รายงานพิเศษ
วันที่ 5 มีนาคม ของทุกปี จะเป็น “วันนักข่าว” วัตถุประสงค์ก็เพื่อให้บรรดานกน้อยมีความภาคภูมิอิ่มเอมกับผลงานที่เหน็ดเหนื่อยกันมาทั้งปี และเพื่อพยายามกระตุ้นเสริมสร้างพลังกายใจปลูกฝังจิตสำนึกให้รักใคร่ศรัทธาในอาชีพ หวังที่จะสร้างกำลังใจให้นกน้อยมีเรี่ยวแรงโผผินโฉบเฉี่ยวไปด้วยอุดมการณ์ยึดหลักจรรยาบรรณ ไม่ย่อท้อที่จะเฝ้าคอยดักจับแมลงร้าย มีความมุ่งมั่นที่จะปกป้องไร่ส้มโดยมิแยแสรสที่หอมหวานของผลส้ม
เหล่านกน้อยทำหน้าที่กันอย่างนั้นแต่ก็ยังมีฝูงกระหัง ที่แหกปากร้องตะโกนบอกชาวบ้านว่า ฉันนี่แหละคือนกน้อย ไอ้กระด้งข้างๆ เนี่ยคือปีก ส่วนไอ้สากกลมๆ ยาวๆ ข้างหลังฉันก็คือหาง หลายคนเห็นก็ทำท่างงๆ “ไอ้ผีกระหังฝูงนี้จำแลงแปลงกายเป็นนกน้อยกันอีท่าไหน ในเมื่อขยับกระด้งจะบินทีไร ก็ส่งกลิ่นตัวที่เหม็นคาวจนฉาวโฉ่ไปทั่วเมือง"
ที่ จ.กาฬสินธุ์ นสพ.ท้องถิ่น "ไทอีสาน" ตีข่าวหน้า 1 เป็นข่าวใหญ่ว่า ทางสมาคมสื่อสารมวลชนจังหวัดกาฬสินธุ์ ร่วมกับชมรมสื่อมวลชนจังหวัดกาฬสินธุ์ และ นสพ.ไทอีสาน ร่วมกันจัดงานเลี้ยง ในวันที่ 5 มีนาคม (วันนักข่าว) ที่ห้องทศพร โรงแรมริมปาว จำหน่ายบัตรราคาคนละ 200 บาท โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อมอบโล่เชิดชูเกียรติให้กับผู้ที่มีผลงานดีเด่นอุทิศตนเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนในปี 49 โดยแบ่งรางวัลออกเป็น 2 ประเภทได้แก่ ประเภทบุคคล 9 ราย ประเภทองค์กร 6 ราย
เรื่องผลงานของบุคคลทั้ง 9 ราย และองค์กรอีก 6 แห่งนั้น คนกาฬสินธุ์ ก็ยอมรับในผลงานถือว่าสอบผ่าน แต่ละคนล้วนกระเป๋าหนักๆ กันทุกราย ผู้ที่เดือดร้อนหนักก็เห็นจะเป็นหน่วยงานราชการระดับจังหวัด ระดับอำเภอ(18 แห่ง) พ่อค้าห้างร้าน ตำรวจแทบทุกสถานี จำเป็นต้องควักเงินซื้อบัตรคนละ 200 บาท หรือให้เหมาโต๊ะๆ ละ 2,000 บาท เรื่องจัดงานเก็บเงินวันนักข่าว โดยอ้างหลักการเหตุผลบังหน้า เด็กอมมือยังรู้ว่าจัดงานเพื่ออะไร
เรื่องนี้ที่กาฬสินธุ์อาจจะถือว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยปล่อยมันไปแค่ปีละครั้ง แต่ทางสมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทย องค์กรที่เกี่ยวข้องกับสื่อสารมวลชนใหญ่ๆ หรือทาง นสพ.ส่วนกลางฉบับต่างๆ ถือว่าเป็นเรื่องเลวร้าย สร้างความเสื่อมเสียให้กับวงการสื่อ ต้องดำเนินการสอบสวนลงโทษโดยทันที
เรื่องนี้ทางสมาคมสื่อสารมวลชนและคณะกรรมการจัดงานฯ นายชาญยุทธ โคตะนนท์ และผู้สื่อข่าว นสพ.หัวเขียว จ.กาฬสินธุ์ (บางคน) จะชี้แจงรับผิดชอบกันอย่างไร โดยเฉพาะบางคนเขาบอกว่ามีส่วนพัวพันกับการทุจริตที่ อบต.ทุ่งคลอง ก็ลือกันแซดว่า ซีละแสน แถมยังเป็นนักวิ่งล็อบบี้ สนช.อีกต่างหาก
ได้ยินเขาเล่ามาแบบนี้แล้ว เหนื่อยแทนประเทศไทย
