สุโขทัย – ผู้ปกครองเด็กนักเรียนโรงเรียนอนุบาลสุโขทัย ยื่นหนังสือร้องเรียนผู้ว่าฯ สอบสวนวินัยครูประจำชั้น ป.6/7 บีบเด็กเรียนพิเศษในหลักสูตรที่ตนเองเปิดสอน
นายสมยศ ศิริล้น อาชีพทนายความได้นำหนังสือเข้าร้องเรียนต่อนายวันชัย สุทิน ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย ผ่านศูนย์ดำรงธรรมฯ เพื่อขอความเป็นธรรม และขอให้สอบสวนทางวินัยนางพีรภาว์ การเที่ยง ครูประจำชั้น ป.6/7 โรงเรียนอนุบาลสุโขทัย
นายสมยศ กล่าวว่า การร้องเรียนครั้งนี้เนื่องจากบุตรสาวของตน ซึ่งเรียนอยู่ชั้นดังกล่าวถูกนางพีรภาว์ครูประจำชั้นกลั่นแกล้งด้วยวิธีการต่างๆ จนทำให้เด็กไม่อยากที่จะไปโรงเรียน
“ก่อนหน้านี้ก็ไม่มีอะไร แต่หลังจากที่ตนยกเลิกไม่ให้บุตรสาวไปเรียนพิเศษกับนางพีรภาว์ ครูประจำชั้น ที่เปิดสอนพิเศษอยู่ข้างโรงเรียนอนุบาลสุโขทัย เพราะไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องเรียน เนื่องจากเด็กเรียนดีอยู่แล้วและสอบติดอันดับต้นๆ หลังจากที่บุตรสาวไม่ไปเรียนพิเศษนางพีรภาว์ ก็มีท่าทีที่เปลี่ยนไป เช่น หาเหตุลงโทษบ่อยครั้ง , ให้ตอบคำถามยากๆ เป็นภาษาอังกฤษโดยที่ตัวเองไม่ได้สอนเด็กมาก่อน , ใช้คำพูดและกิริยาที่ไร้เมตตาต่อเด็ก และไล่เด็กให้ย้ายห้องเรียนหรือย้ายโรงเรียนไปที่อื่น”
นายสมยศ กล่าวอีกว่า มีผู้ปกครองจำนวนมาก ที่ได้รับความเดือดร้อนจากกรณีดังกล่าว และหากเด็กนักเรียนคนใดไม่ไปเรียนพิเศษ ก็จะถูกหาเรื่องบีบคั้นจิตใจเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามตนไม่ได้ต่อต้านการเรียนพิเศษ แต่อยากจะถามหาจิตสำนึกของคนเป็นครู ว่าควรหรือไม่ที่จะปฏิบัติต่อศิษย์ที่เป็นเด็กตัวเล็กๆ ด้วยจิตใจที่โหยหาแต่เงินทองจากการสอนพิเศษดังกล่าว ทั้งนี้หากยังไม่มีความคืบหน้า ตนจะได้ดำเนินการร้องเรียนผู้บังคับบัญชาของนางพีรภาว์ ในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป
นายสมยศ ศิริล้น อาชีพทนายความได้นำหนังสือเข้าร้องเรียนต่อนายวันชัย สุทิน ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย ผ่านศูนย์ดำรงธรรมฯ เพื่อขอความเป็นธรรม และขอให้สอบสวนทางวินัยนางพีรภาว์ การเที่ยง ครูประจำชั้น ป.6/7 โรงเรียนอนุบาลสุโขทัย
นายสมยศ กล่าวว่า การร้องเรียนครั้งนี้เนื่องจากบุตรสาวของตน ซึ่งเรียนอยู่ชั้นดังกล่าวถูกนางพีรภาว์ครูประจำชั้นกลั่นแกล้งด้วยวิธีการต่างๆ จนทำให้เด็กไม่อยากที่จะไปโรงเรียน
“ก่อนหน้านี้ก็ไม่มีอะไร แต่หลังจากที่ตนยกเลิกไม่ให้บุตรสาวไปเรียนพิเศษกับนางพีรภาว์ ครูประจำชั้น ที่เปิดสอนพิเศษอยู่ข้างโรงเรียนอนุบาลสุโขทัย เพราะไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องเรียน เนื่องจากเด็กเรียนดีอยู่แล้วและสอบติดอันดับต้นๆ หลังจากที่บุตรสาวไม่ไปเรียนพิเศษนางพีรภาว์ ก็มีท่าทีที่เปลี่ยนไป เช่น หาเหตุลงโทษบ่อยครั้ง , ให้ตอบคำถามยากๆ เป็นภาษาอังกฤษโดยที่ตัวเองไม่ได้สอนเด็กมาก่อน , ใช้คำพูดและกิริยาที่ไร้เมตตาต่อเด็ก และไล่เด็กให้ย้ายห้องเรียนหรือย้ายโรงเรียนไปที่อื่น”
นายสมยศ กล่าวอีกว่า มีผู้ปกครองจำนวนมาก ที่ได้รับความเดือดร้อนจากกรณีดังกล่าว และหากเด็กนักเรียนคนใดไม่ไปเรียนพิเศษ ก็จะถูกหาเรื่องบีบคั้นจิตใจเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามตนไม่ได้ต่อต้านการเรียนพิเศษ แต่อยากจะถามหาจิตสำนึกของคนเป็นครู ว่าควรหรือไม่ที่จะปฏิบัติต่อศิษย์ที่เป็นเด็กตัวเล็กๆ ด้วยจิตใจที่โหยหาแต่เงินทองจากการสอนพิเศษดังกล่าว ทั้งนี้หากยังไม่มีความคืบหน้า ตนจะได้ดำเนินการร้องเรียนผู้บังคับบัญชาของนางพีรภาว์ ในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป