xs
xsm
sm
md
lg

แม่ทัพภาค 2 บุกตรวจไฟไหม้ ร.ร.ประทายโคราช - มุ่งปมไฟลัดวงจร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ร.ร.รวมมิตรพัฒนา อ.ประทาย จ.นครราชสีมา ต้องทำการหยุดเรียน 1 วัน ให้เด็กนักเรียนกลับบ้าน หลังเกิดเหตุไฟไหม้อาคารวอดทั้งหลังกลางดึก วันนี้ ( 12 ก.พ.)
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ทหารจากกองทัพภาคที่ 2 รุดตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้อาคารเรียนโรงเรียนรวมมิตรพัฒนา เมืองโคราชวอดทั้งหลังกลางดึกที่ผ่านมาเบื้องต้นมุ่งปมไฟฟ้าลัดวงจร ไม่พบคลื่นใต้น้ำในพื้นที่ ผอ.โรงเรียนยันปรับเปลี่ยนสายไฟให้อยู่สภาพดีตลอดและนอนเฝ้าโรงเรียนถึง 9 คนในขณะเกิดเหตุ แต่ยังไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดเพลิงไหม้ขึ้นได้อย่างไร มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นกว่า 4 แสนบาท แม่ทัพภาค 2-ผบช.ภ.3 บุกตรวจที่เกิดเหตุบ่ายวันนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุเพลิงไหม้อาคารเรียนไม้ชั้นเดียวขนาด 5 ห้อง โรงเรียนรวมมิตรพัฒนา บ้านหนองช้างตาย ต.โนนเพ็ด อ.ประทาย จ.นครราชสีมา เสียหายทั้งหลังกลางดึกที่ผ่านมา (11 ก.พ.)

ล่าสุดเมื่อเช้าวันนี้ (12 ก.พ.) เจ้าหน้าที่ทหารจากมณฑลทหารบกที่ 21 (มทบ.21) ค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 อ.เมือง จ.นครราชสีมา นำโดย พ.อ.ศราวุธ มาศิริ หัวหน้ากองข่าว มทบ. 21 และ พ.ท.ไกรเดช แสงสนิท นายทหารสืบสวนสอบสวน มทบ.21 พร้อมเจ้าหน้าที่ทหารรวม 7 นายเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และสอบปากคำผู้อำนวยการโรงเรียนพร้อมพยานที่อยู่ในเหตุการณ์

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตรวจ สภ.อ.ประทาย ได้กั้นบริเวณที่เกิดไฟไหม้ไม่ให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปภายในอย่างเด็ดขาดเพื่อรอเจ้าหน้าที่กองวิทยาการ เขต 22 มาเก็บรวบรวมพยานหลักฐานในช่วงสายวันเดียวกันนี้ โดยชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างเดินทางมาดูที่เกิดเหตุพร้อมกับพูดคุยพิพากษ์วิจารณ์ว่าเหตุการณ์ไฟไหม้โรงเรียนตามที่เป็นข่าวอย่างต่อเนื่องนั้นได้ลุกลามมาถึงหมู่บ้านของพวกเขาแล้ว ขณะที่เด็กๆ นักเรียนเมื่อมาถึงโรงเรียนแล้วต่างตกใจและมายืนมุงดูซากอาคารเรียนที่ถูกเพลิงไหม้เหลือเพียงเถ้าถ่านด้วยความเสียดายและสงสัยสิ่งที่เกิดขึ้น

พ.อ.ศราวุธ มาศิริ หัวหน้ากองข่าว มทบ.21 กล่าวถึงสาเหตุของการเกิดไฟไหม้ในครั้งนี้ว่า เบื้องต้นจากการสอบปากคำผู้อยู่ในเหตุการณ์ของเจ้าหน้าที่ทหารทราบว่ามีความเป็นไปได้หลายประเด็น ทั้งเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร หรือเกิดจากปัจจัยอื่นที่เป็นการกระทำของบุคคล ซึ่งฝ่ายความมั่นคงได้ติดตามหาข่าวในเชิงลึกมาโดยตลอด แต่ไม่พบมีความเคลื่อนไหวทางการเมืองหรือคลื่นใต้น้ำในพื้นที่แต่อย่างใด รวมถึงการแข่งขันทางการเมืองระดับท้องถิ่นก็ไม่ถึงขั้นรุนแรง

ดังนั้น ณ เวลานี้สาเหตุของไฟฟ้าลัดวงจรน่าจะมีน้ำหนักมากที่สุด เพราะทราบว่าช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาทางโรงเรียนได้ทำการเปลี่ยนพัดลมเพดานภายในห้องเรียนชั้นอนุบาลที่เป็นต้นเพลิงโดยใช้ช่างในหมู่บ้าน ซึ่งอาจจะไม่มีความเชี่ยวชาญเพียงพอ แต่ทั้งนี้จะต้องรอการสอบสวนและการพิสูจน์หลักฐานของเจ้าหน้าที่วิทยาการให้แน่ชัดอีกครั้งก่อน

