวันที่ 27-28 มี.ค.2550 เป็นการอบรมให้ความรู้แก่ปลัด อบจ., อบต. และปลัดเทศบาล รวมจำนวน 334 คน