คดีวิสามัญมอดไม้แพร่วุ่น/ญาติ-ผู้นำชุมชนยันเหยื่อแค่ “เก็บไข่มดแดง”

แพร่ - วิสามัญมอดไม้เมืองแพร่วุ่น ญาติ-ผู้นำท้องถิ่นยันไม่ใช่คนตัดไม้ แต่เป็นชาวบ้านเก็บไข่มดแดงตายฟรี

กรณีเหตุการณ์ปิดล้อมกลุ่มตัดไม้ทำลายป่า และมีการยิงต่อสู้กันโดยเจ้าหน้าที่ยิงผู้ลักลอบตัดไม้เสียชีวิต 1 ราย เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ซึ่งจุดเกิดเหตุอยู่ที่รอยต่อแนวเขต อ.เมืองแพร่ และ อ.ลอง บริเวณหุบเขาจำเดิม ปางสังกะสี อ.เมืองแพร่ จากคำบอกเล่าของ นายนิมิตร จันทร์เกษมสุข หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยผากลอง อ.ลอง จ.แพร่ ยังเป็นที่กังขาของประชาชนโดยเฉพาะครอบครัวของนายหยัด คำแดง อายุ 45 ปีผู้ตาย

นางจ๋อย คำแดง อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 108/3 หมู่ 3 ต.วังธง อ.เมือง จ.แพร่ กล่าวว่า สามีของตนมีอาชีพทำไร่ทำนา ไม่เคยตัดไม้เถื่อน และไม่เคยมีอาชีพขายไม้แต่อย่างใด วันเกิดเหตุสามีเข้าป่าไปเก็บไข่มดแดง เพื่อนำมาขายเลี้ยงครอบครัว ไม่คิดว่า สามีจะถูกยิงตาย ครอบครัวมีฐานะยากจนเป็นชาวบ้านธรรมดา ในหมู่บ้านก็ไม่มีใครทำไม้เถื่อนแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ป่าไม้ยิงสามีของตนโหดร้ายเกินไป เป็นการยิงคนดียิงชาวบ้านตาดำๆ ที่ไม่มีทางสู้

นายสำราญ ธงสิบสอง นายก อบต.วังธง กล่าวว่า ป่าแถบนี้มีชาวบ้านเข้าไปหาของป่าในฤดูแล้ง ชาวบ้านเข้าไปเก็บผักหวาน เก็บไข่มดแดง นำออกมาขายเป็นรายได้ช่วงที่ทำการเพาะปลูกไม่ได้ เนื่องจากภัยแล้ง นายหยัด ที่ถูกยิงขณะกำลังหุงหาอาหารอยู่ใกล้เพิงพักเลี้ยงสัตว์ของชาวบ้าน ห่างจากจุดที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้เข้าจับกุมกลุ่มตัดไม้ราว 500 เมตร นายหยัด อาจถูกลูกหลงปืนของเจ้าหน้าที่ก็เป็นได้ หรือไม่ก็เป็นการตั้งใจยิงจากเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เพราะคิดว่าอยู่กลางป่า ชีวิตชาวบ้านไม่มีค่าอะไรก็เป็นได้ การวิสามัญคนคนหนึ่งเป็นเรื่องที่ทำได้ง่าย ถ้าคิดเช่นนี้ บ้านเมืองคงวุ่นวาย

พ.ต.ท.กริชชัย ไพฑูรย์ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี สภ.อ.เมืองแพร่ เปิดเผยว่า ประเด็นการวิสามัญดังกล่าวพนักงานสอบสวนไม่สามารถระบุได้ว่าเกิดอย่างไร ขึ้นอยู่กับผลการสอบสวน ซึ่งขณะนี้ได้ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยได้ส่งศพของนายหยัด ไปตรวจพิสูจน์วิถีกระสุนที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลมหาราช จ.เชียงใหม่ แล้ว และได้ทราบตัวเจ้าหน้าที่ที่เป็นผู้ใช้อาวุธปืนยิงนายหยุดแล้ว คือ นายไชยา ยันยะจันทร์ หัวหน้าสายตรวจ อุทยานแห่งชาติดอยผากลอง ซึ่งจะเป็นวิสามัญฆาตรกรรมหรือไม่คงอยู่ที่ข้อเท็จจริง

นายแพทย์ ยอดปิติ ตั้งตรงจิตร แพทย์เวร โรงพยาบาลแพร่ที่ตรวจชันสูตรศพนายหยด เปิดว่า จากสภาพศพเริ่มแข็งที่ปลายอวัยวะ เช่น ข้อมือ ข้อขา เข่า ส่วนลำคือยังไม่แข็ง สภาพดังกล่าวมั่นใจได้ว่าศพเสียชีวิตมาไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง แต่ไม่ถึง 1 วัน ซึ่งศพดังกล่าวน่าจะถูกยิงในช่วงเช้าของวันที่ 15 กุมภาพันธ์

นายบรรพจน์ ภาคยุทธ พนักงานอัยการประจำสำนักงานจังหวัดแพร่ ผู้ที่เข้าตรวจพิสูจน์ในที่เกิดเหตุตามกฎหมาย กล่าวว่า การเข้าตรวจพิสูจน์เจ้าหน้าที่ป่าไม้แจ้งให้เข้าชันสูตรช้าเกินไป ทำให้ไม่สามารถเดินทางเข้าไปยังจุดเกิดเหตุได้ เนื่องจากเป็นป่าลึก พนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีการประสานงานกรรมการตามกฎหมายกำหนด มีการเคลื่อนย้ายศพโดยพลการ ซึ่งญาติของผู้เสียชีวิตต่างไม่พอใจและมีข้อโต้แย้งว่า ผู้ตายไม่ใช่ผู้กระทำความผิด การทำงานของเจ้าหน้าที่ที่ไม่ทำตามกฎหมายอาจส่งผลให้กับทุกฝ่ายไม่ได้รับความเป็นธรรมเพียงพอ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่ป่าไม้ทำการวิสามัญตั้งแต่เช้า แต่ไม่ติดต่อพนักงานสอบสวน จนเวลา 11.00 น.ของวันที่ 15 กุมภาพันธ์จึงมีการแจ้งตำรวจ ซึ่งในช่วงดังกล่าวจะมีการจัดฉากหรือให้มีการต่อสู้หรือไม่ ซึ่งขณะนี้ญาติของผู้ตาย-ประชาชนใน ต.วังธง รวมทั้งผู้นำชุมชนต่างตั้งข้อสังเกตและไม่พอใจการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ จนในที่สุดญาติ หน่วยกู้ภัยและกำนัน ต.วังธง ต้องเดินเท้าเข้าไปยังที่เกิดเหตุเพื่อให้ความเป็นธรรมกับลูกบ้านของตนเอง