ศูนย์ข่าวขอนแก่น- “ดร.สุเมธ” แนะนักวิชาการ นักวิจัย และข้าราชการ ในภาคอีสานยึดหลักทางสายกลางเศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ใช้เหตุผลบริหารการใช้ชีวิตให้อยู่ในปานกลาง พอประมาณกับสิ่งที่เราจะทำ เป็นภูมิคุ้มกันตัวที่ดี เพราะโลกเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
วันนี้ (23 ม.ค.) ที่โรงแรม โซฟิเทล ราชา ออคิด คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จัดประชุมสัมมนาวิชาการสัตวศาสตร์ ครั้งที่ 3 เรื่องยุคใหม่กับการเปลี่ยนแปลงปศุสัตว์ไทย นำแนวทางพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระจ้าอยู่หัว ยึดหลักสายกลาง “เศรษฐกิจพอเพียง” มาดำเนินชีวิต โดยมี ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา มาเป็นวิทยากร
ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา มาเป็นวิทยากรในการประชุมสัมมนาวิชาการสัตวศาสตร์ ครั้งที่ 3 และได้นำหัวข้อ การดำเนินชีวิตโดยยึดหลักสายกลาง เศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้แก่นักวิชาการ นักวิจัย และข้าราชการ ที่เข้าร่วมประชุม กว่า 200 คน ได้นำไปปฏิบัติ และเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับชาวบ้านในพื้นที่ภูมิลำเนาของตน และกล่าวถึงหลักปฏิบัติตามเส้นทางสายกลาง ว่า
“ทางสายกลางตามกระแสพระราชดำรัส “เศรษฐกิจพอเพียง” ที่เราจะนำมาใช้ดำเนินชีวิตประกอบด้วย 1.พอประมาณ คือ ดูตนเองว่ามีกำลังแค่ไหน ต้องสู้กับตัวเอง และประเมินว่า เรามีกำลังพอรึเปล่าในการที่จะกระทำการนั้นๆ 2.มีเหตุผล คือ ใช้เหตุผลในการที่จะบริหารการดำเนินชีวิตให้อยู่ในปานกลางพอประมาณกับสิ่งที่เราจะทำ และ 3.ภูมิคุ้มกันตัวที่ดี คือ จะต้องมีการศึกษาความเป็นไปเป็นอย่างๆ ในการที่จะทำสิ่งใด เพราะโลกของเรามีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา” ดร.สุเมธ กล่าวในที่ประชุม และว่า
ปัจจุบันคนเราจะต้องมีชีวิตที่ดี จึงจะมีความสุข มีความนอบน้อมถ่อมตน หักห้ามการโกรธ เน้นการประหยัด ยึดหลักธรรมะ เหมือนที่พระบาทสมเด็จพระจ้าอยู่หัว ที่ว่าเราจะปกครองแผ่นดินโดยธรรม ตามหลักทศพิธราชธรรม แล้วชีวิตจะพบกับความสุข
สำหรับการประชุมวิชาการครั้งนี้ นอกจากหัวข้อ กระแสพระราชดำรัสเศรษฐกิจพอเพียงแล้ว คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ยังได้มีการประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้านวิชาการด้านการปศุสัตว์ระหว่างกัน ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ช่วยส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพวิชาการ และเป็นแนวทางในการนำผลงานนำไปปฏิบัติ เพื่อให้เกิดการพัฒนาด้านการปศุสัตว์ให้ได้มาตรฐานและเป็นที่ยอมรับ
อีกทั้งเพื่อเป็นการพัฒนาด้านการปศุสัตว์ ที่เป็นรากฐานที่สำคัญของประเทศไทย ให้มีศักยภาพเป็นแหล่งผลิตอาหารให้กับประชากรของประเทศ และของโลก รวมทั้งยังเป็นการปรับปรุงคุณภาพชีวิตให้มีความยั่งยืน มั่นคง โดยยึดหลักตามกระแสพระราชดำรัส เศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งเป็นหลักการที่ทุกคนควรต้องศึกษาให้เข้าใจ และนำมาพิจารณาปรับใช้ให้เหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลงยุคใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
