เชียงใหม่ - ทายาทตระกูล “ว่องกุศลกิจ” ขยายชื่อโครงการปาล์มสปริงส์ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในเชียงใหม่ จับที่ดินย่านวงแหวนรอบกลางสร้างบ้านสไตล์อเมริกันโคโลเนียล หวังจับลูกค้าตลาดบน ระบุปิดการขายได้หมดภายในปี 50 พร้อมวอนจังหวัดให้ความสนใจกับระบบการระบายน้ำเหตุไม่ต้องการให้ปัญหาน้ำท่วมเป็นอุปสรรคในการทำตลาด
นายอดิศักดิ์ ว่องกุศลกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปาล์มสปริงส์ เพลซ จำกัด เปิดเผยว่าโครงการปาล์มสปริงส์ คันทรีโฮม เริ่มพัฒนามาตั้งแต่ปลายปี 2548 บนพื้นที่ 32 ไร่ บริเวณติดกับถนนวงแหวนรอบกลาง ต.หนองหอย อ.เมือง เชียงใหม่ ซึ่งเกือบจะอยู่ในแนวเดียวกับโครงการปาล์มสปริงส์โครงการแรกเลยทีเดียว โดยที่ดินผืนนี้ทางกลุ่มได้ซื้อไว้ก่อนที่จะมีการตัดถนนวงแหวน จึงถือเป็นทำเลและเป็นโอกาสที่ดีจึงนำที่ดินผืนนี้มาสร้างมูลค่าเพิ่ม
ทั้งนี้ ได้กำหนดแบบบ้านให้เป็นสไตล์อเมริกันโคโลเนียล จำนวนทั้งสิ้น 113 ยูนิต ราคาขายเริ่มต้นที่ 2.6 ล้านบาท ไปจนถึง 12 ล้านบาท มูลค่าโครงการรวมทั้งสิ้น 135 ล้านบาท โดยเริ่มก่อสร้างเฟสแรกจำนวน 60 ยูนิต ซึ่งได้เปิดขายและมีการจองไปแล้วกว่า 30% ส่วนเฟส 2 ที่เหลืออีกประมาณ 50 ยูนิต จะสามารถเริ่มเปิดขายได้ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2550 และมั่นใจว่าน่าจะสามารถปิดการขายได้หมดภายในปี 2550 โดยมีปัจจัยที่สำคัญจากอัตราดอกเบี้ย ราคาน้ำมัน และสถานการณ์ทางการเมือง อย่างไรก็ตามเชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหา
ส่วนกลุ่มลูกค้าที่เป็นเป้าหมายของโครงการปาล์มสปริงส์ คันทรีโฮมส์ จะมุ่งไปกลุ่มลูกค้าระดับบนที่มีกำลังซื้อค่อนข้างสูง โดยที่ผ่านมาจากการเปิดขายและการจองจองลูกค้าพบว่า 60% เป็นกลุ่มลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศที่เข้ามาอาศัย ทำงานหรือว่าศึกษาต่อในจังหวัดเชียงใหม่ โดยในกลุ่มนี้จะแบ่งเป็นชาวต่างประเทศประมาณ 10% ขณะที่ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 40% นั้น เป็นกลุ่มลูกค้าในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่
ขณะเดียวกัน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปาล์มสปริงส์ เพลซ จำกัด กล่าวถึงจุดแข็งของโครงการล่าสุดของบริษัทฯ เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งโครงบ้านจัดสรรในระดับราคาใกล้เคียงกันว่า ในด้านของคุณภาพบ้าน ทั้งด้านการออกแบบ การก่อสร้าง การเลือกใช้วัสดุ และอุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้านทั้งหมด มั่นใจว่ามีคุณภาพและได้มาตรฐานไม่น้อยไปกว่าบ้านในระดับเดียวกัน อย่างไรก็ตามเชื่อว่าโครงการนี้ข้อจุดเด่นเหนือกว่าอยู่ตรงความโปร่งโล่งของโครงการที่มีจำนวนบ้านไม่แออัดและมีทำเลที่ตั้งอยู่ไม่ห่างจากตัวเมือง รวมทั้งมีสิ่งอำนวยความสะดวก และการรักษาความปลอดภัยที่ได้มาตรฐานระดับสูง
สำหรับปัญหาน้ำท่วมที่เคยเกิดขึ้นบริเวณที่ตั้งโครงการเมื่อปี 2548 นายอดิศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้โครงการได้วางระบบป้องกันแล้วด้วยการทำคันกั้นสูง 80 เซนติเมตรบริเวณลำเหมืองที่ไหลผ่านติดพื้นที่โครงการ พร้อมทั้งสร้างประตูปิด-เปิดระบายน้ำ และเครื่องสูบน้ำ ขณะเดียวกันได้ทำการยกระดับพื้นบ้านให้สูงขึ้นอีก 20 เซนติเมตร จากเดิม 70 เซนติเมตร รวมเป็น 90 เซนติเมตร ซึ่งเมื่อรวมกับระดับของพื้นโครงการที่ยกระดับสูงกว่าพื้นถนนที่ผ่านหน้าโครงการอีก 40 เซนติเมตรแล้วจะทำให้พื้นของบ้านในโครงการสูงจากระดับถนน 1.3 เมตร จึงทำให้มั่นใจได้ว่าหากเกิดน้ำท่วมขึ้น สถานการณ์ที่แย่ที่สุดน่าจะเป็นเพียงน้ำท่วมพื้นถนนเท่านั้น
นอกจากนี้นายอดิศักดิ์ กล่าวถึงโครงการในอนาคตของบริษัทฯ ว่า กำลังพิจารณาและศึกษาความเป็นไปได้ที่จะพัฒนาที่ดิน 9 ไร่ ใกล้โครงการเดิมบนถนนมหิดล เพื่อทำคอนโดมิเนียมหรือทาวน์เฮ้าส์ และกำลังให้ความสนใจที่จะทำโครงการบ้านจัดสรรบนถนนคันคลองชลประทาน โดยเล็งกลุ่มลูกค้าเป้าหมายไปยังกลุ่มผู้ปกครองที่ส่งลูกหลานมาศึกษาต่อในสถาบันการศึกษาที่จังหวัดเชียงใหม่ เช่น มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นต้น โดยมุ่งกลุ่มลูกค้าที่สนใจจะซื้อบ้านอยู่อาศัยเป็นของตัวเองมากกว่าการเช่าอพาร์ทเมนต์หรือหอพัก
อนึ่งบริษัท ปาล์มสปริงส์ เพลซ จำกัด ทำการเปิด ซึ่งทำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่เริ่มทำธุรกิจในจังหวัดเชียงใหม่มาตั้งแต่ปี 2532 และมีผลงานมาแล้ว 5 โครงการ ได้แก่ โครงการปาล์มสปริงส์ เพลซ โครงการปาล์ม สปริงส์ การ์เด้นโฮมส์ โครงการปาล์ม สปริงส์ ทาวน์โฮม โครงการปาล์ม วิลล่า และโครงการปาล์มสปริงส์ พลาซ่า ทำการเปิดตัวบ้านจัดสรรโครงการใหม่ “ปาล์มสปริงส์ คันทรีโฮมส์” ตั้งอยู่บนถนนวงแหวนรอบกลาง ใกล้ถนนซูเปอร์ไฮเวย์เชียงใหม่-ลำปาง ในตำบลหนองหอย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ โดยเป็นบ้านเดี่ยวสไตล์อเมริกันโคโลเนียล เน้นกลุ่มลูกค้าระดับบน
นายอดิศักดิ์ ว่องกุศลกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปาล์มสปริงส์ เพลซ จำกัด เปิดเผยว่าโครงการปาล์มสปริงส์ คันทรีโฮม เริ่มพัฒนามาตั้งแต่ปลายปี 2548 บนพื้นที่ 32 ไร่ บริเวณติดกับถนนวงแหวนรอบกลาง ต.หนองหอย อ.เมือง เชียงใหม่ ซึ่งเกือบจะอยู่ในแนวเดียวกับโครงการปาล์มสปริงส์โครงการแรกเลยทีเดียว โดยที่ดินผืนนี้ทางกลุ่มได้ซื้อไว้ก่อนที่จะมีการตัดถนนวงแหวน จึงถือเป็นทำเลและเป็นโอกาสที่ดีจึงนำที่ดินผืนนี้มาสร้างมูลค่าเพิ่ม
ทั้งนี้ ได้กำหนดแบบบ้านให้เป็นสไตล์อเมริกันโคโลเนียล จำนวนทั้งสิ้น 113 ยูนิต ราคาขายเริ่มต้นที่ 2.6 ล้านบาท ไปจนถึง 12 ล้านบาท มูลค่าโครงการรวมทั้งสิ้น 135 ล้านบาท โดยเริ่มก่อสร้างเฟสแรกจำนวน 60 ยูนิต ซึ่งได้เปิดขายและมีการจองไปแล้วกว่า 30% ส่วนเฟส 2 ที่เหลืออีกประมาณ 50 ยูนิต จะสามารถเริ่มเปิดขายได้ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2550 และมั่นใจว่าน่าจะสามารถปิดการขายได้หมดภายในปี 2550 โดยมีปัจจัยที่สำคัญจากอัตราดอกเบี้ย ราคาน้ำมัน และสถานการณ์ทางการเมือง อย่างไรก็ตามเชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหา
ส่วนกลุ่มลูกค้าที่เป็นเป้าหมายของโครงการปาล์มสปริงส์ คันทรีโฮมส์ จะมุ่งไปกลุ่มลูกค้าระดับบนที่มีกำลังซื้อค่อนข้างสูง โดยที่ผ่านมาจากการเปิดขายและการจองจองลูกค้าพบว่า 60% เป็นกลุ่มลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศที่เข้ามาอาศัย ทำงานหรือว่าศึกษาต่อในจังหวัดเชียงใหม่ โดยในกลุ่มนี้จะแบ่งเป็นชาวต่างประเทศประมาณ 10% ขณะที่ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 40% นั้น เป็นกลุ่มลูกค้าในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่
ขณะเดียวกัน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปาล์มสปริงส์ เพลซ จำกัด กล่าวถึงจุดแข็งของโครงการล่าสุดของบริษัทฯ เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งโครงบ้านจัดสรรในระดับราคาใกล้เคียงกันว่า ในด้านของคุณภาพบ้าน ทั้งด้านการออกแบบ การก่อสร้าง การเลือกใช้วัสดุ และอุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้านทั้งหมด มั่นใจว่ามีคุณภาพและได้มาตรฐานไม่น้อยไปกว่าบ้านในระดับเดียวกัน อย่างไรก็ตามเชื่อว่าโครงการนี้ข้อจุดเด่นเหนือกว่าอยู่ตรงความโปร่งโล่งของโครงการที่มีจำนวนบ้านไม่แออัดและมีทำเลที่ตั้งอยู่ไม่ห่างจากตัวเมือง รวมทั้งมีสิ่งอำนวยความสะดวก และการรักษาความปลอดภัยที่ได้มาตรฐานระดับสูง
สำหรับปัญหาน้ำท่วมที่เคยเกิดขึ้นบริเวณที่ตั้งโครงการเมื่อปี 2548 นายอดิศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้โครงการได้วางระบบป้องกันแล้วด้วยการทำคันกั้นสูง 80 เซนติเมตรบริเวณลำเหมืองที่ไหลผ่านติดพื้นที่โครงการ พร้อมทั้งสร้างประตูปิด-เปิดระบายน้ำ และเครื่องสูบน้ำ ขณะเดียวกันได้ทำการยกระดับพื้นบ้านให้สูงขึ้นอีก 20 เซนติเมตร จากเดิม 70 เซนติเมตร รวมเป็น 90 เซนติเมตร ซึ่งเมื่อรวมกับระดับของพื้นโครงการที่ยกระดับสูงกว่าพื้นถนนที่ผ่านหน้าโครงการอีก 40 เซนติเมตรแล้วจะทำให้พื้นของบ้านในโครงการสูงจากระดับถนน 1.3 เมตร จึงทำให้มั่นใจได้ว่าหากเกิดน้ำท่วมขึ้น สถานการณ์ที่แย่ที่สุดน่าจะเป็นเพียงน้ำท่วมพื้นถนนเท่านั้น
นอกจากนี้นายอดิศักดิ์ กล่าวถึงโครงการในอนาคตของบริษัทฯ ว่า กำลังพิจารณาและศึกษาความเป็นไปได้ที่จะพัฒนาที่ดิน 9 ไร่ ใกล้โครงการเดิมบนถนนมหิดล เพื่อทำคอนโดมิเนียมหรือทาวน์เฮ้าส์ และกำลังให้ความสนใจที่จะทำโครงการบ้านจัดสรรบนถนนคันคลองชลประทาน โดยเล็งกลุ่มลูกค้าเป้าหมายไปยังกลุ่มผู้ปกครองที่ส่งลูกหลานมาศึกษาต่อในสถาบันการศึกษาที่จังหวัดเชียงใหม่ เช่น มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นต้น โดยมุ่งกลุ่มลูกค้าที่สนใจจะซื้อบ้านอยู่อาศัยเป็นของตัวเองมากกว่าการเช่าอพาร์ทเมนต์หรือหอพัก
อนึ่งบริษัท ปาล์มสปริงส์ เพลซ จำกัด ทำการเปิด ซึ่งทำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่เริ่มทำธุรกิจในจังหวัดเชียงใหม่มาตั้งแต่ปี 2532 และมีผลงานมาแล้ว 5 โครงการ ได้แก่ โครงการปาล์มสปริงส์ เพลซ โครงการปาล์ม สปริงส์ การ์เด้นโฮมส์ โครงการปาล์ม สปริงส์ ทาวน์โฮม โครงการปาล์ม วิลล่า และโครงการปาล์มสปริงส์ พลาซ่า ทำการเปิดตัวบ้านจัดสรรโครงการใหม่ “ปาล์มสปริงส์ คันทรีโฮมส์” ตั้งอยู่บนถนนวงแหวนรอบกลาง ใกล้ถนนซูเปอร์ไฮเวย์เชียงใหม่-ลำปาง ในตำบลหนองหอย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ โดยเป็นบ้านเดี่ยวสไตล์อเมริกันโคโลเนียล เน้นกลุ่มลูกค้าระดับบน