อุดรธานี- วิ่งวุ่นทั้งเมืองข่าวลือรถตู้ไล่จับเด็ก ตำรวจทุกหน่วยระดมกำลังต้อนรถตู้ต้องสงสัย สุดท้ายจับได้กลายเป็นรถเซลล์ขายเครื่องสำอาง เผยข่าวเด็กหาย ถูกจับตัดมือเป็นขอทานทำผู้ปกครองวิตกหนัก เห็นรถตู้ไม่มีป้ายทะเบียนถึงกับผวา
เมื่อเวลา 12.30 น.วันนี้ (12 มี.ค.) ศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทอง สภ.อ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งทางโทรศัพท์จาก ครูโรงเรียนบ้านหนองหลอด ม.9 ต.เชียงยืน ว่า มีรถตู้สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ในรถตู้มีชายฉกรรจ์ 4-5 คน มาไล่จับเด็กอยู่บริเวณคลองส่งน้ำชลประทานท้ายหมู่บ้าน
หลังรับแจ้งได้วิทยุประสานให้ตำรวจทุกสายงาน ไม่ว่าจะเป็นตำรวจสายตรวจ 191, ตำรวจสืบสวนชุดพิรุณ, สืบสวนภูธรจังหวัด และเขตงานพร้อม ตำรวจชุมชนทุกตำบล (ตชต.) ออกไปตรวจสอบหาข่าว และสกัดจับรถตู้ดังกล่าว ตามเส้นทางทุกสายที่จะเข้าและออกจากตัวเมืองอุดรธานี ซึ่ง พล.ต.ต.ธีระศักดิ์ กลิ่นพงษา ผบก.ภ.จว.อุดรธานี ได้กำชับให้ตำรวจสกัดจับรถตู้ให้ได้
หลังรับแจ้งประมาณ 30 นาที สายตรวจเขตงานนิตโย พบรถตู้ต้องสงสัย ขับผ่านสี่แยกบายพาสอุดร-สกลนคร มุ่งหน้ามาทางสี่แยกบายพาสอุดร-ขอนแก่น จึงขับรถไล่ตาม และวิทยุขอกำลังสนับสนุน จนสามารถสกัดจับรถตู้ ได้ที่บริเวณบ้านดงเค็ง ต.บ้านจั่น เป็นรถตู้ขายเครื่องสำอางยี่ห้อดังแห่งหนึ่ง (มิสทิน) ตรวจค้นภายในรถ ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย มีแต่เครื่องสำอาง ตำรวจจึงเชิญคนขับรถ มาลงบันทึกเป็นหลักฐานที่โรงพัก ก่อนจะปล่อยตัวกลับ
สำหรับเรื่องราวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ เป็นเรื่องโอละพ่อเข้าใจผิดกันมากกว่า เนื่องจากเช้าวันนี้ มีข่าวทางโทรทัศน์ช่องหนึ่งได้นำเสนอข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์รถตู้จับเด็ก ทางผู้ใหญ่บ้านหนองหลอด จึงประกาศเสียงตามสายในหมู่บ้าน ให้ชาวบ้านช่วยกันระมัดระวัง
ต่อมามีเด็กในหมู่บ้านหนองหลอดคนหนึ่ง ไปเล่นน้ำที่คลองส่งน้ำชลประทาน แล้วมองไปเห็นรถตู้ผ่านมาพอดี จึงเกิดความเข้าใจผิด คิดว่า มีรถตู้มาหาไล่จับเด็ก จึงวิ่งไปบอกผู้ปกครอง
จากนั้นข่าวลือก็เกิดขึ้น ทำให้ชาวบ้านในหมู่บ้านกลัวบุตรหลานจะตกเป็นเหยื่อรถตู้ จึงพร้อมใจพากันรีบไปรับตัวบุตรหลาน อยู่ที่โรงเรียนเพื่อนำกลับบ้าน พอครูทราบเรื่องทั้งหมด ด้วยความห่วงใย และหวังดีต่อเด็ก กลัวจะเกิดเหตุร้ายขึ้นจริง จึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจ และกว่าทุกอย่างจะกระจ่าง ว่าไม่มีเหตุรถตู้ไล่จับเด็ก ก็สร้างความโกลาหล ให้กับตำรวจพอสมควร
เหตุที่เกิดขึ้นนี้ ถือเป็นการทดสอบความพร้อมของตำรวจเมืองอุดรธานี เพราะเมื่อมีเหตุเกิดขึ้น ทางตำรวจก็สามารถเข้าระงับเหตุได้เร็วอย่างทันท่วงที
เมื่อเวลา 12.30 น.วันนี้ (12 มี.ค.) ศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทอง สภ.อ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งทางโทรศัพท์จาก ครูโรงเรียนบ้านหนองหลอด ม.9 ต.เชียงยืน ว่า มีรถตู้สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ในรถตู้มีชายฉกรรจ์ 4-5 คน มาไล่จับเด็กอยู่บริเวณคลองส่งน้ำชลประทานท้ายหมู่บ้าน
หลังรับแจ้งได้วิทยุประสานให้ตำรวจทุกสายงาน ไม่ว่าจะเป็นตำรวจสายตรวจ 191, ตำรวจสืบสวนชุดพิรุณ, สืบสวนภูธรจังหวัด และเขตงานพร้อม ตำรวจชุมชนทุกตำบล (ตชต.) ออกไปตรวจสอบหาข่าว และสกัดจับรถตู้ดังกล่าว ตามเส้นทางทุกสายที่จะเข้าและออกจากตัวเมืองอุดรธานี ซึ่ง พล.ต.ต.ธีระศักดิ์ กลิ่นพงษา ผบก.ภ.จว.อุดรธานี ได้กำชับให้ตำรวจสกัดจับรถตู้ให้ได้
หลังรับแจ้งประมาณ 30 นาที สายตรวจเขตงานนิตโย พบรถตู้ต้องสงสัย ขับผ่านสี่แยกบายพาสอุดร-สกลนคร มุ่งหน้ามาทางสี่แยกบายพาสอุดร-ขอนแก่น จึงขับรถไล่ตาม และวิทยุขอกำลังสนับสนุน จนสามารถสกัดจับรถตู้ ได้ที่บริเวณบ้านดงเค็ง ต.บ้านจั่น เป็นรถตู้ขายเครื่องสำอางยี่ห้อดังแห่งหนึ่ง (มิสทิน) ตรวจค้นภายในรถ ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย มีแต่เครื่องสำอาง ตำรวจจึงเชิญคนขับรถ มาลงบันทึกเป็นหลักฐานที่โรงพัก ก่อนจะปล่อยตัวกลับ
สำหรับเรื่องราวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ เป็นเรื่องโอละพ่อเข้าใจผิดกันมากกว่า เนื่องจากเช้าวันนี้ มีข่าวทางโทรทัศน์ช่องหนึ่งได้นำเสนอข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์รถตู้จับเด็ก ทางผู้ใหญ่บ้านหนองหลอด จึงประกาศเสียงตามสายในหมู่บ้าน ให้ชาวบ้านช่วยกันระมัดระวัง
ต่อมามีเด็กในหมู่บ้านหนองหลอดคนหนึ่ง ไปเล่นน้ำที่คลองส่งน้ำชลประทาน แล้วมองไปเห็นรถตู้ผ่านมาพอดี จึงเกิดความเข้าใจผิด คิดว่า มีรถตู้มาหาไล่จับเด็ก จึงวิ่งไปบอกผู้ปกครอง
จากนั้นข่าวลือก็เกิดขึ้น ทำให้ชาวบ้านในหมู่บ้านกลัวบุตรหลานจะตกเป็นเหยื่อรถตู้ จึงพร้อมใจพากันรีบไปรับตัวบุตรหลาน อยู่ที่โรงเรียนเพื่อนำกลับบ้าน พอครูทราบเรื่องทั้งหมด ด้วยความห่วงใย และหวังดีต่อเด็ก กลัวจะเกิดเหตุร้ายขึ้นจริง จึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจ และกว่าทุกอย่างจะกระจ่าง ว่าไม่มีเหตุรถตู้ไล่จับเด็ก ก็สร้างความโกลาหล ให้กับตำรวจพอสมควร
เหตุที่เกิดขึ้นนี้ ถือเป็นการทดสอบความพร้อมของตำรวจเมืองอุดรธานี เพราะเมื่อมีเหตุเกิดขึ้น ทางตำรวจก็สามารถเข้าระงับเหตุได้เร็วอย่างทันท่วงที