วันนี้ (23 ม.ค.) ที่โรงแรม โซฟิเทล ราชา ออคิด คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จัดประชุมสัมมนาวิชาการสัตวศาสตร์ ครั้งที่ 3 เรื่องยุคใหม่กับการเปลี่ยนแปลงปศุสัตว์ไทย นำแนวทางพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระจ้าอยู่หัว ยึดหลักสายกลาง “เศรษฐกิจพอเพียง” มาดำเนินชีวิต โดยมี ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา มาเป็นวิทยากร
ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา มาเป็นวิทยากรในการประชุมสัมมนาวิชาการสัตวศาสตร์ ครั้งที่ 3 และได้นำหัวข้อ การดำเนินชีวิตโดยยึดหลักสายกลาง เศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้แก่นักวิชาการ นักวิจัย และข้าราชการ ที่เข้าร่วมประชุม กว่า 200 คน ได้นำไปปฏิบัติ และเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับชาวบ้านในพื้นที่ภูมิลำเนาของตน และกล่าวถึงหลักปฏิบัติตามเส้นทางสายกลาง ว่า
“ทางสายกลางตามกระแสพระราชดำรัส “เศรษฐกิจพอเพียง” ที่เราจะนำมาใช้ดำเนินชีวิตประกอบด้วย 1.พอประมาณ คือ ดูตนเองว่ามีกำลังแค่ไหน ต้องสู้กับตัวเอง และประเมินว่า เรามีกำลังพอรึเปล่าในการที่จะกระทำการนั้นๆ 2.มีเหตุผล คือ ใช้เหตุผลในการที่จะบริหารการดำเนินชีวิตให้อยู่ในปานกลางพอประมาณกับสิ่งที่เราจะทำ และ 3.ภูมิคุ้มกันตัวที่ดี คือ จะต้องมีการศึกษาความเป็นไปเป็นอย่างๆ ในการที่จะทำสิ่งใด เพราะโลกของเรามีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา” ดร.สุเมธ กล่าวในที่ประชุม และว่า
ปัจจุบันคนเราจะต้องมีชีวิตที่ดี จึงจะมีความสุข มีความนอบน้อมถ่อมตน หักห้ามการโกรธ เน้นการประหยัด ยึดหลักธรรมะ เหมือนที่พระบาทสมเด็จพระจ้าอยู่หัว ที่ว่าเราจะปกครองแผ่นดินโดยธรรม ตามหลักทศพิธราชธรรม แล้วชีวิตจะพบกับความสุข
สำหรับการประชุมวิชาการครั้งนี้ นอกจากหัวข้อ กระแสพระราชดำรัสเศรษฐกิจพอเพียงแล้ว คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ยังได้มีการประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้านวิชาการด้านการปศุสัตว์ระหว่างกัน ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ช่วยส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพวิชาการ และเป็นแนวทางในการนำผลงานนำไปปฏิบัติ เพื่อให้เกิดการพัฒนาด้านการปศุสัตว์ให้ได้มาตรฐานและเป็นที่ยอมรับ
อีกทั้งเพื่อเป็นการพัฒนาด้านการปศุสัตว์ ที่เป็นรากฐานที่สำคัญของประเทศไทย ให้มีศักยภาพเป็นแหล่งผลิตอาหารให้กับประชากรของประเทศ และของโลก รวมทั้งยังเป็นการปรับปรุงคุณภาพชีวิตให้มีความยั่งยืน มั่นคง โดยยึดหลักตามกระแสพระราชดำรัส เศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งเป็นหลักการที่ทุกคนควรต้องศึกษาให้เข้าใจ และนำมาพิจารณาปรับใช้ให้เหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลงยุคใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป