อุบลราชธานี - ชลประทานที่ 7 ขึ้นบัญชี 6 อำเภอเมืองอุบลราชะนี เป็นพื้นที่เฝ้าระวังภัยแล้งรุนแรง พื้นที่เกษตรกว่า 2 แสนไร่ เสี่ยง แนะเกษตรกรวางแผนปลูกพืชให้ดูปริมาณน้ำเป็นตัวชี้วัด
ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ภัยแล้งจังหวัดอุบลราชธานี ยังมีแนวโน้มจะได้รับความเสียหายมากยิ่งขึ้น โดย นายณรงค์ มีพยุง ผู้อำนวยการส่วนจัดสรรน้ำและบำรุงรักษาสำนักชลประทานที่ 7 กล่าวถึงปริมาณน้ำในอ่างเก็บกักน้ำขนาดกลาง 8 แห่ง คือ อ่างหนองช้าง อ่างเก็บน้ำหนองเหล่าหิน อ่างเก็บน้ำสระสมิง อ่างเก็บน้ำห้วยถ้ำแข้ อ่างเก็บน้ำห้วยวังแดง อ่างเก็บน้ำห้วยวังใหญ่ อ่างเก็บน้ำห้วยเดือนห้า อ่างเก็บน้ำห้วยสะพงน้อย
รวมทั้งอ่างเก็บน้ำตามโครงการพระราชดำริ ประกอบด้วย อ่างเก็บน้ำห้วยพลาญเสือ และอ่างเก็บน้ำห้วยจันลา รวมทั้งแหล่งเก็บน้ำขนาดเล็กอีก 10 แห่ง ซึ่งปี 2549 มีปริมาณน้ำในอ่างทั้งหมด 84.09 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่วนปี 2550 มีปริมาณน้ำ 94.83 ล้านลูกบาศก์เมตร
เมื่อเปรียบเทียบระดับน้ำปี 2549 กับปี 2550 ระดับการเก็บกักน้ำไม่แตกต่างมากนัก สำหรับปริมาณน้ำในลำน้ำมูลมีน้ำไหลประมาณ 49 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แต่สภาพความแห้งแล้งจะมีผลกับการเพาะปลูกพืชในฤดูแล้ง
โดยเกษตรกรต้องดูปริมาณน้ำในแหล่งเก็บกักน้ำใกล้เคียงพื้นที่เพาะปลูกมีเพียงพอต่อความต้องการหรือไม่ เพราะหากเกษตรกรปลูกพืชปริมาณมากกว่าน้ำที่มีอยู่จะทำให้ขาดแคลนน้ำและให้ความช่วยเหลือได้ลำบาก
ด้านความพร้อมรับมือภัยแล้งในปีนี้ สำนักชลประทานที่ 7 เตรียมรถบรรทุกน้ำนำน้ำอุปโภคบริโภคแจกให้ประชาชนที่อาศัยอยู่นอกเขตชลประทาน พร้อมทั้งเตรียมเครื่องสูบน้ำใช้สูบน้ำสนับสนุนพื้นที่เพาะปลูกใกล้เคียงแหล่งน้ำให้กับเกษตรกร
ส่วนพื้นที่เพาะปลูกที่อยู่ห่างไกลแหล่งน้ำ หรือนอกเขตชลประทาน และถูกขึ้นเป็นพื้นที่เฝ้าระวังเกิดภัยแล้งรุนแรงประจำปี 2550 มี 6 อำเภอ คือ อำเภอเขมราฐ อำเภอโพธิ์ไทร อำเภอม่วงสามสิบ อำเภอตาลสุม อำเภอวารินชำราบ และอำเภอสำโรง ซึ่งมีพื้นที่ใช้เพาะปลูกพืชไร่ของเกษตรกรกว่า 200,000 ไร่