ด้าน นายอำนาจ แสงสุระ ผู้อำนวยการโรงเรียนรวมมิตรพัฒนา เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุเพลิงไหม้ ตนพร้อมครูเวร, เจ้าหน้าที่ตำรวจและชาวบ้านรวม 9 คน ได้เข้าเวรยามรักษาการอยู่ห้องพักครู โดยดูโทรทัศน์อยู่ภายในอาคารที่เกิดไฟไหม้
 
จากนั้นเวลาประมาณ 21.35 น.กระแสไฟฟ้าทั้งโรงเรียนเกิดดับลงอย่างกระทันหัน ทุกคนจึงออกมาด้านนอกห้อง เห็นกลุ่มควันและเพลิงลุกไหม้เกิดขึ้นจากห้องเรียนชั้นอนุบาลที่ล็อกกุญแจเอาไว้อย่างแน่นหนา ซึ่งห้องดังกล่าวถัดจากห้องพักครูที่ตนอยู่ไปประมาณ 3 ห้อง ก่อนจะลุกลามอย่างรวดเร็ว ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีก็ไหม้หมดทั้งหลัง และกว่ารถดับเพลิงของ อบต.ประทายจะเดินทางมาถึงอาคารก็ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมดแล้ว โชคดีที่ไม่ไหม้อาคารเรียนอีกหลังที่ตั้งอยู่ใกล้กัน

“อาคารดังกล่าวสร้างมานานกว่า 40 ปีแล้วมีทั้งหมด 5 ห้อง แบ่งเป็นห้องพักครู 2 ห้อง ห้องเรียนชั้นอนุบาล 1,2 และห้องสมุด 1 ห้อง มีคอมพิวเตอร์ 2 เครื่อง และเอกสารการเรียนการสอนทั้งหมด รวมถึงโต๊ะเก้าอี้ และตู้เก็บเอกสารเสียหายทั้งหมด มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 4 แสนบาท” นายอำนาจ กล่าว

นายอำนาจ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาทางโรงเรียนได้ระมัดระวังและป้องกันเหตุเพลิงไหม้มาโดยตลอด ทั้งการปรับเปลี่ยนสายไฟฟ้า และอุปกรณ์ไฟฟ้าใหม่ทั้งหมด โดยล่าสุดเมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมาก็มีนักเรียนจากวิทยาลัยการอาชีพ อ.พิมาย เข้ามาตรวจสอบสภาพสายไฟ และอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในโรงเรียนให้ ซึ่งทุกอย่างก็อยู่ในสภาพดี และตนมั่นใจว่าไม่ได้เสียบปลั๊กหรือเปิดพัดลมไว้อย่างแน่นอน
 
ฉะนั้น จึงไม่ทราบว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้ได้อย่างไร หากว่ามีคนเข้ามาลอบวางเพลิง ขณะที่เข้าเวรยามกันอยู่ก็ไม่พบว่ามีใครเข้ามาภายในโรงเรียนเลย แต่ในส่วนของโรงเรียนก็ไม่ได้มีรั้วกั้นสามารถเข้าได้หลายทาง อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่ชัดเจนคงต้องรอการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายทหารอีกครั้ง

นายอำนาจ กล่าวอีกว่า ในวันนี้ทางโรงเรียนได้ประกาศหยุดการเรียนการสอนชั่วคราว 1 วันโดยให้นักเรียนเดินทางกลับบ้านทั้งหมด เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวาย เนื่องจากเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายจะมาตรวจสอบที่เกิดเหตุและจะเปิดทำการเรียนการสอนตามปกติในวันพรุ่งนี้ (13 ก.พ.)

ส่วนนักเรียนชั้นอนุบาลที่ห้องเรียนถูกเพลิงไหม้นั้นจะให้ย้ายขึ้นไปเรียนอาคารหลังอื่นโดยจะให้นักเรียนรุ่นพี่ลงมาเรียนชั้นล่างใต้ถุ่นอาคารแทน ในส่วนของอุปกรณ์การเรียนการสอนและเครื่องนอนสำหรับเด็กนักเรียนอนุบาลนั้น ทางจังหวัดจะจัดหามาให้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเฉพาะหน้าไปก่อน

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า บ่ายวันนี้ พล.ท.สุเจตน์ วัฒนสุข แม่ทัพภาคที่ 2 และ พล.ต.ท.สถาพร หลาวทอง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) จะเดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารเรียน โรงเรียนรวมมิตรพัฒนา บ้านหนองช้างตาย ต.โนนเพ็ด อ.ประทาย เพื่อรับฟังรายงานและติดตามความคืบหน้าการสอบสวนด้วยตัวเอง











กำลังโหลดความคิดเห็น