พิษณุโลก - เพลิงไหม้ โรงหนังเจริญผลใจกลางเมืองสองแคว อายุร่วม 50 ปี หลังทิ้งสัญญาเช่าปล่อยร้างนานเกือบ 10 ปี ตำรวจตัดประเด็นไฟลัดวงจร/ เผาเอาประกัน เชื่อแก๊งวัยรุ่นติดยาวางเพลิง แต่ไม่ตัดประเด็นก่อเหตุความไม่สงบ ขณะที่ฝ่ายทหารทัพภาค 3 ตามติดใกล้ชิด
เมื่อเวลา 04.40 น.วันนี้ (13มีนาคม2550) ร.ต.ต.รัตตะ สร้อยแก้ว ร้อยเวร สภอ.เมือง พิษณุโลก รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีเหตุเพลิงไหม้ที่โรงหนังเจริญผล บริเวณหอนาฬิกา ใจกลางเมืองพิษณุโลก จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมกับ พล.ต.ต.ขัตติยะ อนันตวงศ์ ผบก.ตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก, พ.ต.อ.ประเสริฐ กาฬรัตน์, พ.ต.อ.เฉลิม สุวรรณรัตน์โอสถ รองผบก.ตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก และ พ.ต.อ.จิรวัฒน์ พิทยจันทร์ ผกก.สภอ.เมืองพิษณุโลก นายอดิเทพ เจริญพันธ์ รองนายกเทศมนตรีพิษณุโลกและฝ่ายทหารจากสังกัดกองทัพภาคที่ 3 ที่เฝ้าดูเหตุการณ์อย่างใกล้ชิด
ที่เกิดเหตุ เปลวเพลิงได้ลุกโหมโรงหนังร้างเป็นเวลา 1 ชั่งโมงเศษ มีรถน้ำจากเทศบาลนครพิษณุโลกและ กก.ตชด.31 เทศบาลในหลายอำเภอรวมทั้งหมดร่วม 20 คัน ช่วยกันระดมดับเพลิง โดยใช้เวลากว่า 2 ชั่งโมงเพื่อสะกัดเพลิง มิให้ลุกลามไปยังตึกบริเวณข้างเคียง จนกระทั่งสามารถควบคุมเพลิงจนสงบ
จากการสอบสวนเบื้องต้นในที่เกิดเหตุ น.ส.มนี จันทน์นา อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17/8 ถ.พุทธบูชา ซอย 1 อ.เมือง จ.พิษณุโลก ลูกจ้างร้านประชานิยม ระบุว่า เมื่อเวลาตี 4.30 น.ตนกำลังออกไปจ่ายตลาด ได้เห็นเพลิงลุกไหม้มาจากบริเวณบันไดชั้น 2 ของโรงหนัง จากนั้นเพลิงได้ลุกโหมอย่างรวดเร็ว โดยที่โรงหนังเจริญผลแห่งนี้ ไม่มีไฟฟ้า - ไม่มีผู้อยู่อาศัยอยู่ บริเวณด้านหน้าเปิดกว้าง คนทั่วไปสามารถเข้าออกได้ ซึ่งยังไม่แน่ว่ามีใครหลบไปพักพิงหรือไม่ จึงได้แจ้งกับศูนย์วิทยุ 191
“ป๋าติ๋ว”อายุ 64 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์และเป็นคนรุ่นเก่า ที่อาศัยอยู่ย่านโรงหนังเจริญผล ให้ข้อมูลว่า โรงหนังเจริญผลแห่งนี้ พ่อของตนคือนายสิน เจริญผล ก่อสร้างไว้หลังปี พ.ศ.2500 หรือหลังเหตุการณ์ไฟไหม้ใหญ่ที่พิษณุโลก โดยได้ก่อสร้างโรงหนังและทำสัญญาเช่าเพื่อประกอบกิจการฉายหนังต่อเนื่องเป็นเวลา 40 ปี กระทั่งหมดสัญญา และไม่ได้ต่อสัญญาเป็นเวลาร่วม 10 ปี ประกอบกับก่อนหมดสัญญาเช่า
โรงหนังแห่งนี้ก็ไม่ค่อยมีหนังฉาย เนื่องจากไม่ได้รับความนิยม ส่วนเจ้าของที่ดินและอาคารตัวจริง คือ สารวัตรแฉล่ม ซึ่งเป็นสารวัตรสถานีรถไฟพิษณุโลก สมัยนั้นชื่อนายแฉล่ม สุกิจ ต่อมาได้เสียชีวิตลง และลูกชื่อนางประทิน สุกิจ (นามสกุลเดิม) เป็นผู้ครอบครองต่อ มีบุตรชายเดินทางมาเก็บค่าเช่า บริเวณตลาดเจริญผลเป็นประจำทุกเดือน
โรงหนังเจริญผลแห่งนี้ มีคนมาติดต่อขอเช่า แต่เจ้าของไม่ยอม เนื่องจากเป็นคนมีฐานะ มีที่ดินอยู่ที่อำเภอศรีสำโรงเป็นจำนวนมาก คาดว่าโรงหนังเจริญผลก็ไม่ได้ติดภาระจำนองใดๆ แต่กลับปล่อยให้โรงหนังเจริญผลรกร้าง กลายเป็นที่พักพิงของแก๊งวัยรุ่นติดยา
เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิฐานเบื้องต้นว่า โรงหนังเจริญผลร้าง ไม่มีเลขที่ ถูกตัดกระแสไฟออกหมดแล้ว และไม่ได้ทำประกันไว้ เชื่อว่า ไม่ใช่วางเพลิงเพื่อเอาประกัน ส่วนประเด็นการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบ เชื่อว่าเหตุการณ์ทางการเมืองในพิษณุโลกนิ่งมานานแล้ว ไม่ควรเกิด แต่ก็ไม่วางใจ
สำหรับประเด็นที่ให้น้ำหนักมากสุด คือ กลุ่มวัยรุ่นติดยา ซึ่งจะต้องรอเจ้าหน้าที่วิทยาการ เก็บหลักฐานไปพิสูจน์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป