xs
xsm
sm
md
lg

กรมวิชาการเกษตรเปิดศูนย์ข้อมูลยางแห่งแรกหนองคาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์เรียนรู้ยางพาราแห่งแรกได้เปิดขึ้นแล้วในจังหวัดหนองคาย เพื่อเป็นศูนย์กลางพบปะแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างเกษตรกรผู้ปลูกยางพาราด้วยกัน
หนองคาย-กรมวิชาการเกษตร เปิดศูนย์เรียนรู้ยางพาราโดยมีส่วนร่วมของเกษตรกรแห่งแรกของประเทศไทย ที่จังหวัดหนองคาย เป็นแหล่งให้ข้อมูลเกษตรกร แก้ปัญหาด้านยางพาราครบวงจร เผยพื้นที่หนองคายการเพาะปลูกมาก ผลผลิตได้คุณภาพทัดเทียมส่งออก

ที่ศูนย์วิจัยยางหนองคาย ได้มีพิธีเปิดศูนย์เรียนรู้ยางพาราโดยมีส่วนร่วมของเกษตรกรจังหวัดหนองคายแห่งแรกของประเทศไทย โดยมีนายปรีชา เชยชุ่ม ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 3 จังหวัดขอนแก่น กรมวิชาการเกษตร เป็นประธานในพิธีเปิดเพื่อเป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ พบปะพูดคุยปัญหาของเกษตรกรชาวสวนยางพาราที่ยังไม่ชำนาญได้เรียนรู้ศึกษา เพื่อนำไปปฏิบัติให้ได้ผลผลิตน้ำยางที่ดีขึ้น

จังหวัดหนองคายปัจจุบันมีพื้นที่ปลูกยางพาราประมาณ 7 แสนไร่ เป็นพื้นที่ที่ปลูกยางตั้งแต่ปี 2521 ได้ทดลองปลูกยางในพื้นที่ประมาณ 10 ไร่ ในนิคมเปงจาน ปลูกยาง 5 สายพันธุ์ ได้แก่ GT1, RRIM600, PB5/51, PB28/59 และ Tjir 1 โดยปลูกด้วยวัสดุติดตาในแปลง และต้นตอตา

ผลจากการปลูกพบว่าได้ผลดี จึงได้เริ่มจัดตั้งสถานีทดลองยางขึ้นและพัฒนาเป็นศูนย์วิจัยยางหนองคาย ตั้งแต่ 17 ม.ค.2539 เป็นต้นมา เพื่อเป็นศูนย์รวมของการทดลองยางและขยายพื้นที่ปลูกยางในภูมิภาคนี้ เพื่อยกระดับรายได้และความมั่นคงให้แก่เกษตรกรในแหล่งปลูกยางใหม่ระยะที่1 หรือ โครงการยางล้านไร่ ซึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนืออนุมัติให้ขยายพื้นที่ปลูกยางได้อีก 7 แสนไร่ และภาคเหนืออีก 3 แสนไร่

รวมทั้งโครงการปลูกยางในแต่ละจังหวัดที่เรียกว่า ยาง CEO แต่เกษตรกรเกือบทั้งหมดที่เข้าร่วมโครงการล้วนแล้วแต่เป็นเกษตรกรที่ไม่เคยมีประสบการณ์ในการปลูกสร้างยางมาก่อน
จึงขาดความรู้ ความเข้าใจในการปลูกและจัดการสวนยางที่ถูกต้อง เลือกใช้พันธุ์ยางดีที่ให้ผลผลิตสูง เหมาะกับสภาพแวดล้อม

จึงได้มีการจัดตั้งศูนย์เรียนรู้อย่างมีส่วนร่วมของเกษตรกรขึ้นในหน่วยงานของกรมวิชาการเกษตรที่อยู่ในพื้นที่ปลูกยางพาราภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ โดยการถ่ายทอดจะเป็นไปในลักษณะร่วมคิดร่วมทำ เรียนรู้จากประสบการณ์จริงทุกขั้นตอนของการปลูกสร้างสวนยาง

นายปรีชา เชยชุ่ม ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 3 จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้มีการปลูกยางพาราทดแทนป่าที่ถูกแผ้วถาง ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นและยั่งยืน ตลาดยางพาราในอนาคตคาดว่าจะยังไป
ได้ไกล แต่ราคายางอาจจะทรงตัวเท่ากับที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

ขณะนี้พบว่าประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะที่วังเวียง และหลวงพระบาง สปป.ลาว มีการปลูกยางพารากันเพิ่มมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อผลผลิตน้ำยางของไทย เนื่องจากลาวขายให้กับจีนในบางส่วน ส่วนยางในพื้นที่ จ.หนองคาย คุณภาพของยางค่อนข้างดีเนื่องจากปริมาณน้ำฝนไม่มากเหมือนภาคใต้ แต่เกษตรกรจะต้องมีการพัฒนาด้านฝีมือการกรีดยางให้ดีขึ้น เพิ่มประโยชน์จากยางพารา ให้เป็นแหล่งเก็บน้ำและเสริมสร้างการแปรรูปยางพาราให้ดีขึ้นในอนาคต
กำลังโหลดความคิดเห็น