นครปฐม - ตำรวจภาค 7 นำสองมือปืนยิงเจ้าหน้าที่ที่ดินเมืองนครปฐม สาหัส ก่อนชิงเงินหลบหนี นำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ท่ามกลางไทยมุง และกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลเข้ม ชี้ พฤติกรรมเหมือนยิงเจ้าหน้าที่ธนาคารออมสิน สาขาบ้านแพร้ว มีคนในเป็นตัวชี้เป้า
วันนี้ (5 ม.ค.) เวลา 14.30 น. พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.ภ.7 พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุชัย สุพันธ์โพธาราม รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.โสภณ พิสุทธิวงษ์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.เรวัช กลิ่นเกสร รอง ผบก.ศสส.ภ.7 พ.ต.อ.สมชาย รักเสนาะ ผกก.ศสส.ภ.7 และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน นำตัวนายชำนาญ อินทร์มณี อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27 ม.11 ต.คลองจินดา อ.สามพราน จ.นครปฐม และนายหิรัญ หรือ เบิร์ด ปานกลิ่นพุฒ อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 44 ม.4 ต.ไทยาวาส อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ผู้ต้องหาตามหมายจับจากศาลจังหวัดนครปฐม
ในข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธปืนยิงทำร้ายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยมีและใช้ยานพาหนะในการกระทำความผิดมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพหลังถูกติดตามจับกุมได้ขณะหลบหนี
พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวว่า ในการติดตามจับกุมคนร้ายดังกล่าว สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 10 ต.ค.2549 เวลาประมาณ 15.30 น.ขณะที่ นายโกวิทย์ สีทาบูราณ อายุ 39 ปี ตำแหน่งพนักงานขับรถกรมที่ดินสำนักงานที่ดินจังหวัดนครปฐม สาขานครชัยศรี อยู่บ้านเลขที่ 91/1 ม.3 ต.ลานตากฟ้า อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม และนางสาวสุพิศ นธีนาม อายุ 44 ปี ตำแหน่งเจ้าหน้าที่บริหารงานการเงินบัญชี 5 อยู่บ้านเลขที่ 525 ม.6 ต.หอมเกร็ด อ.สามพราน จ.นครปฐม กำลังนำเงินสดจำนวน 115,348 บาท และเช็คเงินสด 2 ใบ มูลค่า 1,581,563 บาท ของสำนักงานที่ดิน เพื่อจะไปฝากธนาคารกรุงไทยสาขานครชัยศรี
ได้มี นายหิรัญ ปานกลิ่นพุฒ ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อคาวาซากิ สีเขียวม่วง หมายเลขทะเบียน กมฉ 937 นครปฐม โดยมี นายชำนาญ อินทร์มณี คนซ้อนท้ายได้ใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม.จ่อยิงนางสาวสุพิศ จำนวน 2 นัดเข้าที่บริเวณ แขนซ้าย และไหปลาร้าขวา และชิงกระเป๋าเงินที่ถืออยู่ จากนั้นได้ใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกันยิงใส่นายโกวิทย์ เข้าที่บริเวณหน้าอก 1 นัด เหตุเกิดที่บริเวณถนนพุทธมลมณฑล สาย 8 หน้าโรงงานดัชมิลค์ ม.3 ต.นครชัยศรี อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ก่อนหลบหนีไป
กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบหาข้อมูลและติดตามคนร้ายทั้งสองคนได้ขณะหนีกบดานอยู่ในบ้านพัก โดยได้ของกลางอาวุธปืนขนาด 9 มม.ที่ใช้ก่อเหตุพร้อมแมกกาซีน 1 กระบอก รถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ บัตรเอทีเอ็ม ธนาคารกรุงไทย ของ นางสุพิศ ผู้เสียหาย จำนวน 1 ใบ และอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในการก่อเหตุหลายรายการ
โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้เป็นผู้ลงมือก่อเหตุในการบุกยิงเจ้าทุกข์และชิงทรัพย์ทั้งหมดจริง โดยประสงค์ต่อทรัพย์ ซึ่งเงินสดที่ได้มานายชำนาญได้นำไปทั้งหมด และแบ่งค่าขับขี่รถจักรยานยนต์ คือ นายหิรัญ เป็นเงิน 6 พันบาท นอกจากนี้ ยังได้ให้การซักทอดถึงคนชี้เป้าในการลงมือก่อเหตุอีก 1 คน ซึ่งเป็นภรรยาของนายช่างรังวัดประจำสำนักงานที่ดินเดียวกัน โดยได้รับเงินส่วนแบ่งจากการก่อเหตุครั้งนี้ไปครึ่งหนึ่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งติดตามตัวแต่ไหวตัวไปก่อนและหลบหนีไปแล้ว โดยจะมีการติดตามจับกุมตัวต่อไป
ส่วน นายโกวิทย์ สีทาบูราณ อายุ 39 ปี พนักงานขับรถที่ถูกก่อเหตุ บอกว่าในครั้งนี้ที่ตนเองเชื่อว่าที่รอดมาได้เป็นเพราะบารมีของเหรียญเต่า ของหลวงพ่อหลิว วัดไร่แตงทอง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม รุ่น ปิดทองฝังลูกนิมิต ปี 47 ที่ตนเองห้อยคอติดตัวอยู่ในวันนั้น พร้อมกับโชว์เหรียญที่ห้อยคอให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดู ท่ามกลางความสนใจของเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่ไม่น้อย