วันที่ 5 มีนาคม ของทุกปี จะเป็น “วันนักข่าว” วัตถุประสงค์ก็เพื่อให้บรรดานกน้อยมีความภาคภูมิอิ่มเอมกับผลงานที่เหน็ดเหนื่อยกันมาทั้งปี และเพื่อพยายามกระตุ้นเสริมสร้างพลังกายใจปลูกฝังจิตสำนึกให้รักใคร่ศรัทธาในอาชีพ หวังที่จะสร้างกำลังใจให้นกน้อยมีเรี่ยวแรงโผผินโฉบเฉี่ยวไปด้วยอุดมการณ์ยึดหลักจรรยาบรรณ ไม่ย่อท้อที่จะเฝ้าคอยดักจับแมลงร้าย มีความมุ่งมั่นที่จะปกป้องไร่ส้มโดยมิแยแสรสที่หอมหวานของผลส้ม
เหล่านกน้อยทำหน้าที่กันอย่างนั้นแต่ก็ยังมีฝูงกระหัง ที่แหกปากร้องตะโกนบอกชาวบ้านว่า ฉันนี่แหละคือนกน้อย ไอ้กระด้งข้างๆ เนี่ยคือปีก ส่วนไอ้สากกลมๆ ยาวๆ ข้างหลังฉันก็คือหาง หลายคนเห็นก็ทำท่างงๆ “ไอ้ผีกระหังฝูงนี้จำแลงแปลงกายเป็นนกน้อยกันอีท่าไหน ในเมื่อขยับกระด้งจะบินทีไร ก็ส่งกลิ่นตัวที่เหม็นคาวจนฉาวโฉ่ไปทั่วเมือง"
ที่ จ.กาฬสินธุ์ นสพ.ท้องถิ่น "ไทอีสาน" ตีข่าวหน้า 1 เป็นข่าวใหญ่ว่า ทางสมาคมสื่อสารมวลชนจังหวัดกาฬสินธุ์ ร่วมกับชมรมสื่อมวลชนจังหวัดกาฬสินธุ์ และ นสพ.ไทอีสาน ร่วมกันจัดงานเลี้ยง ในวันที่ 5 มีนาคม (วันนักข่าว) ที่ห้องทศพร โรงแรมริมปาว จำหน่ายบัตรราคาคนละ 200 บาท โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อมอบโล่เชิดชูเกียรติให้กับผู้ที่มีผลงานดีเด่นอุทิศตนเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนในปี 49 โดยแบ่งรางวัลออกเป็น 2 ประเภทได้แก่ ประเภทบุคคล 9 ราย ประเภทองค์กร 6 ราย
เรื่องผลงานของบุคคลทั้ง 9 ราย และองค์กรอีก 6 แห่งนั้น คนกาฬสินธุ์ ก็ยอมรับในผลงานถือว่าสอบผ่าน แต่ละคนล้วนกระเป๋าหนักๆ กันทุกราย ผู้ที่เดือดร้อนหนักก็เห็นจะเป็นหน่วยงานราชการระดับจังหวัด ระดับอำเภอ(18 แห่ง) พ่อค้าห้างร้าน ตำรวจแทบทุกสถานี จำเป็นต้องควักเงินซื้อบัตรคนละ 200 บาท หรือให้เหมาโต๊ะๆ ละ 2,000 บาท เรื่องจัดงานเก็บเงินวันนักข่าว โดยอ้างหลักการเหตุผลบังหน้า เด็กอมมือยังรู้ว่าจัดงานเพื่ออะไร
เรื่องนี้ที่กาฬสินธุ์อาจจะถือว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยปล่อยมันไปแค่ปีละครั้ง แต่ทางสมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทย องค์กรที่เกี่ยวข้องกับสื่อสารมวลชนใหญ่ๆ หรือทาง นสพ.ส่วนกลางฉบับต่างๆ ถือว่าเป็นเรื่องเลวร้าย สร้างความเสื่อมเสียให้กับวงการสื่อ ต้องดำเนินการสอบสวนลงโทษโดยทันที
เรื่องนี้ทางสมาคมสื่อสารมวลชนและคณะกรรมการจัดงานฯ นายชาญยุทธ โคตะนนท์ และผู้สื่อข่าว นสพ.หัวเขียว จ.กาฬสินธุ์ (บางคน) จะชี้แจงรับผิดชอบกันอย่างไร โดยเฉพาะบางคนเขาบอกว่ามีส่วนพัวพันกับการทุจริตที่ อบต.ทุ่งคลอง ก็ลือกันแซดว่า ซีละแสน แถมยังเป็นนักวิ่งล็อบบี้ สนช.อีกต่างหาก
ได้ยินเขาเล่ามาแบบนี้แล้ว เหนื่อยแทนประเทศไทย